'ตูราม'ขยี้แนวรับ!! 'สิงห์หนุ่ม'คมกริบอัดดุสเซลดอร์ฟยับ 4-1 ขึ้นที่ 4
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
มาร์คัส ตูราม แม้จะยิงไม่ได้แต่ผลงานโดดเด่น ทำ 2 แอสซิส เป็นกุญแจสำคัญนำพ้องเพื่อนสิงห์หนุ่ม โบรุสเซีย กลัดบัค บุกถล่มฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ ไม่ไว้หน้า 4-1 โดยกัปตันทีม ลาร์ส สตินเดิล ทำได้ 2 ประตู ช่วยนำทีมเก็บ 3 คะแนน ขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 4 ได้สำเร็จ
ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ
Starting Formation: 3-5-2
33.
ฟลอเรียน คาสเท่นเมเยอร์
7
4.
คาซิม อดัมส์

81'
6.5
10.
วาลอน เบริสช่า

78'
6.5
27.
นานา อัมโปมาห์

65'
6
ตัวสำรอง
13.
อดัม บ็อดเซค

78'
6
23.
นิโก้ กีเบลมันน์

65'
6
29.
มาร์คัส ซุตเนอร์

81'
6
ฟุตบอลบุนเดสลีกา
สนาม เมอร์เกอร์ สปีล-อารีน่า
วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563
กรรมการ ดาเนี่ยล ซีเบิร์ต
ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ
1
4
โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค
โยนาส ฮอฟมันน์ 22'
ลาร์ส สตินเดิล 51'
ลาร์ส สตินเดิล 77'
ฟลอเรียน นอยเฮาส์ 82'
กลัดบัค ทีมอันดับ 5 ต้องการ 3 คะแนนในนัดนี้เพื่อขยับขึ้นไปอยู่ในกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง แต่งานไม่ถือว่าง่าย เมื่อต้องไปเยือนดุสเซลดอร์ฟ ทีมอันดับ 16 ที่กำลังดิ้นรนอย่างหนักในการหนีตกชั้น และกำลังทำได้ดีไม่แพ้มา 2 นัดติด
กุนเตอร์โหม่งเช็คกลัดบัคเกือบทำเร็ว
เกมช่วงแรก กลัดบัคไม่ได้เหนือกว่าดุสเซลดอร์ฟมากนัก แต่จังหวะนี้พวกเขาเกือบขึ้นนำ จากฟรีคิกทางขวา เปิดให้ กินเตอร์โหม่งเช็คบางไป ลูกแฉลบแนวรับออกหลังได้แค่เตะมุม
ซากาเรียซัดจ่อๆติดบล็อคนิดเดียว
โอกาสทองของกลัดบัคอีกครั้ง เมื่อตูราม กระชากหนีแนวรับได้เปิดบอลที่สุดเส้นหลังให้ ซากาเรีย ซัดที่เสาแรกแต่ดันติดบล็อคกองหลังไปซะก่อน เป็นลูกเตะมุม
ซอมเมอร์ซูเปอร์เซฟลูกโขกเบริสช่า
ดุสเซลดอร์ฟ น่าขึ้นนำอย่างที่สุด จากบอลครอสทางขวาเปิดมาเข้าหัว เบริสช่า ที่ทิ้งตัวโขกเต็มๆ แต่ ซอมเมอร์ ยอดเยี่ยมกว่า บินตามไปปัดบอลทิ้งได้น่าเหลือเชื่อ
ตูรามปั้นเกมให้ฮอฟมันน์จบ 1-0
กลัดบัค มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากบอลโต้กลับเร็ว ตูราม ปั้นเกมจากครึ่งสนาม ก่อนเข้าไปแทงทะลุช่องให้เขตโทษให้ ฮอฟมันน์ วิ่งโฉบตวัดยิงผ่านมือคาสเท่นเมเยอร์ เข้าเสาไกลอย่างยอดเยี่ยม
ดุสเซลดอร์ฟตีเสมอ 1-1 เร็วจากธอมมี่
ดุสเซลดอร์ฟ ไม่ยอมง่ายๆไล่ตามตีเสมอ 1-1 จากลูกทิ้งบอบม์เข้าไปวัดในเขตโทษ เป็นธอมมี่ ที่ใช้ตัวบังแนวรับดูดบอลลงแล้วพลิกตัวยิงไม่เหลือซาก
ดุสเซลดอร์ฟดูวูบวาบได้ลุ้นกว่า
เล่นไปเล่นมาก กลายเป็นดุสเซลดอร์ฟ ที่ทำได้ดีกว่า พวกเขาได้ลุ้นบวกสกอร์เพิ่มจากบอลโต้กลับ แต่จังหวะสุดท้ายไม่เด็ดขาดพอ ประตูแซงนำจึงยังไม่เกิด
กลัดบัคยิงเข้าแต่ฮอฟมันน์ล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
กลัดบัคส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จ แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ประตู เนื่องจากล้ำหน้าไปตั้งแต่จังหวะ ตูราม ไหลบอลให้ ฮอฟมันน์ หลุดเดี่ยวเข้าไปจ่ายให้เพื่อนยิงแล้ว
พักครึงยังเสมอ 1-1
ทั้งสองทีมพยายามจะกดประตูขึ้นนำอีกครั้ง แต่ยังไม่ชัดเจนพอ ครึ่งแรกเสมอกันไปก่อน 1-1
ตูรามหลุดเดี่ยวไหลให้สตินเดิลซัด 2-1
กลับมาเล่นครึ่งหลัง กลัดบัคทำได้ดีกว่า และมาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากความยอดเยี่ยมของตูราม วิ่งชนะไลน์เช็คล้ำหน้าหลุดเดี่ยวไปแตะบอลให้ สตินเดิล ที่วิ่งตามขึ้นมาซัดหน้าประตูโล่งๆเข้าไป
คาสเท่นเมเยอร์ซูเปอร์เซฟ 2 หนติด
กลัดบัค น่าบวกเพิ่มได้อีกลูก จากความยอดเยี่ยมของ นอยเฮาส์ แหวกฝูงแนวรับเข้าไปกดเน้นๆ แต่ถูกคาสเท่นเมเยอร์ โชว์ซูเปอร์เซฟ พุ่งปัดบอลทิ้งออกไปได้ ก่อนจะเป็น ตูราม วิ่งตามซ้ำดาบสองเน้นๆ คาสเท่นเมเยอร์ ก็ยังลุกขึ้นมาโชว์ซูเปอร์เซฟได้อีก
ธอมมี่มีโอกาสดีตีเสมอ
ดุสเซลดอร์ฟ ก็มีลุ้นตามตีเสมอได้จากลูกยิงธอมมี่ แต่ไม่ผ่านมือซอมเมอร์
เฮนนิ่งส์ซัดหลุดเสาไปแค่คืบ
เจ้าถิ่นยังคงเดินหน้าพยายามบุกแก้ประตูคืน จังหวะนี้มีลุ้นจากลูกยิงไกลของเฮนนิ่งส์ บอลพุ่งหลุดโคนเสาออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น
สตินเดิลเบิ้ล,กลัดบัคหนี 3-1
กลัดบัค ผ่อนคลายได้เยอะขึ้น หลังซัดหนี 3-1 จากการประสานงานอันยอดเยี่ยม ก่อนไปจบที่ ซากาเรีย พาบอลเบียดชนะแนวรับได้เปิดที่สุดเส้นหลังให้ สตินเดิล ซัดติดบล็อคแนวรับเข้าประตูไป
เอ็มโบโล่มีโอกาสทองแต่จบไม่ได้
เอ็มโบโล่ เปลี่ยนตัวลงมาเกือบยิงได้เลย เมื่อหลุดเดี่ยวได้ดวลกันประตู แต่ยิงไปติดบล็อคลูกข้ามคานออกหลังไปไกล น่าจะทำได้ดีกว่านี้
นอยเฮาส์ซัดอีกลูกสกอร์ไหล 4-1
อย่างไรก็ตาม กลัดบัคมาได้ประตู 4-1 จนได้ จากนอยเฮาส์ ที่กระชากบอลหนีตัวประกบ หลุดเข้าไปซัดทางซ้ายในเขตโทษ บอลติดตัวบล็อคลูกแฉลบเปลี่ยนทางค่อยๆกลิ้งเข้าประตูไป
ไม่มีปัญหา หมดเวลากลัดบัคบุกมาชนะดุสเซลดอร์ฟ 4-1 ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 4 เป็นที่เรียบร้อย
โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค
Starting Formation: 3-4-3
13.
ลาร์ส สตินเดิล

85'
8.5
23.
โยนาส ฮอฟมันน์

75'
7.5
10.
มาร์คัส ตูราม

81'
9
ตัวสำรอง
7.
แพทริก เฮอร์มันน์

75'
6.5
16.
อิบราฮิม่า ตราโอเร่

85'
6
36.
บรีล เอ็มโบโล่

81'
7
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Sun Feb 16, 2020 06:29, ทั้งหมด 13 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ