ชาตินี้ยังไงก็ต้องไปญี่ปุ่นให้ได้ part I
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1840071/1/#41927622
ชาตินี้ยังไงก็ต้องไปญี่ปุ่นให้ได้ part II
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1840228/1/#41930538
วันที่ 3 TOKYO > OSAKA
แพลนของเราวันนี้คือ กินข้าวหน้าปลาดิบที่ตลาดปลา Tsukiji, ไปดู Gundum ที่ Odaiba และย้ายเมืองไปยังโอซาก้าต่อ
ถ้าจะไปดูการประมูลปลาต้องตื่นแต่เช้าตรู่ครับ ตื่นสาย แฮงค์อีกแล้ว ไปตลาดปลาไม่ทันแน่นอน 555 เลยชิลๆ Check Out ออกจากโรงแรมประมาณ 8:00 น.
สภาพตอนเช้าของ Ueno ต่างจากเมื่อคืนลิบลับ
ถ่ายรูปเป็นที่ละระลึกก่อนเดินทาง
เรานั่งรถไฟฟ้าจาก สถานี Ueno มาลงที่ สถานี Yarakucho (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)
และเดินเท้าจากสถานีไปตลาดปลาครับ
กว่าจะเดินทางมาถึง เหนื่อยครับ ความหิวเข้าครอบงำ เจอร้านไหนเข้าร้านนั้น
ก่อนเข้าร้านก็ถ่ายรูปของที่อยากกินเอาไว้ ตามประสาคนพูดภาษาเค้าไม่ได้
เข้ามาด้านในร้านเค้าก็มีเมนูให้ครับ ละลานตาเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว
เคยดูแต่ในทีวี ไอ้ทีเค้าบอกว่าละลายในปาก คิดว่าเค้าโม้ เนื้อมันจะไปละลายได้ไง
พอมาเจอของจริงนี่แบบ อือหื้อออ~~ คือมันอร่อยจริงๆ นะครับ คุ้มค่ากับที่บินมากินถึงถิ่นจริงๆ
หลังจากเติมพลังกันเรียบร้อย เป้าหมายต่อไปขอเราคือ Gundum ที่โอไดบะ เช็คข้อมูลจากอินเตอร์เนต เราสามารถเดินทางจาก Tsukiji ไป Odaiba ด้วยรถเมย์ได้เลย
นั่งรถเมย์ครั้งแรกที่ญี่ปุ่น หลงครับ
ลงรถมาเจอแต่วิวทะเลสาบ
ทำไม? ทำไมไม่มีกั้นดั้ม?
หลังจากตั้งสติได้ เราก็ถามทางจากคนญี่ปุ่นที่อยู่แถวนั้น โดยเปิดแผนที่ในมือถือให้เค้าดู
คนญี่ปุ่นผู้โชคดี ทำหน้าตาครุ่นคิด สักพักก็บอกเส้นทางแก่เรา ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย
"Taxi" พร้อมกับยิ้มให้กับเราทั้งสองคน
เค้าว่ากันว่า Taxi ในญี่ปุ่น โค ตะ ระ แพง
เราโชคดีครับ เราได้ลองมัน
เราบอกทางคนขับ Taxi ด้วยการเปิดรูป Gundum ให้ดู
คนขับยกนิ้วโป้ง พร้อมเชื้อเชิญให้เข้าไปนั่งในรถ
จากแถวๆ ตลาดปลา Tsukiji มาหา Gundum ขับรถมาไม่ถึงสิบนาทีดีก็ถึงที่หมาย
ค่าเดินทางทั้งหมด 2700 กว่าเยน แหม่ สมคําร่ําลือจริงๆ
คนขับส่งเราพร้อมชี้นิ้วบอกทางเล็กน้อย เราก็เดินตามทางสักพักก็เห็นครับ
ไม่คิดว่าจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้ต้องมาแหงนหน้ามองของเล่น
ถ่ายรูปคู่กันซะหน่อย
ด้วยความโชคดี ใกล้ๆมีงาน Event พอดี เราเลยถือโอกาสเดินเล่นที่งานต่อด้วยเลย
เดินเล่นสักพักก็แวะหาของกินนั่งดูหญิงเพลินๆ (สองอย่างนี้ 1100 เยน แพงจริงๆ)
เดินจนทั่วงานก็ประมาณเกือบเที่ยง เราเลยตัดสินใจออกเดินทางไปโอซาก้าเลย
ขากลับเลยหาสถานีรถไฟใกล้ๆ เพื่อนั่งไป Tokyo Station ครับ ให้นั่ง Taxi อีกรอบคงไม่ไหว 555
ลายแทงสถานีรถไฟ ดูกี่รอบก็งง
พอถึงสถานี Tokyo Station พวกเราก็เดินหา JR Counter เพื่อออกตั๋ว Shinkansen เดินทางไป OSAKA
ด้วย Shinkansen จาก Tokyo มา OSAKA เราใช้เวลาแค่ 3 ชั่วโมงกว่าๆ ครับ
ด้วยความที่ไม่ได้หาข้อมูลการเดินทางมาก่อน มา Search เอาหน้างาน ก็เลยทำให้ขึ้นลงรถไฟผิดอยู่สักพัก
คืนที่ 3 และ 4 เราพักที่ B&S Eco Cube Shinsaibashi
2 คืน ราคา 2,538.16 บาทครับ ที่พักเราอยู่ใกล้ๆ สถานี JR-Namba
หลังจากขึ้นๆลงๆ จนเริ่มชินกับรถไฟญี่ปุ่นในที่สุดเราก็มาถึง JR-Namba
ออกจากตัวสถานี ก็เดินหาที่พักกันต่อ
คนโอซาก้า นิยมปั่นจักยานกันครับเห็นเยอะจริงๆ
เดินหาที่พัก อยู่สักพักใหญ่ๆ สุดท้ายก็เจอครับ
ที่พักที่นี่ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง กินเที่ยวเลยครับ Dotomburi, Shinsaibashi
หลักจากเช็กอินเก็บกระเป๋าเรียบร้อยก็มาสำรวจที่พักกันครับ
เป็นโรงแรม Capsule อีกเช่นเคย
หลังจากเก็บของและสำรวจโรงแรมเรียบร้อย เราก็ลงความเห็นว่าจะเดินไปปราสาทโอซาก้ากัน ถือโอกาสเดินชมเมืองโอซาก้าไปในตัวด้วยเลย
เดินเล่นไปเรื่อยครับ เจออะไรเจ๋งๆ ก็หยุดดูหยุดชิม
เดินชมเมืองมาได้สักพักใหญ่ๆ เราก็มาถึงปราสาทโอซาก้า
ด้วยความที่ตอนเรามาถึงสายไปหน่อย หมดเวลาเข้าชมภายในตัวปราสาท
พวกเราเลยทำได้แค่เดินดูความยิ่งใหญ่รอบๆ
หลังจากเดินชมปราสาทสักพัก รอบๆปราสาท ก็มีคนมาซ้อมเคนโด้กัน พวกเราก็ยื่นดูกันอยู่สักพัก
ชมปราสาทจนหนำใจก็เดินกลับทางเดิมมาเที่ยว Dotomburi,Shinsaibashi กันต่อเลย
มาถึงก็เจอกันกับพี่ Gulico อันเลื่องชื่อ
เดินมาทั้งวันเริ่มล้า เลยตัดสินใจหาร้านนั่งจิบเบียร์ชิลๆ กันดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยมาเดินเล่นกันใหม่
ร้านสไตล์นี้เหมาะกับพวกเราดีครับ นั่งดื่มชิลๆ ราคาไม่แพง หมดไปประมาณ 3000 เยน
หลังจากเมาพอหลับสบายก็ กลับโรงแรมเพื่อพักผ่อนครับ เตรียมพร้อมเดินสำหรับวันต่อไป
ขอจบวันที่สามไว้แค่นี้ก่อนนะครับ ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้