ป4 ก็อายุ10ขวบ



งี้ท่านก็อายุ ก่อนถึงดอนเมืองสินะ

2ขวบ2เดือนอยู่เลย 5555

จำได้แต่เพลงนี้ครับ มันนานมากจริงๆ ตอนนั้นรู้สึกจะซื้อเทปไว้ด้วย https://www.youtube.com/embed/7YF49RWif94

ผมเกิดปี 1972 เพราะฉะนั้น บอลโลก 90 ทันแน่นอน จริงๆ ดูตั้งแต่ 86 แล้วด้วย

ปี 90 เยอรมันตะวันตกสมควรได้แชมป์ เพราะฟอร์มและมาตรฐานดีตลอดทัวนาเมนต์

ในปี 86 เยอรมันตะวันตกเข้าชิงนั้นกระท่อนกระแท่นจนมาชิงกับอาเจนติน่าและแพ้ไป 2-3

โดนอาเจนยิงนำไปก่อน 2-0 แล้วมาตีเสมอ 2-2 แต่ มารโดน่าจ่ายให้บูโรชาก้ายิงชนะไป 3-2


แต่ในปี 90 ที่อิตาลีนั้น ทีมเต็งไม่ใช่เยอรมันแต่เป็น อิตาลี บราซิล และฮอลแลนด์แชมป์ยูโร88 ที่มี 3 ทหารเสือจากมิลาน

อิตาลีมี โรแบโต้ บักใจ้ นักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลกขณะนั้น(8 ล้านปอนด์)

ส่วนบราซิลนั้นเต็งทุกปีอยู่แล้ว และทั้งอิตาลีและบราซิลในรอบแรก ชนะรวดทั้ง 3 นัด เข้ารอบเป็นที่ 1 สบายๆ

อาร์เจนติน่าแชมป์เก่าฟอร์มกระท่อนกระแท่น นัดแรกก็แพ้แคแมรูน(ดูสดจำได้เลย) ผ่านรอบแรกมาแบบ ชนะ1เสมอ1 แพ้1 เป็นที่ 3 ในกลุ่มเกือบไม่เข้ารอบ

รอบ 16 ทีม บราซิลเต็งแชมป์เจออาร์เจนติน่า ตามหน้าเสื่อตอนนั้นบราซิลเหนือกว่าเยอะ แต่ในการแข่งขัน อาร์เจนตั้งรับแล้วสวนกลับทั้งเกม

มีไม่กี่ครั้งที่ได้สวนด้วย แล้วหนึ่งในครั้งที่สวนแบบไม่กี่ครั้งก็เป็นประตู โดย เคลาดิโอ คานิเกีย(คนนี้เด่นและแบกทีมมากกว่ามาราโดน่าอีก)

บราซิลแพ้ไป 0-1 แบบช๊อคโลก รอบต่อมาอาเจนเจอยูโกสลาเวียที่เคยแพ้เยอรมันในรอบแบ่งกลุ่มมา 4-1 แต่อาเจนทำอะไรไมไ่ด้เสมอกันไป 0-0 เตะจุดโทษแล้วอาเจนเข้ารอบ 4 ทีมต่อไป

รอบรองชนะเลิศ อาเจนติน่าเจออิตาลีเจ้าภาพที่โคตรจะเต็งแชมป์ยิ่งกว่าบราซิลอีก

อิตาลีเตะมา รอบแรก 3 นัด และรอบ 16 ทีม / 8 ทีม ชนะรวดมา 5 นัด ไม่เสียประตูเลย ยิงได้ 7 ประตู

นัดหยุดโลกนี้ผมก็ดูสด เตะที่เมืองเนเปิ้ล สนามของนาโปลี ถิ่นของมาราโดน่า คนอิตาลีเชียร์อิตาลี แต่แฟนนาโปลีบางส่วนเชียร์มาราโดน่า(เชียร์มาราโดน่านะไม่ได้เชียร์อาเจนติน่า)

เป็นนัดที่จืดอีกนัด อาเจนใช้เทคติคเติมตั้งแต่ตอนเจอบราซิล คือตีหัวเข้าบ้าน

อิตาลีนำไปก่อนโดย สกีล่าชี่ตั้งแต่ครึ่งแรก อิตาลี่เหนือกว่าเยอะ ครึ่งหลังจะเอาอีกแต่ก็พลาด คานิกเกียร์โต้กลับยิงตีเสมอได้

จบเกมเสมอไป ต้องเตะจุดโทษ กอยโกเชียประตูอาเจนเซฟจุดโทษของอิตาลี 2 คนสุดท้ายได้เข้าไปรอบไป(ปีนี้บักโจ้ยิงจุดโทษเข้านะเออ)


มาดูฝั่งเยอรมันตะวันตกบ้าง รอบแรก ชนะ 2 เสมอ 1 นัดที่เสมอเป็นนัดสุดท้ายแบบเข้ารอบแล้ว วางแผนส่งสำรองและเล่นเซฟ เข้ารอบเป้นที่ 1 ในกลุ่ม ยิงได้ 10 เสีย 3

รอบ 16 ทีม เจอฮอลแลนด์ซึ่งราคาตอนนั้นฮอลแลนด์เป็นต่อ เพราะเจอกันนัดล่าสุดในยูโร 88 เยอรมันแพ้ไป 2-0

แต่นัดนี้ต่างไป เยอรมันชนะไป 2-1 โดน รูดี้ โฟลเลอร์และแฟรงค์ ไรการ์ด โดนไล่ออก (แฟรงไปถุยน้ำลายใส่โฟลเลอร์)

รอบ 8 ทีม เยอรมันชนะ เชคโกสโลวาเกียไป 1-0 โดย โลธ่าร์ มัตเธอุส (คนนี้คือสตาร์ของทัวร์นาเมนต์)

รอบรองเยอรมันเจออังกฤษ เยอรมันนำไปก่อน 1-0 แต่อังกฤษตีเสมอได้โดย แกรี่ ลินิเกอร์ จบเกมต้องเตะจุดโทษ เยอรมันชนะจุดโทษไปเข้าชิงกับอาร์เจนติน่า


นัดชิงเตะกันดึกมาก แต่ก็ต้องดูเพราะผมแฟนเยอรมัน นัดนี้จืดอีกนัดอาเจนใช้แท็คติกเดิมๆที่ได้ผลจนพาถึงเข้าชิง

อาเจนตั้งรับโต้กลับทั้งเกม เยอรมันก็ทำอะไรไม่ได้ (จอดรถบัสมีตั้งแต่ยุค 90 แล้ว)

อ่อ เกมนี้คานิกเกียร์ฮีโร่ของอาเจนไม่ได้ลงนะเพราะติดโทษแบน ถ้าได้ลงเยอรมันหนักแน่ๆ

เกมใกล้จะจบ จำไม่ได้ว่าใครไปทำฟาล์วคลินสมันต์ในจุดโทษนี่ล่ะ กรรมการเป่า และ แอนเดียส เบรเม่ แบ็คซ้ายยิงเข้าไป

เยอรมันเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 3 ล้างตาอาเจนติน่าจากปี 86 ได้สำเร็จ

ดาวเด่นประจำทัวร์นาเม้นต์นี้นะครับ
- โลธ่า มัตเธอุส ฉายา Superman จากเด็กใหม่ในปี 86 มาเป็นกัปตันแชมป์โลกปี 90 และผลงานนี้ทำให้เค้าได้รับบังลงดอร์ด้วย
- ซัลว่าตอเร่(โตโต้) สกิลลาชี่ ดาวซัลโว 6 ประตู มาบอลโลกเป็นกองหน้าอันดับท้ายๆ ในเมื่อบักโจ้ที่อายุยังน้อยฟอร์มไม่แจ่ม โตโต้ลงมายิงแทบทุกนัด
- เคลาดิโอ คานิเกีย เดอะแบกแห่งอาร์เจนตน่า ด้วยความเร็วและความคม มีโอกาสไม่มากแต่ทำได้ คนนี้คือคนที่พาอาเจนเข้าชิง
- แซโจ้ กอยโกเชียร์ ประตูอาเจน ทั้งรอบ 8 ทีม และรอบรองฯ เซฟจุดโทษได้ทั้งสองนัดพาอาเจนเข้าชิง
- โรเจอร์ มิลล่า วัย 38 ปีของแคแมรูน ประกาศทั้งโลกว่าอายุไม่ใช่ปัญหา
- พอล แกสคอยล์ อัฉริยะลูกหนังแจ้งเกิดเต็มๆในทัวร์นาเมนต์นี้


ส่วนที่น่าผิดหวังสุดคือ ฮอลแลนด์ แชมป์ยูโร88 มาหมาดๆ มาครั้งนี้แข่ง 4 นัด เสมอ3 แพ้ 1 ไม่ชนะเลย
มาโก ฟาน บาสเท่น - แฟรงค์ ไรการ์ด - รุด กุลลิท ฟอร์มตกกันหมด


ปี 90 นี่คลาสสิคมากๆ ชอบเพลงธีมของรายการที่เป็นภาษาอิตาลี (to be number one) อิตาลีจัดได้ดีมากๆ ดีกว่าครั้งถัดมาที่ USA อีก ดูขลังดูคลาสสิคสุดๆ

1994 เป็นปีที่นักฟุตบอลต้องมีชื่อติดที่หลังด้วย เมื่อก่อนนักบอลทีมชาติจะใส่เบอร์เสื้อตามที่ส่งรายชื่อในแต่ละทัวร์นาเมนท์ แต่ไม่มีชื่อกำกับ ส่วนสโมสรจะใส่เบอร์ 1-11 สำรอง 12
ฟีฟ่ากลัวชาวอเมริกันจะดูซ็อคเกอร์ไม่รู้เรื่อง เลยออกกฏให้มีชื่อพร้อมเบอร์ และมีเบอร์ด้านหน้าด้วย ตามอย่างอเมริกันฟุตบอล ตั้งแต่บัดนั้นนักฟุตบอลก็มีเบอร์ประจำตัวจนปัจจุบัน

ปีนี้ 41 แล้วฮะ

บอลโลกปี90ตอนนั้นนี่ถ่ายกันตั้งแต่รอบแรกเลยนะครับ ถ้าจำไม่ผิดครั้งแรกในเมืองไทยเลยมั้งที่ถ่ายเยอะขนาดนั้น ตอนนั้นสื่อโปรโมทกันเยอะนะ คึกคักมากที่เมืองไทย ผมยังจำได้เลยว่าเคยได้รับแจกคู่มือบอลโลกด้วย เป็นเล่มอย่างสวย น่าจะของลิโพมั้ง

เยอรมันนี่ผมว่าสมฐานะแชมป์นะตอนนั้น อารมณ์เด่นทั้งทีมเลย ตัวสำรองหลายๆต้วลงมาสลับสับเปลี่ยนกันลงเล่นยังดีเลย มัทเธอุสกับจอมทัพแดนกลางทัวร์นาเม้นต์นั้นอย่างสุดยอดเลย ทำตามแท็คติคไกเซอร์ฟรานซ์ได้ทุกอย่าง อีกตัวที่ผมชอบคือเฮสเลอร์ครับ ตัวเล็กๆแต่อย่างพริ้ว ส่วนอาร์เจนนี่ก็ต้องยอมพี่เสือเตี้ยเค้าอ่ะครับ เป็นทุกอย่างของอาร์เจนจริงๆ ยิ่งพอเอาคานิกเกียมาเล่นด้วยนี่อย่างเข้าขากัน

ส่วนอิตาลี เจ้าภาพสมัยนั้นก็ขึ้นชื่อเรื่องเกมส์รับอยู่ละ แบร์โกมี่ยืนคู่บาเรซี่อย่างแน่น จริงๆบอลโลกครั้งแรกของบาจโจ้ปีนั้นผมว่าเค้าแจ้งเกิดเลยนะ กระชากอย่างมัน พอๆกับฝั่งอังกฤษที่แจ้งเกิดแก๊ซซ่ากับแพล็ท เล่นอย่างดี ปู่บ๊อบปรับจูนทีมที่กระท่อนกระแท่นในรอบแรกจนเกือบเข้าชิงได้นี่ผมว่าฝีมือเลย

บอลโลกปีนั้นผมชอบอีกทีมคือเชคโกนะ มีกองหน้าเอาไว้โขกอย่างสครูราวี่ ส่วนฮอลแลนด์ถ้าผมจำไม่ผิดนี่เหมือนมีปัญหากันในทีมด้วยป่ะ เลยฟอร์มไม่ดี แต่แมทช์ที่เยอรมันประทะฮอลแลนด์นี่อย่างเดือด ที่ชอบอีกอย่างในบอลโลกครั้งนี้คือเสื้อส้มของฮอลแลนด์เนี่ยแหละครับ อีกชุดเสื้อเขียวของเยอรมัน แสบตากันดี555

ปี 94 บักโจ้ยิงจุดโทษไม่เข้า ทำให้ปิยะพงษ์กับรณชัย พ้นข้อหาล้มบอลเลยละ
แต่ปี 90 เสื้อเตี้ยดีเอโก้ สมชื่อสมราคาจริง ๆ
แต่เตะที่อิตาลี่ชอบเพลงทูบีนัมเบอร์วัน นะ

อิตาลี่เริ่มต้นทัวร์นาเมนท์ ด้วยคู่หน้าเป็น เซเรน่า. กับ วิอัลลี่. แต่ฟอร์มไม่ดี กลายเป็นต้องส่งตัวสำรองลงมาแก้เกมส์ ซึ่งก็คือ สกิลลาชี่ กับ บาจโจ้
สกิลลาชี่ ยิงต่อเนื่องจนได้เป็นดาวซัลโว ส่วนบาจโจ้ก็มีลูกเลี้ยงครึ่งสนามเข้าไปยิงเชคโกสโลวาเกียเป็นไฮไลต์ แต่จุดเด่นจริงๆของชุดนี้คือเกมส์รับ วอลเตอร์ เซงก้า ไม่เสียประตูเลยจนถึงรอบรอง เสียประตูแรกกับอาเจนแล้วก็แพ้จุดโทษตกรอบเลย.

จำได้อยากเดียวในปีนั้นคือมีไอ้ตุ๊กตามาสคอตปี 90 อยู่ที่บ้าน

ชอตโรเจอมิลล่า ฉกบอลไปจากเรเน่ ฮิกิต้ายังติดตา

แค่ได้ฟัง ก็นึกถึงความคลาสสิค ที่สุดๆแล้วจริงๆ เสียดาย เกิดไม่ทัน แต่ผมว่ามนเสน่บอลโลกสมัยนุ้น เป็นอะไรที่ สูสี น่าดูกันทุกทีมจริงๆ

ไอแลน์เหนือ ยักเขียว ก็โคตรจะแกร่งทีมนึงเลยที่ผมเห็น เข้ารอบลึกๆ สู้ทีมระดับโลกได้ตลอด

เริ่มดูแค่ ปี 94 USA สนามแต่ละสนามใหญ่มากๆ ส่วนใหญ่ใช้สนาม อมกันฟุตบอล
ทีมรองๆ ปีนั้น เล่นดีหลายทีม สวีเดน บัลแกเรีย
เด่นๆก็ โทมัส โบรลิน กับ มาร์ติน ดาห์ลิน
แต่ ชอบ บัลแกเรียมากกว่า สตอยคอฟ , อิวานอฟ กัปตันหนวดเฟิ้ม
เลยตามเชียร์ บัลแกเรีย ถีงปี 98 ฟอร์มผิดคาดเล่นห่วยกว่า 94 เยอะ

ทันตั้งแต่ปี 86 ลินิเกอร์ ดาวซัลโวบอลโลก กลับมาเลยไม่ได้อยู่เอฟเวอร์ตันต่อ บาร์ซ่าเลยซื้อไป

ปี 90 จำได้อย่างแม่นยำคือ เพลงบอลโลกที่่ไม่มีครั้งไหนติดหูเท่า To be number one อีกแล้ว จนทำให้เจ้าภาพทำเป็นภาษาอิตาเลียนด้วยในทำนองเพลงเดียวกัน

สะใจนัดชิง โฟลเลอร์ โดนเตะล้มลงในเขตโทษ แต่ มัทเธอุส ปล่อยให้ เบรห์เม่ ยิง
ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง ซัดเข้าหน้าต่างพอดิบพอดี จากนั้นก็ทำอะไรกันไม่ได้ จบ 1-0 เยอรมันได้เฉลิมฉลองบ้างหลังผิดหวังมาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว

บอลโลก94นัดชิงคือนัดแรกของผมเลย ดูแบบเด็กๆดูจำได้ไม่กี่อย่าง​ คือไม่รู้ใครในทีมบลาซิลยิงชนเสา​ แล้วโกล์อิตาลี​ จูบที่มือไปเตะเสา(แบบประมาณขอบคุณๆ)​ และช๊อตพีคก็จุดโทด