สภาเมืองลิเวอร์พูล เปิดเผยว่าได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล และมหาวิทยาลัยจอห์น มัวร์ส เปิดการสืบสวนว่าเกมระหว่างลิเวอร์พูลกับแอตเลติโก มาดริด ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วงเดือน มี.ค. ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสเป็นอย่างยิ่งภายในเมืองใช่หรือไม่

เกมดังกล่าวมีขึ้นวันที่ 11 มี.ค. ที่แอนฟิลด์ โดยมีแฟนบอลกว่า 52,000 คนเข้าชมเกม และในอีก 10 วันต่อมารัฐบาลอังกฤษ ได้สั่งแบนห้ามการแข่งขันกีฬาทุกชนิดเพราะไวรัสแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

สตีฟ โรเธอร์แฮม สมาชิกสภาเมืองได้ยื่นคำร้องให้จอห์น แอนเดอร์สัน นายกเทศมนตรีลิเวอร์พูล ทำการสืบสวนเรื่องดังกล่าว โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยท้องถิ่น เพื่อให้ได้ข้อสรุปของผลกระทบจากแมตช์นั้น

โฆษกสภาพเมืองกล่าวว่า"สภาเมืองลิเวอร์พูล ร่วมกับมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล และมหาวิทยาลัยจอห์น มัวร์ส เห็นชอบที่จะตรวจสอบผลกระทบใดๆ ของโควิด-19 ซึ่งเป็นผลมาจากเกมของแอตเลติโก มาดริด ที่แอนฟิลด์ เมื่อวันที่ 11 มี.ค."

"ทีมงานสาธารณสุขของสภาเมืองลิเวอร์พูล พร้อมกับผู้ร่วมงาน กำลังประเมินขนาดและขอบเขตของโครงการนี้"

"ระหว่างที่เมืองกำลังโฟกัสไปยังการรับมือกับการระบาดใหญ่นั้น ทำให้ไม่มีการกำหนดระยะเวลาหรือวันเวลาในการเสร็จสิ้นการทำงาน รวมถึงวันเวลาที่ต้องส่งรายงาน"

การแพร่ระบาดของโควิด-19 พุ่งขึ้นสูงมากภายหลังจากจบเกมดังกล่าว 3 สัปดาห์ โดยสาวก "ตราหมี" ขนกองเชียร์กว่า 3,000 คนมาจากเมืองกระทิงในวันดังกล่าว

ในตอนนั้น สเปนสั่งปิดเมืองบางส่วนไปแล้วเพราะเจอการระบาดอย่างหนัก โดยวันที่ 13 มี.ค. ก็มีประกาศเลื่อนเกมพรีเมียร์ลีกออกไป ขณะที่ลา ลีกา ให้ลงเตะแบบปิดสนามในวันถัดมา

สำหรับภายในเมืองแห่งลุ่มน้ำเมอร์ซี่ย์ไซด์นั้น มีผู้ติดเชื้อไวรัส 1,250 คน และเสียชีวิตมากกว่า 270 ราย

นี่แหละ "ความโง่ที่แท้จริงของผู้นำ" #ผนงรจตกม นี่มันเหมาะกับ รัฐบาลอังกฤษที่สุดแล้ว
ทั้งๆที่ตอนนั้น เมืองมาดริด คือ CENTER ของการระบาดในสเปนแท้ๆ คุณยังปล่อยให้แฟนบอลทีมเยือนเข้ามาได้เสรี

ทำซ่าส์ไม่กลัว จะทำ Herd Immunity แล้วก็เละ เละจนไม่กล้าทำต่อ ตัวเองเข้าICU กลับลำกลางทาง มาเลือกวิธีปกติ แต่ตัวเลขมันไปไกลแล้วไง เตียงวิกฤติไม่เพียงพอ โอกาสรักษาให้หายก็ยากแล้ว จำนวนคนตายก็รอดยาก

(คิดดูว่า จนป่านนี้ ติดเป็นแสนคน รักษาหายได้แค่หลักร้อยคน)

เห็นด้วยว่าไม่ควรแข่งตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เมืองมาดริดระบาดยุจะไม่ติดได้ไง แพ้ไม่เสียใจ แต่เสียใจที่ว่าควรแข่งสนามปิดมากกว่า

ไม่คุ้มเลยเอาจริงๆ

Uk
ติดเชื้อ​ 143,464
ยังรักษา​อยู่​ 123,614
ตาย 19,506
รักษา​หาย 344 !!!!!

เละเทะมากๆ

มองความเละเทะของฝรั่งและสิงคโปร์​แล้วแบบ....
คนไทยควรภูมิใจ​กับประเทศไทย​เรานะ

หรืออย่างน้อยควรห้ามแฟนบอลสเปนเข้ามาครับ

ตอนนั้นที่อังกฤษไม่ทันระบาดเท่าไหร่เลยย่ามใจ

แต่ดันให้แฟนบอลจากสเปนที่ตอนนั้นระบาดหนักมาแล้ว เข้าประเทศมาชมเกม

นั่นแหละ จุดทำให้เริ่มระบาดหนักเลย

แล้วถ้าได้ข้อสรุปจะเกิดอะไรขึ้นตามมา...ฟ้องร้องกับสภาเมืองได้แบบนี้หรอ

ผมสงสัยยอดรักษาหายมากเลย มันน้อยแบบน้อยเกิ้น มันควรจะ panic ได้แล้วนะ อันนี้เหมือนจะหาทางคลายมาตรการอยู่เลย ยอดหายหลักร้อย ยอดตายหลักหมื่น ติดเชื้อหลักแสน

ก็ไม่น่าให้แฟนแอตเข้ามาเลย อาจะเตะแบบปิดไม่มีคนเลยความเสียหายน่าจะลดลงมากกว่านี้

ถ้าเอาตามตรรกะนี้ ตอนนี้เราก็ไม่ควรสนับสนุนให้พรีเมียร์ให้กลับมาลงเตะใช่มั้ยพี่โทนี่

ต่อให้เตะสนามปิด แต่โดยนิสัยคนอังกฤษเวลามีบอลเตะ ก็มักจะไปรวมตัวกันดื่มเบียร์ที่บ้านใครสักคน

พนักงานที่สนามมาทำงาน มีการเดินทาง ก็มีโอกาสแพร่เชื้อ เพราะตอนนี้อังกฤษระบาดหนักมาก ให้กลับมาเตะตอนนี้คนต้องด่าว่าโง่อีกสิ

ก่อนเตะมีสักเพจโพสต์อยู่เหมือนกันว่าน่าห่วงมาก

เพราะมาดริดเป็นศูนย์กลางการแพร่เชื้อแห่งหนึ่งที่สเปนแล้ว แต่ยูฟ่ายังให้เตะอยู่ แล้วแฟนบอลก็มากันหลายพัน ในสนามรวมๆกันแล้วครึ่งแสน

เอาจริงๆจะเอาผิดสโมสรอย่างเดียวไม่ได้หรอกครับ ต้องโทษยูฟ่าที่ไม่ยอมเลื่อนมากกว่า มันไม่ใช่แค่ตัวจุดระเบิดไวรัสในลิเวอพูลเมืองเดียวนะ เกมอตาลันตาก็เป็นตัวจุดชนวนในอิตาลี ผมว่ายูฟ่าจัดการเรื่องนี้ได้แย่มากและไม่มีการระวังอะไรเลย

มันใช่หรอ ณตอนๆหา่กมาดริดเป็น ศูนย์การแพร่ระบาดหนักจริงๆ ทำไมเกมสุดสัปดาห์ แอตมาดริดเจอเซบีย่ายังเปิดให้แฟนเข้าชม เอาจริงๆตอนนั้นคนในเมือง มาดริด ติด60กว่าคนได้ ในสเปนติด 500-600คน ส่วนอังกฤษ น่าจะ200-300 แล้วยูฟ่าไม่ได้ประกาศเลื่อนเกม เลยแข่งแบบเปิดสนาม มี2คู่ในสัปดาห์เดียวกันที่แข่งปิดสนาม คือคู่ปารีส กับคู่ บาเลนเซีย แต่แข่งแบบปิดสนาม หากแฟนบอลแห่กันไปรวมตัวหน้าสนามแบบ2คู่นั้นจะทำไง โดนด่าหนักกว่าเดิมอีกดิ

ขอเสนอให้โมฆะเกมนัดนี้ไปครับ
แล้วไปแข่งกันใหม่ครับ
ล้อเล่นนะ 555