“บิ๊กอู๊ด” ดร.ภิญโญ นิโรจน์ ผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดงานแถลงข่าว “Change พัฒนาฟุตบอลไทยสู่บอลโลก ถึงเวลาคนฟุตบอลตัวจริงพาฟุตบอลไทยก้าวไกลสู่ระดับโลก”

ดร.ภิญโญ กล่าวว่า "ตนเป็นสภากรรมการของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯมาตั้งแต่สมัยที่ พ.อ.อนุ รมยานนท์ เป็นนายกสมาคมฯ อยากกลับมาพัฒนาให้ถูกทางและโปร่งใส นโยบายที่ต้องทำ คือ ฟุตบอลไทยลีก(ที1-ที2) จะเพิ่มจาก 16 เป็น 18 ทีม รวมทั้งเพิ่มเงินรางวัล แชมป์แค่ 10 ล้านบาทน้อยไป ส่วน ไทยลีก 3-4 ต้องให้ความสำคัญ เพราะเป็นรากฐาน ต้องทำให้มีผู้สนับสนุนให้มากขึ้น"

ขณะที่นโยบายพัฒนาทีมชาติไทยนั้น ดร.ภิญโญ กล่าวว่า "จะจัดตั้งศูนย์พัฒนาฟุตบอลให้ครบ 5 ภาค ไม่ใช่แค่รวมอยู่ตรงกลางอย่างเดียว เน้นพาฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลกให้ได้ ถ้าตนเป็นนายกสมาคมฯ ซีเกมส์ 2 ครั้งข้างหน้า ฟุตบอลชายจะต้องได้แชมป์, เอเชียนเกมส์ต้องเข้ารอบรองชนะเลิศ, ฟุตบอลหญิงจะต้องได้เล่นฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกต่อเป็นสมัยที่ 3 และต้องมีฟุตบอลลีกหญิงที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งส่งนักเตะไปแข่งขันในลีกต่างประเทศ"

ดร.ภิญโญ กล่าวด้วยว่า "การมาสมัครครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะอยู่ใต้ใคร ตนมีวุฒิภาวะเป็นอดีตรัฐมนตรี เป็น ส.ส.มา 8 สมัย ไม่ได้อยู่ใต้ใคร ต้องมาเป็นผู้นำเท่านั้น"

โดยทีมงานของ ดร.ภิญโญ ในการชิงตำแหน่งครั้งนี้ ได้แก่ ดร.ปัญญา หาญลำยวง, พล.อ.อ.อานนท์ จารยะพันธุ์, พล.อ.ราชรักษ์ เรียนพืชน์, นายสามารถ มะลูลีม, ดร.วิชัย ล้ำสุทธิ, นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล, ดร.จุฑา ติงศภัทย์, นายสุนทร มีสุวรรณ, นายชัยโชค พุ่มพวง, นายธีระพงษ์ วัฒนวงษ์ภิญโญ, นายสมศักดิ์ อรุณสุรัตน์, นายอติพล สุวรรณดี, นายคณบดี แย้มชุติ, นายภีมเดช อมรสุคนธ์, นายอนุชา ไชยเทศ, นายสุพจน์ งดงาม

สำหรับการเลือกตั้งสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะมีวันที่ 12 ก.พ. ที่ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัล ลาดพร้าว โดยนอกจากทีม ดร.ภิญโญ แล้ว ยังมี ทีมของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯคนปัจจุบัน ขณะที่ “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี ที่ลงสมัครตำแหน่งนายกคนเดียว ทว่าโดนตัดสิทธิ์ไปแล้ว

จะเพิ่ม16ทีมเป็น18เพื่อ

เพิ่มเงินรางวัลลีกผมเห็นด้วยนะ แต่เพิ่มทีมจะเพิ่มไปทำไม เหลือเวลาให้ทีมชาติบ้างงงงง

ท่านเคยเป็นรัฐมนตรีกระทรวงอะไรครับ อยากทราบผลงาน ถ้าไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ก็อย่ามาทำเลยผมไหว้ล่ะ

ยังจะกลับไปเพิ่มเป็น 18 อีก ครั้งที่แล้วมีผลยังไงไม่เอามาเป็นบทเรียนหรือไง
นี่หรือเรียกตัวเองว่าคนฟุตบอล

ผมว่าแบบท่านบิ๊กออดก็ดีนะครับ ถึงไม่ใช่คนฟุตบอล แต่แค่ทำตามมาตรฐานสากล
ที่เหลือก็แค่ฟังเสียงแฟนบอลส่วนใหญ่ว่าต้องการอะไร และสนองตาม มันได้ใจคนกว่าครับ

ถ้าไม่ใช่สมยศผมว่าที่ทำๆกันมา ยุคนี้คือเริ่มใหม่หมดอีกรอบ

ต้องมีคำว่าไปบอลโลกทุกทีสิน่าาาาาา

ขายฝันด้วยการไปบอลโลก 5555

ดร.เยลโลว์ ก็มา

พูดหนะ จะพูดยังไงก็ได้
แต่วิธีการหละ ทำได้จริงหรออออออ

ผมก็พูดได้ ว่าถ้าผมเป็นนายก ผมจะทำให้บอลไทยไปบอลโลก เป็นแชมป์โลก เป็นแชมป์จักรวาล

แค่เพิ่มทีมนี่ก็ผิดละ นักเตะไม่มีเวลาพัก
จะหาเสียงกับสโมสรเล็กๆอะดิ

จะเพิ่มเงินรางวัล จะหาตังมาจากตรงไหนต้องบอกที่มาด้วย

ก่อนที่จะบอกผล ช่วยบอกที่มาของผลด้วยได้มะ ว่ามีโอกาสเป็นได้จริงแค่ไหน

แค่โรงแรมแถลงข่าวยังโรงแรมเดียวกันเลย ไม่นอมินีเลยจริง ๆ 5555+

เพิ่มเงินมันก็เพิ่มทุกปีอยู่นะ ส่วนเพิ่มทีมจะเพิ่มทำไม สโมสรไทยยังไม่แกร่ง ยังยืนไม่ได้

16 ทีม ดีสุดแล้ว การแข่งขันสูสี ถ้าเป็นผมจะเสนอให้เพิ่มโควต้าต่างชาติมาอีก 1คน ไม่กระทบ

ทีมชาติหรอก ทำให้ดูฟุตบอลสนุกมากกว่าเดิม เพราะคนต่างชาติผีเท้าดี ความฟิตดี ยิ่งช่วยให้

นักเตะไทยเก่งขึ้น ในความคิดผมเลือกนักเตะคุณภาพมากกว่าปริมาณ ส่วนศูนย์ฝึกพัฒนา

เอาเงินที่ไหนมาทำ 5ภาคเหรอครับ ถ้ามีเงินมหาศารผมเห็นด้วย นี้แค่ทำแห่งเดียวใช้เงินไปเท่าไร

ในทางทฤษฎีใครก็พูดได้ครับ แต่ในทางปฎิบัติทำไม่ได้ ทำแห่งเดียวแบบครบวงจรก็ใช้เงินหมดแล้วมั้ง

บอลโลกบ้าไร เอา เอเชียนคัพ ให้รอดก่อนเถอะ

สมกับเคยเป็นส.ส. ชอบพูดไปเรื่อย!!

ดร.ภิญโญ นิโรจน์ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่การเลือกตั้ง พ.ศ. 2535 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปี พ.ศ. 2538 และเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนายชวน หลีกภัย