สตีฟ แม็คมาน ตำนานหงส์แดงยุค 80’
สตีฟ แม็คมาน ตำนานหงส์แดงยุค 80’
หากจะกล่าวถึงตำนานนักเตะของลิเวอร์พูลในช่วงทศวรรษที่ 1980-1990 นักเตะที่โดดเด่นหนึ่งรายที่อยู่ในความทรงจำของแฟนบลอลิเวอร์พูล ยุคนั้นก็คงมีชื่อ สตีฟ แม็คมาน ติดอยู่ในโผอันรดับต้นอยู่แล้ว เขาพา ลิเวอร์พูลคว้าดับเบิ้ลแชมป์ในปี 1989 และฝากผลงานที่ยอดเยี่ยมจนนับไม่ถ้วนจนถึงช่วงสุดท้ายในการค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์
สตีฟ แม็คมาน เกิดเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 1961 เขาเล่นในตำแหน่งกองกลางในช่วงปี 1979-1998 แต่ช่วงเวลาที่โดดเด่นที่สุดในชีวิตการค้าแข้งของเขาคือการเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ในช่วงปลายทศวรรษ 80 แม็คมาน มีชื่อติดอยู่ในอันดับที่ 42 จากผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาล 100 คน ที่ถูกโหวตโดยเหล่าผู้สนับสนุนสโมสรอย่างแฟน ๆ “เดอะ ค็อป” นอกจากนั้นเขายังเคยเล่นให้กับ เอฟเวอร์ตัน, แอสตัน วิลล่า และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งหลังจากที่เขาประกาศแขวนสตั๊ดแล้ว ก็ได้เริ่มต้นงานโค้ชชิ่งและอาชีพผู้จัดการทีมกับสโมสร สวินดอน ทาวน์ เอฟซี ตามมาด้วยสโมสร แบล็คพูล เอฟซี ซึ่งเขาสามารถพาทั้งสองทีมเลื่อนชั้นได้สำเร็จอีกด้วย และหลังจากนั้น เขาก็ได้รับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมในระยะเวลาสั้น ๆ ให้กับสโมสร เพิร์ธ กลอรี่ ใน เอ ลีก ออสเตรเลีย ปัจจุบันเขาได้ผันตัวไปเป็นผู้สันทัดกรณีให้กับ อีเอสพีเอ็น สตาร์สปอร์ตส์ ของภูมิภาคเอเชีย
ประวัติการค้าแข้ง
แม็คมานเริ่มต้นฟุตบอลอาชีพด้วยการลงเล่นให้กับสโมสร เอฟเวอร์ตัน ในปี 1979 เขาได้รับการสนับสนุนที่ดีจากทีมในฐานะของผู้เล่นดาวรุ่ง หลังจากที่เขาปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในบทบาทของเด็กเก็บบอล เขาลงสนามเป็นเกมแรกให้กับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 1980 ในเกมที่เอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-1 และจากผลงานที่ยอดเยี่ยม แม็คมานได้รับการไว้วางใจให้เป็นกัปตันทีม หลังจากผ่านไป 4 ฤดูกาล เขาลงสนามไปทั้งสิ้น 100 เกมลีกและซัดไป 11 ประตูในลีก ก่อนที่เจ้าตัวจะเก็บข้าวของย้ายออกไปซบอกสโมสร แอสตัน วิลล่า ในที่สุด
ร่วมทัพ แอสตัน วิลล่า ในปี 1983 แม็คมาน ร่วมทัพ “สิงห์ผงาด” เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 1983 ด้วยค่าตัว 175,000 ปอนด์ และเปิดตัวเป็นครั้งแรกต่อหน้าแฟน ๆ ในเกมลีก เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 1983 ในเกมที่สามารถเอาชนะ เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน 4-3 ณ สนาม วิลล่า พาร์ค แะลในฤดูกาลนั้น วิิล่า จบอันดับที่ 10 ในฤดูกาล ตามมาด้วยฤดูกาล 1984-85 ยิ่งแย่ไปกว่านั้นเมื่อ แอสตัน วิลล่า จบซีซั่นด้วยอันดับที่ 10 อีกครั้ง
และในที่สุด แม็คมาน ได้ตกลงสัญญาเข้าร่วมสโมสร ลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 12 กันยายน 1985 ด้วยค่าตัว 350,000 ปอนด์ และยังเป็นการเสริมทัพรายแรกของการเข้ามาคุมทีมของกุนซือคนใหม่อย่าง เคนนี่ ดัลกลิช เขาถูกส่งลงสนามทันที หลังจากเซ็นสัญญาได้เพียงแค่สองวัน เมื่อวันที่ 14 กันยายน 1985 ในเกมลีก ที่เสมอกับ อ็อกฟอร์ด ยูไนเต็ด 2-2 ณ สนาม เมเนอร์ กราวน์ด และสำหรับประตูแรกของเขาไม่ต้องรอนานเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ให้หลัง เมื่อวันที่ 21 กันยายน 1985 ในเกมพบกับอดีตต้นสังกัดเก่าอย่าง เอฟเวอร์ตัน ซึ่งเขายิงประตูที่สามในนาทีที่ 42 ให้ ลิเวอร์พูล ทุบคู่แข่งสำคัญไปได้ 3-2
เขาเป็นผู้เล่นตัวสำคัญของ ลิเวอร์พูล ที่มีส่วนร่วมกับทีมในการคว้าดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาลนั้น ด้วยการความแชมป์ลีกสูงสุด และแชมป์ เอฟเอ คัพ ที่เอาสามารถชนะ เอฟเวอร์ตัน ไปได้ 3-1
ในปีต่อมา แม็คมาน ได้รับโอกาสสูงสุดในการลงเล่นที่สนาม เวมบลีย์ ในเกม ลีก คัพ รอบชิงชนะเลิศ พบกับ อาร์เซน่อล ซึ่งเขาผ่านบอลให้กับ เอียน รัช ทำประตูแรกของเกมได้สำเร็จ แต่สุดท้ายพวกเขาต้องพ่ายไปอย่างน่าเสียดาย 1-2 และในท้ายที่สุด เขายิงรวม 9 ประตูในฟุตบอล ลีก คัพ ฤดูกาลนั้น และ 5 ประตูในลีก รวมทั้งหมด 14 ลููกในทุกรายการในฤดูกาลนั้น
ในปี 1989 แม็คมาน มีส่วนช่วยให้ ลิเวอร์พูล ไล่ล่าดับเบิ้ลแชมป์อย่าง ลีกสูงสุด และ เอฟเอ คัพ เขาต้องการที่จะนำถ้วยรางวัลที่เก่าแก่กลับไปยังถิ่น แอนฟิลด์ เพื่ออุทิศให้กับแฟนบอล 96 ท่านที่เสียชีวิตในเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ ฮิลส์โบโร่
ต่อมา แกรม ซูเนสส์ ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ในปี 1991 และเขาได้ยกเลิกข้อตกลงกับเหล่าบรรดาผู้เล่นซีเนียร์บางคนของทีมในทันที ซึ่งก็รวมไปถึงเขาด้วย และ ซูเนสส์ ตัดสินใจขาย แม็คมาน, ฮิวตัน, เบียร์ดส์ลี่ย์ และ สตีฟ สตวนตัน นับว่าเป็นปล่อยตัวผู้เล่นที่ดีที่สุดของ ลิเวอร์พูล ภายใต้การทำทีมของ ดัลกลิช หลังจากที่เขาเล่นไป 15 เกมในฤดูกาล 1991-92 แม็คมาน ก็ย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 900,000 ปอนด์ ในวันที่ 24 ธันวาคม 1991 หลังจากที่เขาลงรับใช้ “หงส์แดง” ยาวนานกว่า 277 เกม และยิงรวมทั้งสิ้น 50 ประตู
แม็คมาน ย้ายเข้าสู่สโมสรสุดท้ายในชีวิตการค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 1991 เขาลงสนามให้ “ซิตี้” 87 เกมในลีก และสุดท้าย แม็คมาน ประกาสแขวนสตั๊ดในปี 1994 ก่อนที่เขาจะผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีมในเวลาต่อมา
สตีฟ แม็คมาน ถือว่าเป็นนักเตะทีอยู่ในยุคเฟื่องฟู ของลิเวอร์พูล ซึ่งการพาทีมคว้าแชมป์ลีกถึง 3 สมัย แชมป์, เอฟเอ คัพ 2 สมัยและเอฟเอ ชาร์ลิตี้ ชิลด์ อีก 4 สมัย นั้น เป็นช่วงชีวิตการค้าแข้งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดจากทั้งหมด 4 สโมสร ที่เข้าคว้าแข้งอยู่ด้วย
ที่มา fifa55