แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Sep 2013
ตอบ: 10055
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 23, 2020 10:35
[RE: อะไรคือ...ความเป็นยูไนเต็ด]
ผมขออนุญาติเทียบกับยุคLVGและมูนะ
ไม่ใช่เพราะ2คนนี้แทคติกไม่ดี แต่มันจะใช้เป็นเหตุผลที่อธิบายแมนยูได้มากที่สุด
ฟานกัล สวนกลับช้า
เพราะปรัชญาเขา คือ จะต้องเซ็ตเกมจากแดนหลัง และผู้รักษาประตูจะต้องมีส่วนร่วมกับเกมรุก
ผลคือ เกมรุกขาดความดุดัน เพราะเล่นกันหลายจังหวะเกิน
แฟนบอลตะโกน attack attack มีคลิป
เพราะเกมรุกของลุงกัลไม่เหมือนเกมรุกในอุดมคติของแฟนบอล ที่ต้องรวดเร็วและดุดัน
ส่วนในรายของมูนั้น ผมจะใช้คำว่า Negative football
ไม่ใช่แง่ร้ายนะ เพราะมันก็ดีในแบบของมัน การที่เล่นด้วยความกังวล
เพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุดมันเป็นสิ่งที่ต้องมีทุกทีมอยู่แล้วครับ
แต่กลับกันแฟนบอลแมนยูต้องการความเสี่ยงครับ
ป็อกบาเคยให้สัมภาษณ์หลังเกมที่นำ1-0แล้วโดนยิงเสมอ1-1จากการเล่นบัสท้ายเกมว่า
แมนยูควรเล่นเกมรุก ยิงได้แล้วก็ต้องยิงเพิ่มอีก
จากคำพูดของป็อกบานั่นแหละครับ คือ คำตอบ แมนยูต้องพร้อมบุกแม้ต้องแลกกับความเสี่ยง
ส่วนโซลชาร์นั้น เข้ามาเพื่อพยายามทำตามที่แฟนบอลเรียกร้องตัวตนของแมนยู
ซึ่งในส่วนของการเล่นเกมรุกเน้นบุกรวดเร็ว เร้าใจ
โอเคทำได้ดี สปิริตก็พอได้ นักบอลก็เอาด้วย
แต่ในเรื่องความเสี่ยง เสี่ยงแล้วเสียประตู
ยิงนำแล้วจะยิงเพิ่ม หลังลอยเสียประตูอีก
จนพักหลังๆมา ไม่กล้าเสี่ยงแล้วครับ
เปลี่ยนตัวเพลย์เซฟ เพราะเรียนรู้ที่จะเล่นแบบรัดกุมมากขึ้น
แต่สุดท้าย ก็ไม่ได้ผล รัดกุมไม่พอ แนวรุกก็ดันมาเจ็บอีก
พังครับ
ผมถึงบอกว่า โซลชาร์เป็นเหมือนตัวแทนของแนวทางแมนยู
หากเขาไม่ได้ผล ผมไม่กล้าเชื่อแล้วครับว่าidentityของแมนยูกับยุคสมัยนี้มันจะไปด้วยกันได้
แก้ไขล่าสุดโดย Famelaini เมื่อ Thu Jan 23, 2020 10:39, ทั้งหมด 1 ครั้ง