อุดครับ กับเชลซีสองรอบ รอบแรกปีกโหด
เลยเหมือนไม่ได้อุด ร็อบเบน ดัฟ

รอบสองนี้อุดชิบหาย ครึ่งแรกอย่าหวังว่าแบ๊คจะเติม
จะเซ็ตบอลเข้าทำ โยนให้ดร็อกบาอย่างเดียว
ครึ่งหลังถ้าเสมอถึงจะดันเกมบุก บางทีค่อยมาดันตอนนาที70 แล้วก็จบเกม 0-0

ถ้าไม่อุดแค่แกคุมสเปอร์คงไม่โดนเรียกรถบัสได้มาจอดที่ทอตแน่มแล้วหรอก

แต่นั่นก็เป็นอีกแง่ในคำสรรเสริญแกเลยนะ คือถ้ารถบัสแกได้จอดเมื่อไร

ยิงไปเหอะอย่าหวังว่าจะได้ประตู แทคติคแกเหนียวจริง

ถึงมันออกจะล้าๆไปหน่อยแล้วในปัจจุบันที่ฟุตบอลเน้นครองเกม

เพรซซิ่งหนักใส่ฝั่งตรงข้าม

ก่อนโดนเชลซีปลดรอบสองกับแมนยูสถานการณ์คล้ายๆกันครับ
ปีสุดท้ายของเชลซีคือนักเตะฟอร์มตกกันเยอะแล้วตัวที่แกต้องการจะเสริม
ทีมก็ดันเซ็นเป้าหมายหลักๆมาไม่ได้เลยเหมือนกรณีของแมนยูก่อนปลดเลย
ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าใครตามดูจริงๆจะรู้ดีว่าเชลซีเริ่มดรอปตั้งแต่ท้ายฤดูกาลที่ได้แชมป์แล้ว
โชคดีที่ต้นฤดูกาลตุนแต้มไว้เยอะพอเปิดฤดูกาลใหม่มาก็อย่างที่เห็น
สาเหตุหลักๆก็พวกตัวหลักฟอร์มตกมาติชนี่หนักเลยส่วนอาซาร์มูแกใช้จนกรอบ
ไม่แปลกหรอกที่จะฟอร์มตกแบบนั้นขนาดปลดมูไปแล้วทีมยังแทบไม่กระเตื้องเลย
จนลุงกุสต้องพักอาซาร์ยาวๆจนกว่าจะหายดีกว่าจะกลับมาฟอร์มเดิมก็ท้ายฤดูกาลละ
คนที่ไม่ได้ติดตามก็จะคิดแต่ว่านักเตะเชลซีเตะไล่โค้ชแต่จริงๆแล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่างของซีซั่นนั้นมันก็มาจากตัวมูเองล้วนๆตั้งแต่ทะเลาะกับหมอ
แผนก็ตันเจาะทีมที่มาบัสไม่เข้าโดนสวนตู้มหายทรงเดียวกับตอนคุมแมนยูฤดูกาลสุดท้ายเลย

อุดมากๆครับ ยิ่งเกมไหนเจอทีมใหญ่บอกเลยว่าน่าเบื่อมากๆ


เทียบปีที่มูพาได้แชมป์พรีเมียร์ 2014/15 กับยุคคอนเต้ที่ได้แชมป์พรีเมียร์ 2016/17


ความสนุกของการดูนั้นต่างกันแบบชัดเจน ฟ้ากับเหวเลยทีเดียว


แต่ข้อดีของน้ามูคือแกการันตีความสำเร็จให้ได้แน่นอน

เอาเป็นว่าบอลไม่สนุกครับ ไม่ว่าจะคุมทีมไหนในฐานะไม่ได้เชียร์ทีมที่มูคุมเลย คือดูแล้วไม่สนุก