ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2019
ตอบ: 2092
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jan 27, 2020 00:18
ถูกแบนแล้ว
[RE: [NBA] ใครทัน Shaq บ้างครับ]
เริ่มแรกจะเปรียบเทียบให้ฟังก่อน สมัยนั้นถึงขั้นมีคนบางกลุ่มพูดกันเลยว่านี่มันคือ Center ระดับเทพเจ้าชัดๆ คือคนบางกลุ่มจัด Tier ความเก่งเป็นระดับเดียวกับ MJ เลยในสมัยนั้น เสียดายที่ความเก่งนั้นสั้นไปหน่อยำม่งั้นคงเป็นตำนานที่ย่งใหญ่กว่านี้
ในตอนนั้นคือแกเป็น C ที่เหนือกว่า C คนอื่นอีกที ในขณะที่ยุคนั้นเป็นยุคต่อจากยุค C ครองเมือง พวก C โหดๆก็เริ่มแก่กันแล้ว ก็โดนแชคที่เริ่มมีประสบการณ์เก็บไปทีละคนๆ (ในตอนนั้นผมเห็นว่ามีแค่ Hakeem คนเดียวที่เอาแชคอยู่ ด้วยเทคนิคขั้นสุดยอดของแกจริงๆ + แชคยังอ่อนประสบการณ์)
ยุค 2000s เป็นยุคของแกโดยแท้จริง คือโหดมาก โหดจริงๆ ไร้เทียมทาน
สมัยนี้ถ้าเปรียบเคอรี่ช่วงพีคสกิลยิง 3คะแนนทะลุเกจ
สมัยนั้นแชคนี่ก็คือSTRทะลุเกจไปไกลมาก เอาคนตัวใหญ่ๆมาช่วยดันแก2คนก็ยังมีถูกดันจนกระเด็นนกระดอน คนพากษ์สมัยนั้นก็มีเปรียบว่าแชคเหมือนลูกโบลิ่ง จนพินทีก็กระจัดกระจายหมด
เวลาคนพูดถึงแชคส่วนใหญ่จะมีคนพรีเซ้นเรื่องพละกำลังมหาศาลมาก แต่อย่าลืมว่าถ้าแกมีแต่แรงอย่างเดียวแกคงไม่เป็นที่เล่าขานขนาดนี้
แชคแกมีสกิลสำหรับCไม่แพ้ Cในตำนานคนอื่นเลย ถึงแม้จะไม่ใช่ชั้นครูแบบ Hakeem,Mchale แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับSเช่นเดียวกับตำนานCคนอื่นๆเลย การโพสต์มีสกิลเกือบครบ Backdown,Spin(อันนี้โหดมาก เป็นท่าไม้ตายแกเลย),Dropstep หรือ Hook Shot แบบชิลๆ
จะขาดอย่างเดียวก็คือการ Post Fadeaway ที่แกไม่ถนัดเลย คงจะเป็นเพราะเรื่องระยะการยิงที่สั้นมาก ซึ่งระยะทำการของแกอยู่แค่ตรง Low post เท่านั้น (ก็ประมาณเส้นขั้น1-2,นี่คือ1ในจุดอ่อน2อย่างของแก) แต่ก็เป็นระยะที่แกแม่นมากนะ อยู่นอกระยะการยิงแชคคือกำแพงยักษคอยสกรีนให้คน อยู่ในระยะทำการแกคือปีศาจดีๆนี่แหละ
สภาพร่างกายตอนฟิตคือ ใหญ่ยักษ์ พละกำลังมหาศาล กระโดดสูง(แต่ก็เตี้ยลงเรื่อยๆ ในแต่ละปี 555555) ที่สำคัญคือแกพริ้วมากกกก ความพริ้วในการโพสต์ของแกเหนือกว่าCหรือPFที่ตัวเล็กกว่าหลายๆคนซะอีก แรกๆใช้ความหนาดันเข้าไปในระยะเพื่อฮุคทำแต้ม ถ้าหากCฝั่งตรงข้ามทุ่มแรงดันสุดชีวิตแบบไม่คิดหน้าคิดหลังก็จะเจอแชคใช้ท่าไม้ตายSpin เข้าไปDunk โคร๊มมมมมมม!!!!!!!!! นั้นคือภาพที่เกิดขึ้นบ่อยๆ
วิธีป้องกันแชคแบบทริคกี้มีไม่กี่วิธี อย่างแรกคือ อย่าให้แกเข้าระยะทำแต้มก่อนแกจะได้รับบอล พอแกได้บอลแล้วเริ่มดัน คือต้องพยายามเอา Charging Foul จากแกให้ได้ก่อนแกจะเข้าใต้แป้น ซึ่งต้องเป็นคนฝีมือจัดๆถึงจะทำได้ เพราะเชิงแชคก็ไม่ใช่ย่อยๆ ส่วนใหญ่ถ้า TD มาประกบแกอะจะทำได้บ่อย (ช่วงนั้นTD พีคๆแต่ก็เอาแชคไม่อยู่)
วิธีที่สองคือแฮคแชค (สมัยนี้ทำไม่ได้ละ) คือเข้าไปฟาล์วแชค สมัยนั้นถ้าตีฟาล์วใครก็ตาม ถึงแม้คนนั้นจะไม่ได้ถือบอล ถ้าฟาล์วครบก็จะได้ยิงลูกโทษ(ลูกโทษคือจุดอ่อนอันที่2ของแก และเป็นจุดอ่อนอันใหญ่หลวงมาก) ก็ตีฟาล์วแชคมันเข้าไปละให้แชคยิงลูกโทษไม่ลงจนแพ้ จำได้ว่ามีทีมๆนึงตีฟาล์วแชคจน Foul Out ไป3คน 5555555555 จนสมัยยุคหลังมานี้ต้องมีกฎมาใหม่เพื่อไม่ให้มีการแฮคเกิดขึ้น
และสมัยนั้นก็ยังไม่นิยมการ Switch สักเท่าไหร่ การ Miss Match ของแชคเลยไม่ค่อยเกิดขึ้น แชคสามารถยืนค้ำใต้แป้นเป็นป้อมปราการป้องกันเต็มที่ บอกเลยว่า ต้องการป้องกัน การบล็อค การรีบาวน์ โหดสลัด (ถ้ามาสมัยนี้นะ ไม่อยากจะคิด ถ้า Switch เอาแชคมาประกบฮาร์เด้นหรือไครี่จะเป็นยังไง 555555555)
สิ่งที่ทำให้แชคมีช่วงยิ่งใหญ่ที่สั้น เป็นเพราะความไม่มีวินัยเรื่องร่างกายของแกเลย ช่วงอายุที่แกควรจะพีคเต็มที่ก็กลับไม่สุดซะงั้น ทุกๆปีตอนจบฤดูกาลแกจะปล่อยให้ร่างกายแผละมากๆ กลับมาเข้าแคมป์ซ้อมแบบอ้วนๆ ค่อยๆฟิตร่างกายกลางฤดูกาลไรงี้ (นี่คือนิสัยที่ทำให้พี่บี้ไม่ชอบแชคในช่วงนั้นเลย เพราะโคบี้ฟิตเปรี๊ยะทุกกระเปี๊ยดนิ้ว ตั้งแต่ยังไม่เริ่มฤดูกาลด้วยซ้ำ) พอกล้ามเนื้อไม่พร้อมประสิทธิภาพทั้งเรื่องการบุก เกมรับ และการรีบาวน์ก็ลดลง โค้ชเองก็กุมขมับ จนสุดท้ายต้องเปลี่ยนแผนให้โคบี้นำเกมบุกแทน และหลังจากช่วงแตกหักของแชคกับโคบี้ โค้ชเลือกที่จะเทรดแชคออก และให้โคบี้นำทีมแทนจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของทีมทุกวันนี้
ดีที่ช่วงก่อนโรยราแกคิดได้ตอนย้ายทีมไปอยู่Heat กับเวทแกกลับมาคิดได้เลยตั้งใจฝึกเล่นอีกครั้งจนได้แชมป์ร่วมกับ D.Wade ในที่สุด