ต้องนิยามกันใหม่แล้วมั้ง อะไรคือบูลลี่ ไม่งั้นทุกอย่างมันจะกลายเป็นบูลลี่ไปหมด

ทุกวันนี้คนมันเซนซิทีฟกันเกินไป เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้ ไปขยายความกันวุ่นวาย

กลายเป็นว่า ถ้าเป็นการวิจารณ์ในเชิงลบ ไม่สร้างสรรค์ จะกลายเป็นบูลลี่หมดเลย สินะคับ

มันก็เริ่มอยู่ยากนะแบบนี้ 5555+

ส่วนตัวผม อยู่ที่ว่าอีกฝ่ายเป็นใครมากกว่า ถ้าเป็นดารา เซเลป เราก็มีสิทธิจะวิจารณ์ไหมอะ ก็รู้แหละ ว่ามันไม่ดี แต่ถ้าหน้าตาเละกว่าเก่า แย่กว่าเดิม จะให้ชมเหรอ เข้าไปชมแบบเฟคๆ กันงั้นเหรอ

ไม่บูลลี่ แค่ไม่เหมาะสม เสียมารยาทครับ

บูลลี่ชัดๆ งงหวะ คนกดไม่บุลลี่กันเยอะซะงั้น

หรือผมเข้าใจอะไรผิด

จริงๆอาจจะหวังดีไม่ได้เหยียดอะไรหรอก แต่ถามว่ามันแก้ไขได้ไหม ถ้าได้ก็ไม่บูลลี่ แต่แก้ไม่ได้ก็ถือว่าบูลลี่

เดี๋ยวนี้บูลลี่หมดแหละ ถ้าไม่ใช่เรื่องของเรา

ถ้าพูดความจริงแล้วโดนหาว่าบูลลี่ ก็เชิญสตอเบอรรี่กันต่อไป เช่น ไม่น่าฝังมุกมาเลยนะตัว แบบเก่าก็ลื่นปื้ดๆ อยู่แล้ว

เทียบหน้ากับมือถือน้อท่าน คนละเรื่องเลย

555 ลื่นปื้ดๆ แล้วแบบใหม่เป็นยังไงครับ แปร้ดดดๆๆหรอ

ไม่บูลลี่นะ...แต่ไม่สอจะดีกว่า

ตรรกกะเชื่อมโยงอะไรวะ5555555555
โทรศัพท์กับรูปร่างหน้าตามันมาจัดอยู่ใน catagory เดียวกันในเรื่องนี้ได้ยังไง5555555555
ไอ้คำว่าไม่น่าทำแบบนี้เลย(กับรูปลักษณ์ตนเอง)มันก็เป็นการ criticism แล้วป่าว

ยกตัวอย่างที่เคยมีคนวิจารณ์ไมเคิล แจ็คสัน เรื่องสีผิวเปลี่ยนอะ คนก็ไปรุมวิจารณ์ว่าเขาว่าไปเปลี่ยนสีผิวทำไม แบบนั้นก็ถือเป็นการ bully แล้ว ทั้งๆ ที่จริงเขาเป็นโรคด่างขาวแต่ไม่กล้าบอกใครก็เพราะกลัวโดน bully อีกนั้นแหละ

สักแต่จะเถียงอะเนอะ

พูดสร้างสรรค์ไม่ยากหรอก

คำๆนึง ส่งผลรับต่อผู้ฟังพอสมควร

อยู่เฉยๆก็ได้มั้งถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว วิจารณ์ก็วิจารณ์การทำงานเขาไปไม่ยากหรอกถ้าจะทำ

อ่านตรรกะคนบอกไม่บูลลี่ก็โครตบั่นทอนแล้วการวิจารณ์มันก็มีขอบเขตอยู่นะอย่างเรื่องส่วนตัวก็เลี่ยงๆไปจบ แล้วการไม่บูลลี่ไม่ได้แปลว่าต้องไปโกหกหรือแกล้งชมเขาเลยเงียบบ้างก็ได้มันไม่ยากหรอก