เป็นโปรแตสแต็นท์สาย pure charismatic ครับ (เหมือนเน้นเรื่องปาฎิหารอ่ะ)

จากที่เคยไปเยี่ยมสอบถามหลายๆคนที่เค้าเข้าประจำ ส่วนใหญ่จะล้มเพราะเกรงใจ หรือ
เชื่อว่าล้มแล้วจะได้รับพระพรจากพระเจ้าครับ (ซึ่งส่วนตัวผมใม่เห็นด้วยนะ เพราะมันผิด
พระคำภีร์ เป็นการนำประสบการณ์ส่วนตัวของคนไม่กี่คนมาเป็นหลักปฏิบัติทำงศาสนาฮะ)

เพื่อความสบายใจของชีวิต แนะนำว่าลองไปหาโบสถ์อื่นๆเข้าดูครับ

-หรือลอง อธิษฐานขอพระเจ้าที่ท่านเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าจะมีจริงรึเปล่าก็ได้ ว่าไปโบสใหนดี

-ค่อยๆอธิษฐานเหมือนตอนท่านขอเรื่องงานนั่นแหละฮะ ติดเรื่องไรก็ขอเรื่องนั้น ไม่เสียหายไร

ช่วงทดลองไม่เป็นไรหรอกครับ ช่วงแรกผมก็นับถือพุทธ
แต่อธิษฐานทุกวัน ศึกษาพระคัมภีร์จนวันหนึ่งเริ่มเชื่อ ผมก็ตัดสินใจบัพติศมา

ส่วนเรื่องการนับถือพระเจ้าอื่น สำหรับ ศาสนาคริสต์ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งเรื่องไหว้รูปเคารพด้วย ผมไม่ลงลึกละกัน เดี๋ยวดราม่า
ในพระคัมภีร์จะเปรียบเทียบถึงการแต่งงานบ่อยๆ การนับถือพระเจ้าอื่น ก็เหมือนกับการมีชู้
ในพระคัมภีร์จะเรียกว่า การเล่นชู้กับพระเจ้าอื่น เป็นเรื่องที่ซีเรียสมากในพระคัมภีร์

แต่ถ้าแค่นำหลักสอนมาใช้ ก็คงไม่มีปัญหาอะไร ท่านก็ค่อยๆดู ค่อยๆศึกษาไปก่อน
เมื่อถึงวันนึงที่ท่านมั่นใจ ท่านค่อยเลือกก็ได้

ผมว่าท่านต้องถามตัวเองก่อนว่าท่านนับถือศาลนาใปเพราะอะไร เพื่ออะไร มีจุดประสงค์อะไร หรือแค่ตามใครตามพ่อแม่ ตามสังคม ผมนับถือพุทธเพราะเชื่อในเหตุผลของการกระทำ เชื่อในหลักธรรมที่พิสูจน์ให้เห็นเป็นจริงโดยไม่มีข้อโต้แย้ง และมีจุดมุ่งหมายในการพ้นทุกข์ ส่วนศาสนาอื่นๆผมไม่รุ้ว่าแก่นเขาเป็นแบบไหนเพราะไม่เคยศึกษาจริงจัง ผมว่าถ้าท่านไม่มีเหตุผลที่ต้องนับถือก็อยุ่เฉยๆไม่นับถือไปเลยไม่วุ่นวายใจด้วยแบบนั้นผมว่าดีกว่าสบายใจ

ไม่เห็นว่า จขกท โพสต์อะไร แต่ดูจากคอมเม้นท์แล้วน่าจะเจอสายคาริสเมติก

คือต้องเข้าใจก่อนว่า คริสต์มีหลายสาย สำหรับนิกายคาทอลิกเป็นเหมือนกันหมดเพราะมีประมุขคือโป๊ป ส่วนโปรแตสแตนท์นั้นจะมีสายที่ไม่เหมือนกันเต็มไปหมด

สาเหตุก็เพราะตอนปฏิรูปศาสนาโดยมาติน ลูเธอร์ ประมาณว่าทุกคนตีความจากไบเบิลเองได้ ทำให้สายแตกออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

สายที่ จขกท เจอ ก็เป็นการตีความแบบหนึ่ง ที่ตีความว่าการได้รับพระวิญญาณจากพระเจ้า จะต้องแสดงออกด้วยการพูดภาษาแปลกๆ ซึ่งเอาแค่เรื่องนี้ก็มีอยู่ในไบเบิลสั้นๆ แถมนักวิชาการหลายคนบอกว่า ไอ้คำว่าภาษาแปลกๆ หมายถึงภาษาของคนต่างชาติที่ปกติตัวเองพูดไม่ได้แล้วอยู่ดีๆพูดได้เอง เช่นคุณเดินผ่านคนสเปนแล้วอยู่ดีๆคุณพูดภาษาสเปนกับเค้าได้เฉย

ส่วนเรื่องการล้ม การชักดิ้นชักงอ น่าจะมาจากการวิวัฒนาการของสาย

อันนี้พยายามอธิบายว่ามันคืออะไรนะ

ที่ผมยกเรื่องภาษามาเป็นตัวเปรียบเทียบเพราะอยากจะให้เข้าใจง่ายๆครับ อาจจะทำให้ดูฟังแล้วแปลกๆครับ แต่ที่ผมอยากจะสื่อก็คือผมมีความเชื่อว่าเราไม่จำเป็นต้องนับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่งเพียงศาสนาเดียวตลอดไป อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ ส่วนเรื่องของพุทธศาสนานั้น พระพุทธเจ้าไม่เคยบอกให้นับถือตัวท่านครับ แม้กระทั่งคำสอนของท่านก็เคยบอกว่า"จงอย่าเชื่อเราเพราะเราคือพระพุทธเจ้า"สิ่งที่พระพุทธเจ้าให้ยึดถือหลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานคือพระไตรปิฎกหรือคำสอนนั้นเองครับท่านไม่ได้สอนให้ยึดถือที่ตัวบุคคลครับเพราะพระพุทธเจ้ามีหลายองค์ครับ ในทางปฏิบัตินั้นผมเองก็เป็นผู้นับถือศาสนาพุทธครับแต่ก็สามารถที่จะเข้าโบสถ์ หรือเข้าสุเหร่าได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจครับและยังให้ความนับถือแก่ทุกศาสนาครับ เพราะผมคิดว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ดีที่สุด ทำให้เราเองสบายใจครับ

อ่อเข้าใจครับ เพราะตอนผมนับถือพุทธ ผมก็เป็นแบบนี้ครับ ให้ความนับถือทั้งคริส

และอิสลามผมเข้าหมด ผมไหว้หมดเหมือนกันครับ

เจออะไรผมก็ไหว้หมด ศาสนาพุทธเลยเป็นศาสนาที่รวมเอาหลายๆศาสนามาปนกัน

ยกตัวอย่างเช่นศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู ปัจจุบันผมแยกไม่ออกละครับว่าคนไทยนับถือพุทธหรือพราหมณ์ - ฮินดู

เพราะว่าพุทธไม่ได้ห้ามที่จะนับถือพระเจ้าองค์อื่นครับ แต่คริสเขามีกฎห้ามครับ

ถ้าพื้นฐานเราเป็นพุทธไม่แปลกเลยครับเพราะไม่มีกฏห้าม แต่ถ้าเป็นคริสไม่น่าได้ครับ

เพราะเขามีข้อห้ามว่าห้ามนับถือพระเจ้าองค์อื่นอะไรอย่างนี้ครับ