ถ้าตอนนี้สไตล์น้ามูก็โซลชาร์ไง เล่นสวนกลับกับทีมใหญ่มักจะทำได้ดีตลอด

ผมล่ะรักน้าจริงๆ

มูพูดถูกนะ ว่าทีมที่ยิงได้มากกว่านั่นแหละชนะ

แต่แกลืมนึกไปว่าว่าทีมที่ครองเกมนั่นแหละ มีโอกาสจะยิงได้มากกว่า ไม่ใช่เรื่อง PR หรือ Image ที่แกกล่าวอ้าง

ถ้าคิดตรรกะง่ายๆอย่างนี้ออก มองที่คล็อปมองที่เป๊ปแล้วปรับตัว ผมว่าแกคงไม่ตกงาน

ป.ล. ไอ้ฟุตบอลทรงอุดแล้วชนะเนี่ย มันไม่จีรังยั่งยืนหรอก แถมมันตายไปแล้วด้วย

ให้รอดู 50 ปีจากนี้ มันจะมีมั๊ย ทีมที่อุดแล้วประสบความสำเร็จและแฟนบอลพอใจด้วย? ไม่มีหรอกตอบเลย ตกยุค

ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปครับ เดี๋ยวนี้ทีมที่เน้นครองบอลเล่นเกมพาสซิ่งเค้าก็เล่นรับด้วยแต่ใช้วิธีเพรสซิ่งตั้งแต่หน้าปากประตูคู่แข่งแทนที่จะรอถอยโซนจนมากองกันหน้าปากประตูให้เค้าล่อเป้า เพราะวิทยาศาสตร์การกีฬาสมัยนี้พัฒนาไปมากทำให้นักเตะวิ่งได้มากขึ้นรู้จังหวะการวิ่งการหยุดวิ่งทำให้เพรสได้เกือบทั้งเกม สมัยนี้ให้ลองดูได้เลยในลีกทีมที่เสียประตูน้อยไม่ได้มาจากทีมที่เล่นเกมรับมันมาจากทีมที่เน้นเกมรุกและใช้การเพรสบดขยี้คู่แข่ง อีกอย่างไม่มีสโมสรชั้นนำที่ไหนหรอกครับที่จะยืดอกภูมิใจบอกว่าแม้เราจะเล่นไม่สวยงามแถมออกจะน่าเบือแต่ทีมเรามีเกมรับที่ยอดเยี่ยมและเน้นผลการแข่งขันและเราจะสืบทอดวิธีการเล่นแบบนี้ต่อๆไปในทุกๆยุค มันไม่มีหรอก มีแต่เกมรุกสวยงามและได้แชมป์ที่จะสืบทอดสโมสรนั้นให้เป็นตำนานในยุคต่อๆไป

ผมว่ามันก็ไม่ได้เกี่ยวกับยุคสมัยอะไรหรอก โค้ชสมัยนี้ที่ใช้แทคติกแบบน้ามูมันก็เยอะ

ลองคิดถึงฟาน กัล สิ เน้นครองบอลเหมือนกัน แต่บุกโคตรไม่ได้เรื่อง ยิงไม่ได้ก็ไม่ชนะ

ไม่มีใครถูกผิดหรอกครับ แทคติกใครแทคติกมัน ขึ้นกับความชอบ เหมือนยี่ห้อมือถือ

เกี่ยวกับยุคสมัยแน่นอนครับทุกอย่างในโลกมันมีการพัฒนาการเปลี่ยนแปลง ง่ายๆแค่คุณยกตัวอย่างฟาล กัลนี่ก็คือผจก.ทีมยุคเก่าใช้บอลบุกแบบสมัยเก่าเน้นพาสซิ่ง ใช้เกมรับคุมโซน อย่างที่ผมยกตัวอย่างมาบอลบุกสมัยใหม่เค้าพัฒนาเกมรับโดยใช้การเพรสสูงบอลถึงคนถึงกดอยู่ข้างเดียวแบบโงหัวไม่ขึ้น สมัยก่อนหาทีมบุกเล่นเกมรับแบบนี้แทบไม่มีจนพัฒนามาถึงปัจจุบันชัดเจนสุดคือเป๊ป คล๊อป ลองดูทีมที่ได้แชมป์แต่ละลีกในรอบ4-5ปีนี้มาได้เลยว่ามีทีมเล่นเกมรับแบบน้ามูมั้ย โอเคบอลถ้วยอาจจะยังประสบความสำเร็ขได้อยู่กับบอลสไตล์มูแต่ในลีกระยะยาวที่ทีมอย่างเรือหรือหงส์กดทีมเล็กยับซะขนาดนั้นต้องมี100แต้มแบบยิงกระจายถึงการันตีแชมป์ ต่อให้มูที่พีคที่สุดผู้เล่นดีที่สุดเหนือกว่าทุกทีมในลีกมีทีมใหญ่ยังไม่มากทีมเล็กยังไม่แกร่งเท่าทุกวันนี้ยังทำได้สูงสุด95แต้มซึ่งยังน้อยกว่าหงส์ที่ได้รองแชมป์ปีที่แล้วซะอีก ส่วนตัวคิดว่ายุคนี้ต่อให้มูมีงบ500ล้านคุมทีมในพรีเมียร์ลีกก็แย่งแชมป์จากเป๊ปหรือคล๊อปยาก แต่นี่คือความคิดส่วนตัวที่ผมสังเกตจากบอลในยุค5ปีนี้จริงๆ ซึ่งอาจคิดผิดก็ได้เสียดายยังไม่มีทีมใหญ่จ้างน้ามูสักทีเพื่อพิสูจน์ดูว่าผมคิดผิดหรือเปล่า

น้าทำ porto ได้แชมป์ถ้วยเล็ก อีกปีได้ถ้วยใหญ่ ผมก็ไม่รู้จะติน้ายังงัย ด้วยทีมขนาดนั้น แต่ระบบการเล่นมันสุดจัดปลัดบอกจริงๆ

นึกถึง อัลเช่ ยุคมาดริด สวนโคตรโหด

อันนี้มูพูดแบบกว้างๆ เพื่อให้ปรับทัศนคติมากกว่า
ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเขาจะชอบอุดเสมอไป
เขาพูดโอเคนะ หลายคนบอก ทรงบอลดีอย่างนั้นอย่างนี้
แต่สุดท้ายอาจไม่มีผลงานติดมือก็ได้ ต้องแยกแยะให้ออก
มันคนละเรื่องกัน มีทีมหลายทีมเล่นบอลสวย รูปเกมดี
แต่หลังรั่ว มันก็ไม่ใช่เรื่องดี อย่าง นอริช ทรงบอลสวย
แต่เห็นแล้วว่า เสียประตูเยอะ ตอนนี้อยู่ท้ายตาราง เป็นต้น

ก็ทางแกเป็นแบบนั้น ตอนมีข่าวคุมดอร์ทมุนด์นี่คือแบบ ใช่เหรอแว้

ครองบอลกับครองเกม คนละอย่างนะ มูบอกว่า ถึงไม่ได้ครองบอลก็ครองเกมได้

ประมาณว่า บุกมาดิ เดี๋ยวพื้นที่เปิดแล้วเสียบอลได้โดนแน่

แบบนักมวยอะ ชกๆออกอาวุธ การ์ดตก โดนสวนก็น็อคได้เหมือนกัน

อีกอย่าง บอลเกมรับมันไม่ได้ตกยุคหรอก

ในเมื่อมีทีมบุก อีกทีมก็ต้องรับ แล้วไม่ใช่ว่าทีมบุกจะชนะทุกครั้งซะเมื่อไหร่

เพียงแต่ว่า บอลเกมรุกมันพัฒนา เกมรับก็ต้องพัฒนาตามเหมือนกัน

ATM 2014 JUVE Chelsea 2015

ผมเขียนไว้ว่าในรอบ4-5ปี ที่จะมีทีมเกมรับรับประสบความสำเร็จได้แชมป์ลีก
แอตมาดริดของซิมโมเอเน่ปี 2013-2014 เกิน5ปีครับ
เชลซีของมู ปี2014-2015 นับจนปีนี้5ปีพอดีน่าจะพอนับได้ว่าไม่เกิน5ปี แต่ปีถัดมาพาเชลซีเกือบตกชั้นจนโดนไล่ออก
อัลเลกรีผมไม่นับเป็นผจก.ทีมสไตล์รับจ๋าครับผมมองว่าแกเน้นสมดุลระหว่างรุกและรับมากกว่า
ผมอาจจะเขียนผิด เพราะจริงๆมันก็มี แต่ต่อให้มีผมว่านานๆก็จะโผล่มามากกว่าแบบแทรกขึ้นมา1ปีแล้วหายไป ที่ชัดเจนสุดคือเลสเตอร์ของรานิเอรี่ปี2015-2016 นี่รับแล้วรอโต้ชัดเจนเลย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นทีมที่เน้นเกมรุกเน้นครองบอลที่จะประสบความสำเร็จต่อเนื่องในยุคนี้มากกว่า

บอลสวยงาม กับ บอลได้ถ้วย ส่วนมาก คนจดจำ คนที่ชนะมากกว่าก็แค่นั้น

มิลานชุดนั้นและเกมนั้นไม่อุดอะไรอย่างนั้นนะครับ ชนะ 4-0 เลยนะนัดนั้น มาสซาโรยิงไปสอง