ชาตินี้ยังไงก็ต้องไปญี่ปุ่นให้ได้ part I
จริงๆ อยากเอาทริปนี้มาเล่าให้ฟังนานมากแล้วครับ แต่ผลัดมาตลอดเลย
เป็นทริปที่ผมและเพื่อนสองคนเที่ยวต่างประเทศกันครั้งแรก เป็นทริปในฝันจริงๆ
ทุกความทรงจำยังคงจำได้ดีเสมอ มีความสุขทุกครั้งที่ย้อนกลับไปคิดถึง
ก็เลยถือโอกาสช่วงหยุดยาวช่วงปีใหม่ เขียนรีวิว มาเล่าให้เพื่อนๆ SS ฟังกันครับ
เล่าย้อนกลับไปปี 2014 (พ.ศ. 2557 5 ปีที่แล้ว) วัยรุ่นยุคผมเติบโตมากับวัฒนธรรมญี่ปุ่น
เสพความเป็นญี่ปุ่นมาทั้งชีวิต การ์ตูนเอย หนังเอย
ทุกสิ่งทุกอย่างซึบซับเข้ามาในชีวิตโดยอัตโนมัติ
ญี่ปุ่นเลยกลายเป็นประเทศในฝันที่ยังไงชีวิตนี้ก็ต้องไปให้ได้ก่อนตาย
ขณะที่ท่อง Web เป็นปกติของทุกวัน อยู่ๆ ตาก็เหลือบไปเห็นโฆษณาสายการบินเที่ยวญี่ปุ่นในราคาโคตรถูก
เห็นดังนั้นผมเลยโทรไปชวนเพื่อนรักและสาธยายสิ่งที่ผมเจอให้มันฟัง และนั้นคือจุดเริ่มต้นของทริปในฝันทริปนี้ครับ
หลังจากจองตั๋วเสร็จก็มานั่งงง ว่าเมือง Fukuoka ที่เรากำลังจะไปมันอยู่ตรงไหนฟ่ะ
มารู้ทีหลังว่าเมือง Fukuoka เนี่ยอยู่ภาคใต้ของญี่ปุ่นเลย ก็เลยต้องมานั่งวางแพลนกันยกใหญ่
โดยแพลนคร่าวๆ ของพวกเราเป็นแบบนี้ครับ Fukuoka > Tokyo > Osaka > Oita > Fukuoka
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณทั้งทริป/คน
ค่าเครื่องบิน 6,500
ค่า JR-Pass 9,100
ค่าโรงแรม 7,000
ค่ากิน 7,400
ติดตัวฉุกเฉิน 5,000
รวม 35,000 บาท
แป๊ปๆ ก็มาถึงวันเดินทาง
วันที่ 1 BKK > FUKUOKA
เครื่องขึ้นจากสนามบินสุวรรณภูมิ ตี 2:15 น. ถึงสนามบิน ฟุกุโอกะ 9:30 น.
พวกเราเล่นไปถึงสนามบินตั้งแต่ 3 ทุ่มครับ กลัวตกเครื่อง
ก่อนขึ้นเครื่องก็แลกเงิน หาของกินและถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยครับ
ของกินในสนามบินแพงนี่สลัดจริงๆครับ
นั่งๆ นอนๆ เดินเล่นหาอะไรทำสักพักก็ถึงเวลาขึ้นเครื่อง โดยเราใช้เวลาเดินทางจากไทยไปญี่ปุ่นประมาณ 5 ชั่วโมง
หลังจากเครื่อง Landing ก็อาศัยเดินตามเค้า จนไปเจอด่านตรวจคนเข้าเมือง
บอกตรงๆ ตื่นเต้น เครียดหนัก กังวลไปหมดเลย อารมณ์เหมือนไว้ผมยาวแล้วเดินเข้าห้องปกครอง 555
เช็คเอกสารทุกอย่างที่มี ทำหน้าตาให้เป็นมิตรที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ้มให้ทุกคนที่หันมามอง
สุดท้ายเราสองคนก็หลุดเข้ามาญี่ปุ่นได้สำเร็จ ความฝันเป็นจริง พวกเรามาถึงญี่ปุ่นแล้วเว้ยยย
หลังจากหลงอยู่ในสนามบินอยู่พักใหญ่ๆ เราก็ออกจากสนามบินโดย Shutttle bus เพื่อต่อรถไฟเข้าเมืองไปยังเมือง Fukuoka
หลังจากถึงสถานีรถไฟเราก็เริ่มหา Sim Card และ แลกตั๋วรถไฟ JR-Pass สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยในการเดินทางในทริปนี้
เดินหาไปรณีย์เพื่อรับ Sim Card(ราคาตอนนั้น 1400 ครับ)
หลังจากได้ Sim ก็เหมือนได้ดวงตา
เราเดินทางจาก Fukuoka Airport ไป Hakata station โดยแวะรับ JR-Pass ที่สถานี Hakata Station
รับ Sim และ JR-Pass เรียบร้อย ก็ถึงเวลาเข้าที่พักคืนแรก โดยคืนแรกเราจอง Hostel ใกล้ๆ สถานีรถไฟ
สามารถเดินเท้าไปโรงแรมโดยใช้เวลา 15 นาที คืนแรกเราพักที่ Khaosan Fukuoka สองคน 1730.26 บาท
ระหว่างเดินทางก็แวะถ่ายรูปไปเรื่อย ทุกอย่างในญี่ปุ่นแปลกตาสำหรับเราไปหมด โดยเฉพาะตู้น้ำเจอไม่ได้เลย
มีอย่างเดียวที่เราซื้อไม่ได้คือบุหรี่นี่แหละครับ หยอดเงินครบทุกอย่าง เอานิ้วไปทาบ ทำทุกอย่างที่คิดออก ทำยังไงมันก็ไม่ออกมา พึ่งมารู้ตอนหลังว่าเค้าต้องใช้บัตร 555
หลังจากตื่นตาตื่นใจกับความเป็นญี่ปุ่น เดินมาสักพักเราก็มาถึงหน้าโรงแรมที่จองไว้
หลังจากเก็บของเสร็จเราก็ออกมาหาของกินกันครับ
ระหว่างทางมาหลงอยู่กับตู้พวกนี้อยู่นานเหมือนกันครับ ตัวดูดเงินชั้นดีเลย 555
อาหารที่ญี่ปุ่นมื้อแรก ต้องเป็นราเมง
หลังจากกินอะไรเสร็จก็กลับที่พักอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ ออกเดินเที่ยวญี่ปุ่นกัน
เราเที่ยวแบบไม่มีแผนอะไรเลยครับ คิดว่าอะไรที่เป็นญี่ปุ่น แวะดูแวะชิม ก็พอ
เดินเล่นสักพัก ก็เริ่มมืดครับ ได้ยินว่าญี่ปุ่นพระอาทิตย์ตกเร็ว แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้
ตกดึกเห็นร้านเหล้าแบบญี่ปุ่น เคยเห็นแต่ในการ์ตูน ไม่คิดว่าจะเจอของจริง เกิดมาสักครั้งในชีวิตต้องลอง
คนญี่ปุ่นน่ารักครับ ชวนเราคุย ไอเราก็รู้ภาษาญี่ปุ่นแค่งูๆ ปลาๆ
อิคึ อิคึ อิไต อิไต ไอชิเตรุ คุยกันไม่รู้เรื่องหรอกครับ แต่สนุกดี 555
ราคาอาหารและเครื่องดื่มค่อนข้างแพงเลยทีเดียว เราเลยชิงเช็คบิลก่อนที่จะติดลม
ค่าเสียหายทั้งหมด 4400 เยน ครับ ก่อนเข้าที่พักก็แวะซื้อเบียที่ Family Mart
มาต่อกันในห้องอีก แล้วก็เมาหลับไม่รู้เรื่องกันไป วันแรกที่ญี่ปุ่นเมากันยับเลยทีเดียว 55555
ขอจบวันแรกไว้แค่นี้ก่อนนะครับ ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้
: 0 ใบ
: 0 ใบ
บอกไม่ถูกว่าทำไม แต่ก็อยากไปทุกทีที่ว่างยาวๆ นึกถึงออนเซ็น นึกถึงซูชิ เห้อ อยากไปอีกแล้ว แม้จะไปมาห้ารอบแล้วก็ตาม 
My Locker
