musuoza พิมพ์ว่า:
jae099 พิมพ์ว่า:
แฟนทีมพี่พึ่งเหยียดแบ็คขวาทีมผมไปนะฮับ
เหยินมันก็ได้รับบทลงโทษไปแล้วด้วย
เหยินมันก็ไม่รู้ บ้านมันพูดหยอกเล่นได้ แต่ในยุโรปไม่ได้ เพื่อนคนผิวสีในทีมมันก็เข้าใจ ทำเสื้อมาสนับสนุนก็ต้องใส่กันไป
เอาตรงๆเรื่องแฟนบอลเหยียดนี้มันคุมยากนะ แถมแฟนผีนั้นเป็นนักท่องเที่ยวอยู่เยอะเหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ก็ผิดอยู่ดี
แต่กรณีซัวเรสนี้เป็นนักบอลแท้ๆ ยังไงก็ไม่ควร แล้วยิ่งสโมสรสนับสนุนทำเสื้อแบบนั้นมาให้สวมอีก มันบ่งบอกถึงเจตนาโดยชัดเจน เข้าใจว่าสโมสรต้องการหนุนหลังนักเตะ แต่ก็ควรจะดูด้วยว่ามันถูกต้องหรือเปล่า
จะบอกว่าไม่รู้ว่าคำนั้นล้อไม่ได้ในยุโรปก็คงไม่ใช่ เพราะพูดซ้ำๆกันหลายครั้ง คือเจตนามันส่อชัดเจน ยิ่งไปดูการกระทำที่ผ่านมา อย่างเช่น กัดคู่แข่งงี้ มันก็พอจะบ่งบอกได้ว่าเค้าเป็นคนยังไง
ตอนนั้นแมนยู ไม่ได้ใช้แต่ฝีเท้า ในการแข่งขัน
ถามว่ากรณีดราม่าในประวัติศาสตร์ฟุตบอลในช่วง 5-20 ปีที่ผ่านมาเกิดกับทีมไหน
แล้วทีมไหนได้ประโยชน์เยอะสุด
ไอยุคที่มีจุดโทษ ใบแดง ต่่อเวลาพิเศษ ยุคที่โกงความตาย
จะเสมอแล้วมาชนะ จะแพ้แล้วมาเสมอ ฯลฯ
ไอคำว่าเสน่ห์ฟุตบอลมันพูดโดยแฟนบอลที่ได้ประโยชน์จากกรรมการก็ทีมแถวนี้แหละ
เอฟร่าฝีเท้ากับฝีปากมันก็ไม่เบาหรอก แฟนผียอมรับความจริงตรงนี้ไหมล่ะ
ถ้าไม่ยอมรับความจริงตรงนี้ก็เลิกคุย
คนที่นึกถึงทีมอื่นว่า My Babies เนี้ย
ลองไปถามนักเตะเก่งๆ แบบก๊องเต้ดูว่าคิดกับทีมอื่นแบบนี้มั้ย
แล้วเอฟร่าก็อยู่ในยุคสมัยที่มีเซอร์อเล็กให้คุ้มกะลาหัว
ตัวซ่าๆ แมนยูมันมีเยอะตอนนั้น
เฟอร์กี้ได้ประโยชน์จากกรรมการเยอะสุดแล้ว
ใครที่เล่นรับใช้เฟอร์กี้ก็ได้ประโยชน์ไปไม่มากก็น้อย
ถ้าเฟอร์กี้มันทำมาดี สิ่งที่ทำมามันไม่หายไปไวขนาดนี้หรอก
แล้วจะตกลงมากกว่านี้อีกถ้าไม่ใช้เงินอุด
สรุป คือ แฟนบอล กับนักฟุตบอลสมัยนั้นเค้าไม่ได้ยอมรับเฟอร์กี้หรือแมนยูอย่างที่พวกคุณคิดกันหรอก
แล้วทีตัวซ่าๆ แมนยูมีได้ แต่พอทีมอื่นมีบ้าง แฟนผีมาด่าเฉย
รวมทั้งแฟนหงส์บางส่วนก็เข้าใจว่านักบอลตัวเองจะแสบซ่าแบบนั้นไม่ได้
คือร้ายได้ทีมเดียว คนอื่นร้ายบ้าง
ทีมอย่างแมนยูอย่ามาพูเรื่องการเหยียดผิวเลย ขี้คร้านฟัง