Bombay Sapphire ไพลินแห่งวงการ Gin
Laverstoke mill,
Laverstoke, England

ถ้าจะหา Gin สักตัวที่เป็นที่จดจำแม้แต่กับคนที่ไม่ชอบ Gin ขวดสีฟ้าของ Bombay Sapphire น่าจะเป็นอีกหนึ่ง Brand ที่หลายๆคนน่าจะเคยผ่านตากันบ้างอยู่แล้ว
Bombay Sapphire เปิดตัวครั้งแรกในปี 1986 โดย International Distillers & Vintners ซึ่งต่อมาได้ควบรวมเป็นส่วนหนึ่งของ Diageo ก่อนที่สุดท้ายจะถูกซื้อมาอยู่ในการดูแลของ Bacardi ในปี 1997 จนถึงปัจจุบัน โดยการต่อยอดมาจาก Bombay Original Dry โดยการเพิ่มสมุนไพรในการผลิตเพิ่มจาก 8 เป็น10 ชนิด และได้เปลี่ยนขวดจากขวดใสมาเป็นสีฟ้าที่เราคุ้นเคยกัน ซึ่งได้รับความนิยมแซงรุ่นพี่อย่างรวดเร็ว จนมีสินค้าตัวใหม่ออกมาอีก3ตัว Bombay Sapphire East(2011) Star of Bombay(2015) และ Bombay Sapphire English Estate(2019) ซึ่งใช้ขวดสีฟ้าทั้งหมด
โดยที่มาของชื่อมีที่มาจากสองส่วน ส่วนแรกคือ Bombay มาจากความนิยมในการดื่ม Gin ในอินเดียช่วงที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิอังกฤษ โดยมีเมืองท่าสำคัญของเมือง Bombay หรือ Mumbai ในปัจจุบัน ส่วนที่สอง Sapphire มาจากไพลินที่มีชื่อเสียงมากที่ชื่อว่า Star of Bombay ซึ่งปัจจุบันเก็บรักษาพิพิธภัณฑ์ Smithsonian ในอเมริกา
โดยบนฉลากก็จะมีภาพของควีนวิคตอเรียบนตัวเรือนไพลิน ซึ่งเป็นผู้ปกครองคนแรกของ British Raj จนทำให้อังกฤษในขณะนั้นได้ชื่อว่า the empire on which the sun never sets จากเขตการปกครองที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้นเอง


Logo ของ Bombay Sapphire


ขวดสีฟ้าอันเป็นที่คุ้นตา


อัญมณีที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดชิ้นหนึ่ง ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Smithsonian ในอเมริกา โดยเจ้าของคนสุดท้ายคือ Mary Pickford ดาราหนังเงียบผู้ได้ชื่อว่า America 's Sweetheart ชือของเธอยังกลายมาเป็นชื่อ cocktail อีกด้วย


สมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย(1819-1901) ผู้ได้ชื่อว่า The Grandmother of Europe


โรงกลั่นปัจจุบันของ ฺBombay Sapphire ที่อยู่ที่ Liverstock ประเทศอังกฤษ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ เรือนกระจกที่ใช้ปลูกสมุนไพรที่ใช้ในการผลิต สำหรับผู้ที่ไปเยี่ยมชมได้ศึกษา

มิกซ์ชเวปส์อย่างอร่อยเลย ยิ่งได้มะนาวฝานด้วยนะ อื้มมม อาโหร่ยยยยย

ถ้าชอบ Gin เดวพรุ่งนี้ผมทำ Hendrick ต่อละกันครับ555

ผสม Tonic + Lemon ใส่ขิงด้วยหน่อยๆ ที่สุดเลยยยยยยยย

ที่ผมชอบสุดน่าจะว็อดก้า ชเวปส์ แต่ที่บ้านมีเหล้าหลายแบบเพราะแฟนชอบชงค็อกเทล

บางทีผมก็เอามาลองชิมดูเพลินๆ

กะว่าจะทำสลับๆกันไปไม่แค่จินครับ เน้นแค่เรื่องแบรนด์ ไม่ลงลึกไป อ่านสนุกๆไว้โม้เล่นในวงเหล้าหรือไว้คุยกับสาวเวลาไปค้อกเทลบาร์ได้ครับ 55+

กลิ่นหอม เผ็ด มีเอกลักษณ์ดี แต่ผมชอบกอร์ดอนมากกว่าตอนกินแบบไม่ผสม มันละมุนกว่า

เคยผ่านตา ... มันคือเหล้าหรอครับ

Gin นี่ผมชอบ Tanqueray มากกว่า
โดยเฉพาะ No.10 นี่ละมุนนนนน

วิคตอเรียที่เป็นแม่ยายของยุโรปนี่คนละคนกับควีนอังกฤษนะครับ

ตั้งแต่กินมา ตัวนี้ชอบสุดละ The best

ผมไม่แน่ใจว่ามีหลายคนหรือเปล่านะครับ แต่คนนี้ก็ได้ฉายานี้เหมือนกัน จากการที่โอรสธิดาแต่งออกไปทั่วยุโรป แล้วยังเป็นพาหะนำพาโรค haemophilia ในหมู่ราชวงยุโรปเช่นกัน

เลือกไม่ถูกเลยจะทำยี่ห้อไหนต่อ ตั้งใจอยากจะทำแบรนด์ตลาดๆที่หาง่ายๆตาม7/11 ก่อนเผื่อเพื่อนคนไหนยังไม่รู้จะได้เรื่องโม่ในวงเหล้า คืนนี้ไม่ Gordon ก็ Tanqueray ละกันครับ

ิจินโทนิคนี่แหละ ขมๆ กันไป

เออจริงด้วยครับคนนั้นชื่อมาเรียเทเรซ่า ผมจำและเข้าใจผิดเองครับ ขอโทษด้วยครับ