ตัวเลขสุดท้าย ทำนายอนาคตโลก
สุนทรพจน์ที่เกรต้ากล่าวต่อหน้า National Assembly ในกรุงปารีสเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นข้อเท็จจริงที่ทุกคนจำเป็นต้องรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงบประมาณคาร์บอนรวมกันทั้งโลกที่เหลืออยู่ เธอตอบโต้ข้อกล่าวหาของนักการเมือง สื่อมวลชน และบรรดาคนที่ไม่เชื่อโลกร้อนที่ล้อเลียนเธอได้อย่างเฉียบขาด
อยากให้ทุกคนลองฟังดู ใครไม่สันทันภาษาอังกฤษต่อไปนี้คือคำแปลโดยสรุป
“หนูมีทั้งข่าวร้ายและข่าวดีมาบอก ข่าวดีก็คือโลกจะไม่พบกับจุดจบภายใน 11 ปีอย่างที่สื่อมีการนำเสนอกันอย่างกว้างขวาง แต่ข่าวร้ายก็คือถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เมื่อถึงปี 2030 เรามีโอกาสสูงมากที่โลกจะผ่านพ้นจุดแตกหัก (tipping point) ไปแล้ว และอาจพบว่าเราไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อีกต่อไป
.
นักการเมือง ผู้นำธุรกิจและสื่อมวลชนมากมายที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เรารณรงค์และบอกว่าพวกเรานั้นเป็นพวกตื่นตูม (Alarmist) เกินเหตุ หนูจึงขออ้างถึงหน้า 108 บทที่ 2 ของรายงานฉบับล่าสุดของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ซึ่งระบุไว้ว่าถ้าเราจะมีโอกาส 67% ในการป้องกันไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เราเหลือคาร์บอนไดอ็อกไซด์ที่สามารถปล่อยได้ หรืองบประมาณคาร์บอน (Carbon budget) รวมกันทั้งโลกอยู่ 420 กิกะตัน (1GT = 1 พันล้านตัน) ณ วันที่ 1 มกราคม 2018 นักวิทยาศาสตร์หลายคนคิดว่าเป็นการประเมินที่สูงเกินไป แต่นี่ก็เป็นตัวเลขที่ตัวแทนรัฐบาลทั่วโลกยอมรับร่วมกัน
.
แน่นอนว่าตอนนี้งบประมาณคาร์บอนลดลงไปเรื่อยๆ เพราะโดยเฉลี่ยทั้งโลกเราปล่อย CO2 กันปีละ 42 กิกะตัน (GT) ด้วยอัตราปล่อย CO2 ดังกล่าวหมายความว่าเราจะใช้งบประมาณคาร์บอนหมดภายใน 8 ปี
.
แต่แปลกไหมที่หนูไม่เคยได้ยินนักการเมืองหรือนักธุรกิจพูดถึงตัวเลขนี้เลย ราวกับว่าข้อมูลนี้ไม่มีอยู่จริง ราวกับว่าพวกเขาไม่เคยอ่านรายงานของ IPCC เลย ทั้งๆที่เป็นข้อมูลสำคัญที่สุดซึ่งจะกำหนดอนาคตของอารยธรรมมนุษย์ หรือเป็นเพราะพวกเขายังไม่โตพอที่จะยอมรับความจริง และปล่อยให้เป็นภาระของเด็กๆอย่างพวกเรา
.
พวกเราเด็กๆ กลายเป็นผู้ร้ายที่ต้องออกมาพูดข้อมูลที่ไม่มีใครอยากฟัง การที่เราออกมาอ้างถึงหรือพูดถึงข้อมูลที่ได้รับการยอมรับทางวิทยาศาสตร์ เรากลับถูกเกลียดชัง ถูกคุกคามอย่างเหลือเชื่อ เราถูกล้อเลียนและนำไปใส่ความโดยนักการเมือง ส.ส. และสื่อมวลชน
.
หนูอยากถามคนที่ไม่ยอมรับสิ่งที่พวกเราพูดหน่อยว่า พวกเขามีข้อมูลอีกชุดหนึ่งที่หนูไม่รู้เช่นนั้นหรือ หรือว่ามีคณะกรรมการระหว่างประเทศว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ไหนอีก ตัวเลขเหล่านี้คือข้อเท็จจริงที่คุณปฎิเสธไม่ได้ แม้ว่าจะไม่ถูกใจคุณก็ตาม
.
ในรายงานของ IPCC ถ้าเราเลือกทางที่เสี่ยงมากขึ้น คือเพิ่มงบประมาณคาร์บอนเป็น 580 GT ซึ่งจะทำให้มีโอกาสจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยไม่ให้เกิน 1.5 C อยู่ 50% และงบประมาณดังกล่าวก็จะหมดภายใน 12 ปีอยู่ดีด้วยอัตราการปล่อยในปัจจุบัน แต่เราจะเสี่ยงไปเพื่ออะไร เราต้องการเอาอนาคตของโลกมาเสี่ยงเหมือนกับการโยนเหรียญ 50:50 เช่นนั้นหรือ
.
ณ ปัจจุบัน (กรกฎาคม 2019) เราเหลืองบประมาณคาร์บอนอยู่ 360 GT และต้องไม่ลืมว่านี่เป็นงบประมาณของทั้งโลก ประเทศพัฒนาแล้วควรต้องลดการปล่อยก๊าซมากกว่า เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศกำลังพัฒนายกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นไม่ว่าจะเป็นถนน โรงพยาบาล โรงเรียน ไฟฟ้า น้ำประปา ซึ่งประเทศพัฒนาแล้วมีครบหมดแล้ว
.
ความเท่าเทียมนี้เป็นสิ่งที่ข้อตกลงปารีสได้ระบุไว้อย่างชัดเจน ข้อเท็จจริงเหล่านี้ถูกสื่อมวลชนส่วนใหญ่มองข้ามไป คนทั่วไปจึงไม่ทราบข้อเท็จจริงที่เป็นวิทยาศาสตร์
.
คุณไม่สามารถแก้วิกฤติได้ถ้าคุณทำเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น เมื่อทุกคนตระหนักว่าเราเหลืองบประมาณคาร์บอนอยู่มากน้อยเท่าไหร่ และถูกใช้หมดไปอย่างรวดเร็วขนาดไหน โดยที่คนส่วนใหญ่ไม่รับรู้ คุณจะไม่ตื่นตระหนกได้อย่างไร
.
ตอนนี้ผู้นำบางประเทศเริ่มเห็นความสำคัญและประกาศให้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นภาวะฉุกเฉิน ด้วยการกำหนดเป้าหมายในการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ การประกาศเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องฉุกเฉินเป็นเรื่องที่ดี แต่เป้าหมายที่ห่างไกลเหล่านั้นจะไม่มีความหมายอะไรเลย แถมยังทำให้คนเข้าใจผิดว่า กำลังมีการแก้ปัญหาแล้ว ทั้งๆที่เรายังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเลย ไม่ว่าจะเป็นที่ฝรั่งเศส ในสหภาพยุโรป หรือที่ไหนๆ
.
การที่นักการเมืองและบริษัทต่างๆ ทำให้คนเข้าใจผิดว่าปัญหานี้กำลังได้รับการแก้ไขแล้วเป็นอันตรายยิ่งกว่าการไม่ทำอะไรเลยเสียอีก การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนหรือประชาสัมพันธ์แบบเก๋ไก๋ ไม่ช่วยอะไรเลย
.
ภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศและระบบนิเวศนั้นเกิดขึ้นแล้วที่นี่ เดี๋ยวนี้ แต่มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น และมันจะแย่ลงเรื่อยๆ
.
หนูขอย้ำอีกครั้งว่าเรามีงบประมาณคาร์บอนเหลืออยู่ 420 GT ณ วันที่ 1 มกราคม 2018 ในการที่มีโอกาส 67% ในการป้องกันไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มเกิน 1.5 C และตอนนี้ก็ลดเหลือแค่ 360 GT แล้ว ซึ่งเราจะใช้งบประมาณนี้หมดภายในเวลา 8 ปีครึ่ง เพียงแค่ช่วงเวลาตั้งแต่หนูเริ่มต้นพูด โลกได้ปล่อย CO2 ไปแล้ว 8 แสนตัน
.
ถ้าใครยังมีข้ออ้างที่จะไม่ยอมรับฟัง ไม่สนใจ ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง หนูขอถามอีกครั้งว่า มีคณะกรรมการระหว่างประเทศชุดอื่นอีกหรือ มีข้อตกลงปารีสแบบลับๆ ที่ไม่มีใครเคยรับรู้หรือเปล่า พวกเขาเหล่านั้นมีงบประมาณคาร์บอนที่แตกต่างจากนี้หรือ
.
หลายคนไม่ยอมมาเข้าร่วมประชุมวันนี้ หลายคนไม่อยากฟังพวกเรา ซึ่งไม่เป็นไรเลย พวกคุณไม่ต้องฟังพวกหนูหรอก สุดท้ายพวกเราก็เป็นแค่เด็กเท่านั้น แต่คุณต้องฟังความเห็นที่เป็นเอกฉันท์ของวิทยาศาสตร์ และนักวิทยาศาสตร์
.
และนั่นคือสิ่งเดียวที่พวกเราขอร้อง ฟังข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์และลงมือทำ”
National Assembly, Paris 23 July 2019
#climatecrisis #climatebreakdown #ecologicalbreakdown #gretathunberg
เปิดดูคลิปจากเว็บเฟสบุค
https://www.facebook.com/Re4Reef/videos/774080106340077/