ผิดทุกเกือบทุกบรรทัด สิ่งเดียวที่ถูกคือคุณคิดง่ายๆ จริงๆแหละ

1. ทุกโรคมันมีระยะแฝงก่อนจะตรวจพบเสมอ ดังนั้นตรวจออกมาว่า Not detect ไม่ได้หมายความว่าเซฟ 100% แล้ว ซึ่งกับ COVID-19 คือ ราวๆ 1-3 วัน

2. ปิดการเข้าออกประเทศ ปิดอะไรบ้างล่ะครับ? ถ้านักท่องเที่ยว ผมเห็นด้วย แต่อย่าลืมเครื่องไม้เครื่องมือ ของใช้อุปโภคบริโภคไม่น้อย ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ (น้ำยาตรวจ COVID-19 ก็เช่นกัน)

3. จากข้อ 1 ถ้าคุณไม่มีการปิดเมืองเลย จับตรวจแล้วปล่อยกลับบ้านเลย คนที่ตรวจแล้วยังไม่ถึงระยะที่ตรวจเจอจะแพร่เชื้อได้ต่อไปเรื่อยๆ


ส่วนเหตุผลว่าทำไมไม่ควรเรียกคนไม่ตรวจทั้งประเทศ ผมเขียนไว้กระทู้ข้างล่างแล้ว ลองอ่านดูครับ

http://www.soccersuck.com/boards/topic/1868524

นึกสภาพคนทั้งประเทศไปรพ.ช่วงเวลาเดียวกันหมด เอาแค่ภายในอาทิตย์เดียว ไม่ต้องวันเดียว ระบบสาธารณสุขก็ล้มแล้วครับ

ถึงมีงบ ส่วนตัวก็คิดว่าไม่ควรทำอยู่ดี และถึงทำก็ไม่รู้จะกี่เดือน กี่ปีจะรู้ผล เพราะเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถด้านนี้มีน้อย

เค้าตรวจเฉพาะคนมีอาการกับคนใกล้ชิดคนป่วยครับ ใครจะไปตวรจทุกคนในประเทศ จีนที่เอาอยู่ก็ไม่ได้ตรวจทุกคน

วันนี้ไปตรวจไม่เจอ พอพรุ่งนี้รู้สึกเหมือนจะเป็นไข้อีก ก็ไปตรวจอีกงี้หรอ



ไอ้คนเป็นจริงๆ ไม่ได้ตรวจ ตายกันพอดี

ถึงงบพอก็ไม่มีประโยชน์ เพราะถ้าคุณเพิ่งรับเชื้อมาแล้วมาตรวจมันก็จะไม่เจอ ทีนี้บรรลัยเกิดละเพราะคิดว่าตัวเองไม่เป็นเพราะตรวจไม่เจอ ใช้ชีวิตปกติกลายเป็นตัวแพร่เชื้อเลย

เป็นไปไม่ได้ หรือทำได้ก็มีผลเสียมากกว่าผลดีอะ คนแห่ออกมาตรวจกันเยอะแน่

ล้นโรงพยาบาล เดือดร้อนบุคลากรแพทย์ หมอคงไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น เปลืองงบประมาณมหาศาล

เกิดความแออัด เข้าไปเบียดกันช่วยแพร่เชื้อเพิ่มอีก วันไปตรวจอาจจะไม่เจอ แต่กลับบ้านมาโอกาสติดสูงมาก

ไหนจะคนที่ไปตรวจพอรู้ว่าตัวเองไม่เป็น ก็ใช้ชีวิตประมาทไปเที่ยวนู่นนี่เหมือนปกติ แบบนี้คงไม่จบ

ที่เป็นอยู่ตอนนี้ผมว่าโอเคละ แต่อยากให้ลดค่าตรวจลงมาให้คนทั่วไปเข้าถึงง่ายกว่านี้หน่อย

ความคิดดี แต่ปัจจุบัน ยังไม่มีซูโลซั่นตรวจสอบได้ ทันทีทัน กว่าจะรู้ผล24ชม.

แถมถ้าคนมาเยอะ การตรวจน่าจะใช้บุคคลกรทางการแพทย์เยอะมากๆ

และสอบอุปกรณ์ที่ใช้ตรวจหาในแล็บค่อนข้างสูงพอสมควร โรง'บาลเอกชนใหญ่ๆไม่ห่วงเพราะมีทุน

แต่โรง'บาลรัฐนี่สิไม่มีงบแล้ว และประชาชนส่วนใหญ่ทั้งในกรงเทพและต่างจังหวัดใช้บริการโรง'บาลรัฐมากกว่า

จุดตรวจจะกลายเป็นจุดกระจายแทนเเบบซาร์และไอ้โรคบ้านี่ติดง่ายกว่าซาร์เยอะเลย ความคิดผมคือให้กักตัวในบ้านสักเดือนให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำงานแทน และแยกจุดแยกโซนระบาดให้ส่วนอื่นกลับมาทำงานตามปกติในมาตรการระวังเช่น ใช้เจลใส่แมส100เปอร์เซ็น ทำความสะอาดบ่อย ส่งเสริมอะไรที่พอผลิตได้ในประเทศ
แทน ประเทศเราผลิตอาหารได้ไม่ลำบากเท่าไรที่เหลือก็เข้มงวดกับการนำเข้าหรือส่งออกสินค้าหีอคนเข้าออกน่าจะคลุมได้แบบไม่พิการนะ

ไม่ไหวครับ งบประมาณ อุปกรณื บุคลากรไม่พอครับ

การเปิดตรวจทำให้เกิดชุมชน อาจจะแย่กว่าเดิมเข้าไปอีกนะ

ตอนแรกไม่ติด ติดตอนไปตรวจ555

ผมถามจริงๆนะครับ คุณว่าในไทยมีนักเทคนิคการแพทย์กี่คน

แล้วนักเทคนิคการแพทย์จำนวนนั้น มีกี่คนที่ใช้เครื่องมือเป็นครับ

ไม่นับบุคคลากรอื่นๆที่อยู่ในกระบวนการการตรวจนะครับ

กอปมาครับ จากกลุ่มแพทย์



............



จากคนทำงานสคร.

1. อยากให้ตรวจทุกคนแต่มีข้อจำกัดคือน้ำยา เครื่องตรวจและคนทำแลปมีจำกัด สคร.นี้มีนักเทคนิคแค่ 4 คน ทำให้ต้องจำกัดเคสเฉพาะผู้สัมผัสหรืออาการหนัก และ ถ้าไม่เข้าเกณฑ์PUI เบิกเงินไม่ได้ แล้วถ้าน้ำยาหมด ไม่มีเงินไปซื้อก็ตรวจเพิ่มไม่ได้
นักเทคนิคการแพทย์ทำได้นั้นไม่ใช่แค่ใครก็ได้ ต้องมีประสบการณ์การทำแลป PCR เพื่อความถูกต้อง และต้องทำแลปเลเวล3ได้ ถอดใส่ PPE ถูกต้องเพื่อไม่ให้กลายเป็นติดเชื้อซะเอง

ที่ต้องมีเกณฑ์PUIเพื่อคัดกรองผู้ที่เสี่ยงจริงๆ สัมผัสผู้ป่วยยืนยันจริงๆ
ถ้าสัมผัสใกล้ชิดจริงต้องตอบชื่อนามสกุลได้ เพราะพวกโกหกอ้างว่าสัมผัสเยอะ

ถ้าให้ตรวจได้ทุกคนตามที่หมอทุกคนขอ โดยไม่อิงตามเกณฑ์ จากผลตรวจวันเดียวได้จะกลายเป็น3-5วันได้ผล เพราะข้อจำกัดเรื่องเครื่องมือและบุคคลากร

ถ้าให้ตรวจที่ไหนก็ได้ ปล่อยให้ตรวจได้โดยที่แลปไม่ผ่านมาตรฐานก็จะได้ผลเท็จเยอะ

ชุดตรวจkit ที่ยังไม่มีการนำมาใช้เพราะเท่าที่มีตอนนี้ sense spec ยังไม่ดีพอ
ตัวที่น่าจะได้มาใช้ก่อนคือ Xpert ถ้าน้ำยาผ่านจะสามารถใช้เครื่องและบุคคลากรที่เคยอบรมการตรวจ gene Xpert for TB มาตรวจ Gene Xpert for covid ได้ ตอนนี้เหลือแค่รอน้ำยากับรอกรมวิทย์ตรวจสอบเครื่องตามจังหวัดต่างๆ
ตรงนี้ต้องเข้าใจส่วนกลางด้วยว่าถ้า test ไม่ได้มาตรฐานก็ไม่อยากปล่อยออกไปให้ใช้ false positive ไม่กลัว แต่ false negative อันนี้ส่งผลเสียมากกว่า

2. ขอ code ตรวจนาน เพราะต้องประสานหลายฝ่าย รพ. สสจ. สคร. และต้องตรวจสอบอีกว่าสัมผัสผู้ป่วยยืนยันจริงๆ วันหนึ่งๆมีคนขอเปิดหลายร้อยตัวอย่าง เจ้าหน้าที่สคร.เองก็แบ่งกะทำงาน 24 ชม. จนท.สคร.เองก็มีน้อย หลายคนต้องทำงานหลายหน้าที่ ตรงนี้เลยใช้เวลานานในการขอโค้ดแต่ละที

หมอคนไหนเบื่องานรพ. อยากลองทำงานตรงนี้ดูบ้าง ทุกสคร.มีตำแหน่งแพทย์ว่าง ถ้าจบระบาดฯหรือจะให้ส่งเรียนระบาดฯต่อก็ยินดี

เพิ่มเติมให้ในฐานะเคยทำงานหรือพบปะกับผู้บริหารหลายๆกรม แต่ละท่านตอนนี้สภาพดูโทรมต่างกับตอนก่อนโรคมามาก พยายามทำเต็มที่เท่าที่แต่ละท่านจะทำได้ โดนกดดันจากผู้ปฏิบัติทั้งระดับต่ำกว่าและสูงกว่า ฝ่ายการเมืองอีก บางท่านโดนนักการเมืองบีบให้เป็นแพะ สถานการณ์ตอนนี้เรียกได้ว่าหนักทุกฝ่าย

ทำแบบนั้นจริงติดเชื้อกันกระจายแน่นอน ที่อู่ฮั่นกว่าครึ่งของคนที่เป็นโรคนี้ติดเชื้อจากโรงพยาบาลตอนที่แพนิคกันไปตรวจนั่นแหละครับ

ผิดหมดทุกบรรทัดเลย

1.การตรวจตอนนี้ไม่ได้บอกว่าไม่ได้เป็น มีหลายเคสที่ตรวจรอบแรกไม่พบ ตรวจรอบสองรอบสามถึงพบ

2.ปริมาณนักเทคนิคการแพทย์ ปริมาณเครื่องตรวจ ปริมาณน้ำยามีจำกัด

3.ตรวจวันนี้ไม่เจอเชื้อ อีก 2 วันมีอาการทำไง ตรวจใหม่?

4.มารุมตรวจที่โรงพยาบาล ถามจริงๆ มาตรวจเพื่อให้แน่ใจว่าไม่เป็น หรือมารับเชื้อ

ผมว่ามันไม่จำเป็นคับ.

แค่กักตัว 100% 14วันก็จบละครับ.

ใครป่วยน้อยให้คนวิ่งไปเก็บตัวอย่างมาตรวจ.
ใครป่วยมากรับไปรักษา.

ยากตรงกักตัวมากกว่าคับ.