http://www.soccersuck.com/boards/topic/1635975/1 part1
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1636701 part 2

ศึกเวิร์ดแรลลี่ กำลังจะมาอีกครั้ง หลังจากที่เราได้ยลโฉมปีศาจแดนมะกันกับปีศาจแดนอาทิตย์อุทัยมาแล้ว วันนี้เรามาดูปีศาจที่ดุที่สุดอีกค่ายหนึ่ง เรียกว่า คู่ปรับค่ายฟอร์ดเลยทีเดียว นั่นคือ ปีศาจซีตรอง

ซีตรองยังคงทำรถได้สวยสมและแรงสมกับเป็นตำนานเช่นเดิม
มาดูสเป็คและขุมพลังปีศาจตนนี้กัน

TECHNICAL SPECIFICATIONS


CHASSIS

Structure: Original Citroën C3 body reinforced with a welded, multi-point roll cage
Bodywork: Steel and composite fibre

ซีตรองยังคงยึดมั่นใช้เอกลักษณ์ของเขาเช่นเดิมครับ แทบไม่เปลี่ยนจากของเขาจากเดิมเลย การประกอบรถทุกอย่างเป็นงานมือนะครับ ใส่ใจทุกรายละเอียดแม้กระทั่งน็อต1ตัว








ENGINE TYPE : IN-LINE FOUR CYLINDER, 1.6 LITRE, TURBO DIRECT INJECTION




Bore x Stroke 84.0 mm / 72.0 mm

Power (max) 380 hp (280 kW) at 6,000 rpm

Torque (max) 400 Nm at 4,500 rpm

Transmission type Four-wheel drive

Gearbox Six-speed sequential





Differentials Mechanical front and rear self-locking Hydraulically-controlled central differential

Clutch Cerametallic twin-disk

Suspension MacPherson

Steering Power-assisted rack and pinion

Front Brakes Ventilated disks, 370mm (tarmac) and 300mm (gravel) Water-cooled four-piston callipers (tarmac)

Rear Brakes Ventilated disks, 330mm (tarmac) and 300mm (gravel) Four-piston callipers

Wheels 8 x 18 inch for tarmac, 7 x 15 inch for gravel & snow; Michelin tyres

Length 4,128 mm

Width 1,875 mm

Wheelbase 2,540 mm

Weight 1,190 kg minimum / 1.350 kg with crew

อย่างที่กล่าวคือซีตรองค่อนข้างให้ความสำคัญกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ค่อนข้างมาก
เน้นที่บอดี้ที่เน้นความแข็งแรงผสมผสานความคมของตัวรถ โดยพัฒนาระบบแอร์โรไดนามิกให้ดีกว่ายิ่งกว่าของเดิม ผสมผสานสมรรถนะเครื่องยนต์ที่สูงขึ้น สปอยเลอร์ถูกปรับแต่งใหม่สมู๊ทกับการลดการเสียดทาน ในทุกสภาวะอากาศและทุกสภาพถนน
นอกจากนี้ซีตรองยังเครมว่าช่วงล่างออกแบบพิเศษให้มีความยืดหยุ่นกับสภาพที่ชื้นแฉะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสนามที่เป็นประเภทหิมะ










หลังจากค่ายได้ทุ่มงบประมาณไปกับรถ2ล้านเหรียญ พัฒนารถจนออกมาเป็นรูปร่าง ได้มีการนำไปทดสอบในหลายสนามทั้งหิมะ ดินกรวด ก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ แต่ถึงกระนั้นค่ายก็ต้องทนแรงกดดันภายหลังจากมีค่ายรถหลายค่ายที่เข้ามาชิงชัยโดยเฉพาะคู่ปรับอย่างค่ายฟอร์ดที่พัฒนาตีคู่กันมา ฝ่ายเทคนิคของซีตรองยังกล่าวว่า นอกจากเจ้าเดิมที่แข่งกันมาตลอด สิ่งที่น่าสนใจคือมีรถหลายค่ายตบเท้ามาแข่งในรายการ และโชว์เทคโนโลยี เช่น ค่ายมินิคูเปอร์ ค่ายพอร์ช ที่ลงเปิดมาทำศึกด้วย

ภาพการซ้อมหลายสนามของค่ายฝรั่งเศส













ปล. WRC จะกลับมาคึกคักเพราะมีทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ร่วมชิงชัยสุดยอดรถแรลลี่ระดับโลก

น้องใหม่อย่าง มินิคูเปอร์



และที่เร้าใจกว่า คือ พอร์ช ก็เอาด้วยยยยยยยยลงมาปีที่2 แล้ว (สงสัยติดใจ)

ผิดบอดป่าว

ลืมแก้ละครับ

อ่อ สงสัยกำลังพูดถึงโปเช็ตติโน่ โค้ชสเปอร์ส เลยมาบอลนอก

ปัจจุบันมีใครมาล้ม Citroen ใน WRC ได้รึยังเนี่ย อ้อหลังๆ โดนแย่งไปแหะ

มีของตัวนี้ปะครับ อาจนานแล้ว แต่อยากอ่าน

ซีตรองแม้โดนแย่งไปแต่ก็ยังเป็นเต้ยรายการอยู่ ตอนนี้ฟอร์ดมาแรงจริง น้องใหม่หลายๆค่ายก็งัดสู้
เห็นโตโยต้ากวักมือเรียกซูบารุกับมิตซู ให้มาช่วยสู้ฐานะแบรนด์ญี่ปุ่นอีกครั้งนะ ไม่รู้ฝั่งนั้นว่ายังไง

Loeb ย้ายไปหายยาวเหมือนกันแหะ

รถโปรโมทของค่ายฟอร์ด แต่รุ่นนี้นานเหมือนกัน ที่เห็นชัดๆเลยฟอร์ดปรับช่วงล่างใหม่ครับ เน้นทางดินกับหิมะแล้วครับ

นึกถึง เซบาสเตียน โล้ป

ข่าวจากloeb เงียบจริงครับ แต่ศึกหน้าไม่แน่อาจจะกลับมา แต่ก็ดีละครับให้รุ่นใหม่เข้ามาบ้าง อยากwrc กลับมาคึกคักอีกครั้ง รอดูพอร์ชจะงัดเทคโนโลยีอะไรมา

loeb อาจจะไปค่ายน้องใหม่อย่างporsch นี่ฮาเลยนะครับ

นี่แหละรถที่คู่ควรกับถนนแถวบ้านผม

WRC ส่วนตัวผมชอบมากๆ เลยนะครับวัดทั้งคนและรถจริงๆ คืออะไรจะพังยังไงถ้าพอวิ่งได้ก็ต้องไปต่อ ว่าแต่ จขม ได้ดูรายการพวก VLN, Nur24 ด้วยมั้ยครับผมว่าถ้าทางฝุ่น WRC คืออันดับ 1 ทางเรียบล้อปิดเน้นความดิบๆ โหดๆ ผมว่ารายการ VLN, Nur 24 นี่คือไม่แพ้กันเลยแหละครับ