เชซุสเบิ้ลกริ๊บ!บราโว่หางาน"เรือ"มีเสียวเปิดซิงอันเช่ 2-1 ที่สามต่อไป
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้สองประตูในครึ่งหลังจากการเหมาของ กาเบรียล เชซุส แต่มาปวดหัวกับความผิดพลาดของ เคลาดิโอ บราโว่ ที่ทำให้ ริชาร์ลิซอน ยิงตีไข่แตกให้เอฟเวอร์ตัน จนท้ายเกมมีเสียวนิดๆ แต่สุดท้ายปิดจ็อบเชือดชนะไป 2-1 เรือใบสีฟ้า เก็บเพิ่มเป็น 44 คะแนนจาก 21 นัด รั้งที่สามของตารางตามหลังจ่าฝูงลิเวอร์พูล 11 แต้มแต่แข่งมากกว่า 2 เกม ส่วนคาร์โล อันเชล็อตติ เสียซิงเป็นนัดแรกในการคุม ท๊อฟฟี่
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 3-4-2-1
47.
ฟิล โฟเด้น
83'
7
26.
ริยาด มาห์เรซ
90+3'
7.5
ตัวสำรอง
21.
ดาบิด ซิลบา
83'
6
7.
ราฮีม สเตอร์ลิง
90+3'
-
พรีเมียร์ลีก
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
พุธที่ 1 มกราคม 2563
กรรมการ อันเดร มาร์ริเนอร์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
2
1
เอฟเวอร์ตัน
1-0 กาเบรียล เชซุส 51'
2-0 กาเบรียล เชซุส 59'
ซิตี้โรเตชั่นตัวจริง 5 คนจากเกมที่แล้ว วันนี้ใช้เชซุสยืนหน้าเป้า มีโฟลเด้น,มาห์เรซคอยประสานงาน ตรงกลางมีเดอ บรอบน์,กุนโดกัน วิงแบ็คสองข้างเมนดี้,คันเซโล่ และใช้สามกองหลังเป็นโรดรี้,แฟร์นันดินโญ่,การ์เซีย และบราโว่เฝ้าเสาแทนเอแดร์ซอนที่ติดแบน สำรองเปลี่ยนเกมมีทั้งอเกวโร่,สเตอร์ลิง,ซิลบา,แบร์นาร์โด้
ฝั่งเอฟเวอร์ตันเปลี่ยน 5 คนเหมือนกัน คู่หน้า DCL กับริชาร์ลิซอน มีกิลฟี่คอยหนุน แผงกลางเป็นดีญ,เดลฟ์,เดวีส,ซิดิเบ้ สามเซนเตอร์เป็นโฮลเกต,มิน่า,โคลแมน และพิคฟอร์ดเฝ้าเสา
• เจอกัน 5 นัดหลังซิตี้ไม่แพ้และชนะมา 4 เกมติด
ท๊อฟฟี่ทักทายก่อนจากโคลแมน
โอกาสลุ้นประตูคร้งแรกในเกมเป็นของเอฟเวอร์ตัน จังหวะที่กิลฟี่ตักบอลให้โคลแมนวิ่งสอดทะลุเข้าไปรับในกรอบฝั่งขวาก่อนตวัดยิงด้วยซ้ายไปติดเซฟบราโว่
โฟเด้นซัดตุงโดน VAR ย้อนจับล้ำ
แล้วทำไปทำมาเรือใบสีฟ้าส่งบอลเข้าประตูจากจังหวะต่อบอลขึงแล้วมาห์เรซแทงให้คันเซโล่หลุดไปถึงเส้นหลังฝั่งขวาก่อนเปิดยัดเลยถึงเสาสองให้โฟลเด้นชาร์จโล่งไม่เหลือ แต่กลายเป็นเฮเก้อเพราะ VAR ย้อนไปจับเป็นจังหวะล้ำหน้าของมาห์เรซไปเสียก่อน
มาห์เรซโดน VAR จับล้ำอดจุดโทษ
เกมหยุดลงพักใหญ่เมื่อผู้ตัดสินต้องเช็ก VAR จากจังหวะที่มาห์เรซได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วโดนดีญสะกิดเสียจังหวะ แต่กลายเป็นว่ามาห์เรซโดนจับล้ำหน้าทำให้เรือใบอดได้จุดโทษ
เชซุสพลิกกดด้วยขวาหลุดคาน
ซิตี้ได้โอกาสลุ้นอีกครั้งจังหวะตัดบอลได้กลางกทางแล้วเดอ บรอยน์โขกต่อให้เชซุสรับพลิกตัวซัดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษก่อนที่บอลจะพุ่งแรงหลุดคานไปไปนิดเดียว
มาห์เรซซัดด้วยซ้ายยังติดเซฟ
ซิตี้ขึงเกมบุกและได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่มาห์เรซรับบอลจากเมนดี้ก่อนได้จังหวะซัดด้วยซ้ายริมกรอบฝั่งซ้ายแล้วโดนพิคฟอร์ดเซฟออกหลังเป็นเตะมุม
กุนโดกันส่องแถวสองติดพิคฟอร์ด
จังหวะบุกต่อเนื่องของซิตี้เป็นกุนโดกันที่เก็บบอลแถวสองแล้วลองซัดไกลด้วยขวาบอลพุ่งตรงกรอบแต่ก็ตรงตัวติดเซฟพิคฟอร์ด
โฟเด้นหลุดซัดเบาเจ้ามือพิคฟอร์ด
ซิตี้ยังครองบอลบุกมากกว่าต่อเนื่อง จังหวะนี้เมนดี้ได้บอลริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนเปิดให้โฟเด้นแตะหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนที่เขาจะตัดสินใจยิงเองบอลพุ่งเบาไปเข้ามือพิคฟอร์ด
เชซุสดีดด้วยซ้ายไม่ตรงอีก
โอกาสอีกครั้งของเจ้าถิ่น จังหวะที่เมนดี้เติมได้บอลหลุดไปทางริมกรอบฝั่งซ้ายก่อนเปิดไปเสาแรกให้เชซุสจับแล้วดีดเร็วด้วยซ้ายแต่โดนไม่ดีทำให้ปลิ้นหลุดกรอบไปอีก
เชซุสไหลมาห์เรซกดอีขวาหลุดเสาสอง
ซิตี้น่าได้ประตูออกนำแบบสุดๆ จังหวะที่คันเซโล่แทงทะลุช่องให้เชซุสสอดไปรับในกรอบฝั่งขวาก่อนดึงแล้วไหลให้มาห์เรซวิ่งมาซัดด้วยขวาบอลพุ่งเรียดหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย
มาห์เรซพักจ่อแต่ยิงไม่ถนัด
เมนดี้ได้บอลทางริมกรอบฝั่งซ้ายก่อนบรรจงครอสเข้าไปตรงกลางถึงมาห์เรซพักที่เสาสองแล้วจังหวะจะยิงโดนดีญขวางทำให้ดีดโดนไม่เต็มแล้วบอลย้อยเข้ามือพิคฟอร์ดรับสบาย
มิน่าโขกเตะมุมหลุดคาน
ท้ายครึ่งแรกเอฟเวอร์ตันมาได้เตะมุมทางฝั่งขวา เป็นกิลฟี่ที่รับหน้าที่เปิดโด่งไปตรงกลางแล้วเป็นมิน่าที่เทคโหม่งหลุดคานไปอย่างน่าเสียดาย
จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0 ฝั่งเรือใยส่งบอลเข้าประตูต้นเกมแต่โดน VAR จับล้ำ จากนั้นเป็นฝ่ายครองบอลบุกแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คม ฝั่งเอฟเวอร์ตันนานๆได้สวนทีแต่ยังไม่มีอันตรายมากนัก
เอาจนได้!เชซุสหลุดปั่นโค้งๆเสียบเสาสอง 1-0
เริ่มครึ่งหลังมาไม่นานซิตี้มาได้ประตูออกนำจนได้ จากจังหวะที่กุนโดกันแทงบอลกลางสนามให้เชซุสหลุดไปในกรอบฝั่งซ้าย จับแต่งเข้าขวาแล้วปั่นโค้งๆไปเสาสอง พิคฟอร์ดปัดโดนปลายมือแต่บอลยังพุ่งเสียตาข่ายสวยงาม 1-0 เจ้าถิ่นออกนำ
DCL โขกเตะมุมแฉลบหลุดนิดเดียว
เอฟเวอร์ตันได้ลุ้นประตูตีเสมอ จากจังหวะเตะมุมฝั่งขวาที่กิลฟี่เปิดไปเสาแรกให้คัลเวิร์ต-เลวินเทคโหม่งแฉลบเชซุสออกหลังไปนิดเดียว
ง่ายๆเลย!เรือจ่ายเป็นทอดก่อนเชซุสหลุดซัดไม่เหลือ 2-0
แล้วซิตี้มาได้ประตูไหลเป็น 2-0 จากจังหวะต่อบอลกันง่ายๆ เดอ บรอยน์ไหลให้โฟเด้นแปะต่อให้มาห์เรซแทงให้เชซุสหลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายในกรอบฝั่งซ้าย บอลพุ่งเสียบเสาแรกไปเลย เป็นการเบิลของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย
มาห์เรซโฉบซัดตามน้ำ
ซิตี้ได้ฟรีคิกหน้ากรอบฝั่งซ้าย เป็นเดอ บรอยน์รับหน้าที่ตักเข้าไปในกรอบเขตโทษให้มาห์เรซโฉบไปตวัดตามน้ำอต่บอลพุ่งหลุดกรอบไป
บราโว่พลาด!!ริชาร์ลิซอนลงโทษซัดท๊อฟฟี่ไล่ 2-1
แล้วทำไปทำมาเอฟเวอร์ตันมาตามตีไข่แตกสำเร็จ จังหวะที่บราโว่ออกบอลประมาทโดนริชาร์ลิซอนดักสะกิดได้ก่อนไปเข้าทางคีนที่กระชากมาที่หน้ากรอบเขตโทษหาจังหวะยิงแต่โดนการ์เซียแหย่สะกัดได้ แต่บอลก็ยังไปเข้าทางวัลคอตต์ที่เปิดยัดจากฝั่งขวาแฉลบเมนดี้เปลี่ยนทางไปมห้ริชาร์ลิซอนชาร์จเสาสองไม่เหลือ 2-1 ทันที
เชซุสโขกกดลงพื้นยังติดพิคฟอร์ด
ซิตี้น่าได้ประตูที่สามจากจังหวะที่คันเซโล่ได้ตั้งป้อมเปิดจากริมกรอบฝั่งขวาไปเสาสองให้เชซุสเทคโหม่งลงพื้นเน้นๆ แต่พิคฟอร์ดยังพุ่งมาปัดเอาไว้ได้ทัน
คีนวอลเลย์ ท๊อฟฟี่เกือบมีเจ๊า
เอฟเวอร์ตันน่าได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ซิดิเบ้ได้บอลทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนปักหลักครอสเข้ากลางแล้วเป็นคีนที่เอี้ยวตัววอลเลย์บอลเด้งหลุดกรอบไป
เชซุสกดอีซ้ายจูบเสาอย่างจัง
เรือใบเกือบจะได้ประตูที่สามจังหวะมาห์เรซเล่นชิ่งกับกุนโดกันหน้ากรอบเขตโทษก่อนแทงถวายพานให้เชซุสหลุดไปซัดด้วยซ้ายในกรอบฝั่งซ้ายบอลพุ่งแรงพลาดชนเสาสนั่น
เดวีสโขกย้อนหลุดกรอบ
เอฟเวอร์ตันได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย เป็นดีญที่รับหน้าที่เปิดโด่งเข้าไปตรงกลางแล้วเป็นเดวีสที่เทคโหม่งย้อนศรหลุดกรอบไป
เรือปิดเกมเชือดหวิว 2-1 ตามหงส์ 11 แต้ม
ท้ายเกมเอฟเวอร์ตันกดดันได้ไม่มากนัก ก่อนที่ซิตี้จะประคองปิดเกมและเอาชนะไป 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 44 คะแนนจาก 21 นัด ยังรั้งที่สามตามจ่าฝูงลิเวอร์พูล 11 แต้มแต่แข่งมากกว่าถึง 2 เกม
เอฟเวอร์ตัน
Starting Formation: 3-4-1-2
23.
เซมัส โคลแมน
59'
6
10.
กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน
66'
6.5
9.
โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน
6
ตัวสำรอง
11.
ธีโอ วัลคอตต์
59'
6.5
27.
มอยส์ คีน
66'
6.5
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Thu Jan 02, 2020 07:20, ทั้งหมด 12 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ