สิ่งที่เวนเกอร์เสกให้อาร์เซน่อลในยุคของเค้าหลักๆเลยคือ มาตรฐานของการเป็นทีมยักษ์ใหญ่ที่เบียดลุ้นเเชมป์กับยูไนเต็ดได้อย่างสนุกแบบมีสไตล์ของตัวเอง มีสนามที่ทันสมัยและใหญ่พอที่จะสามารถเอาไว้หาเลี้ยงตัวเองได้ในยุคถัดๆไป รวมถึงการให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งมากๆ ให้ความเชื่อมั่นเชื่อใจ จนนักเตะเหล่านั้นได้พิสูจน์ตนเองในระดับเวิร์ลคลาสมานักต่อนัก ช่วงยุคนึงที่น่อลเล่นกันได้เเบบไหลลื่นมากๆ ยูไนเต็ดของท่านเซอร์ยังต้องเอาแทคติคเล่นอัดหนักๆแบบโบลตันยุคพี่แซม อัลลาไดซ์ เอามาไว้เบรคเกมส์รุกที่ไหลลื่นนั้นของอาร์เซนอล เพราะถ้าสู้ต่อบอลตามเกมส์ของอาร์เซน่อลช่วงนั้นสู้ได้ยากมาก สำหรับผม ผมมองว่าท่าเซอร์สดุดีเวนเกอร์มากๆคือ เป็นโค้ชที่สามารถต่อสู้กับเค้าได้อย่างสมศักดิ์ศรีและดุเดือด ไม่มีเกรงกลัวความเป็นยูไนเต็ด และมีวิถีเป็นของตนเอง แม้จะมีปะทะคารมณ์กันบ้าง แต่พอสงครามสงบ เมื่อมองผ่านช่วงเวลาที่ผ่านมาแล้ว เค้าจะคิดถวิลถึงมันอยู่เสมอในฐานะศัตรูที่รักของกันและกัน อาร์เซน่อลอาจจะมีตกลงไปช่วงเชลซียุคเสี่ยหมีเข้ามา ที่สาดเม็ดเงินซื้อโค้ช ตัวผู้เล่นเพื่อที่จะได้รีบวางรากฐานไวๆจะได้สูสีกับ ทีมอย่าง แมนยู อาร์เซน่อลได้ แถมยังมีลิเวอร์พูลที่โคจรเข้ามาสู่เส้นทางขับเคี่ยวด้วยในยุคเบนิเตซ จนตอนนั้นเกิดคำว่า BIG4 จากนั้น ซิตี้จึงดำเนินรอยตามเชลซีมาในรูปแบบคล้ายๆกัน คือมีเม็ดเงินสนับสนุนหลักๆมาจากเจ้าของทีม อาร์เซน่อลของเวนเกอร์ไม่ได้เป็นเช่นนั้น การที่จะยิ่งใหญ่แบบยั่งยืน คือการยืนบนขาของตัวเอง ดังที่เวนเกอร์เคยบอกไว้ว่า การที่จะเป็นทีมใหญ่ เราจำเป็นต้องมีขนาดสนามแบบเดียวกับที่ยูไนเต็ดมี เพื่อเพิ่มรายได้ต่างๆให้สโมสร นั่นคือที่มาของแอชเบอร์ตันโกรฟ หรือ เอมิเรสต์ สเตเดียมในทุกๆวันนี้ แทนที่ไฮบิวรี่ สนามเหย้าที่มีมนต์ขลังของเดิมที่ถูกเปลี่ยนให้ไปเป็นที่อยู่อาศัยไปแล้ว สมัยที่ไอ้เก้ยังไม่เข้ามาสูบได้อย่างเต็มที่เหมือนทุกวันนี้ อารมณ์เหมือนชาติที่แล้ว เวนเกอร์กับพวกเคยไปเผาบ้านไอ้เก้เเละครอบครัวมันมา ชาตินี้เวนเกอร์ต้องคอยมาสร้างบ้านหลังนี้ให้สวยงามเสียก่อนเพื่อสุดท้ายให้ไอ้เก้เเละครอบครัวมันเข้ามาอยู่ ทุกวันนี้อาร์เซน่อลเป็นอาร์เซน่อลแบบไม่พึ่งพาเจ้าของทีมก็อยู่ได้สบายๆ เพราะมีรายรับหลายทาง ไอ้เก้แค่ปรับเปลี่ยนวิถีบริหารใหม่จาก เวนเกอร์คนเดียวเบ็ดเสร็จ ให้เป็นหน้าที่บอร์ดเหมือนองค์กรบริษัทมหาชน ทั่วๆไป ตรงไหนผิด ตรงไหนเสีย ก็ปลด ก็เปลี่ยน ไม่สนหน้าไหนเพราะกูคือเจ้าของ กูมีงบเท่านี้ กูจ้างพวกเมิงมาแล้ว เมิงต้องบริหารให้กู เป้าหมายกูเป็นแบบนี้ จะทำยังไงก็ได้ ถ้าไม่ได้ ก็แค่หาคนใหม่มาเปลี่ยนๆไปเรื่อยๆ ต่างจากเวนเกอร์ที่บริหารแบบอนุรักษ์นิยม คือให้โอกาส พูดคุย ช่วยเหลือ แม้มันจะไม่ดีที่สุดแต่ก็สามารถอยู่ได้กันได้ มีความเข้าอกเข้าใจกันมากว่า สมัยก่อนเวนเกอร์มีอิสระสูงมากในการบริหารทีมปืนใหญ่ ทั้ง ฮิลล์วูด ก็สนับสนุนเต็มที่ เดวิด ดีนก็คอยช่วยเหลือในการซื้อขายนักเตะ อุชมานอฟที่เป็นคู่เเข่งของฮิลล์วูด ถึงแม้จะมีหุ้นไม่เยอะแต่ก็ไม่ค่อยมีข่าวขัดแย้งกับเวนเกอร์มากนัก ติดตรงก็ที่เรื่องหนี้สนามที่เวนเกอร์ต้องคอยใช้ความรู้จากใบปริญญา ที่จบทั้งวิศวกรรมโยธาและเศรษฐศาสตร์ ช่วยให้ผ่าน ณ จุดๆนั้นมาได้ ขายนักเตะกิน เล่นแร่แปรธาตุ เพื่อให้ผ่าน ณ จุดๆนั้นมาได้ จนกระทั่ง Mesu1 0zil คือเงิน 42.5 ล้านปอนด์แรกของเวนเกอร์ที่เริ่มได้ใช้ทุ่มนักเตะระดับสตาร์เข้ามาได้ ถ้าไม่ใช่เวนเกอร์ ผมก็ยังเชื่อว่า โอซิลก็ไม่มีทางมาอาร์เซน่อลอย่างแน่นอน เพราะตอนนั้น แมนยู แทบจะรอรับจากเบอร์นาบิวอยู่เเล้วเชียว จำไม่ได้ว่าน่อลไปปาดอีท่าไหนมาได้ แต่จำได้ว่าเวนเกอร์มีส่วนมากๆในดีลนี้
ความพังของอาร์เซน่อลสำหรับผมคือการให้ครอบครัวไอ้เก้เข้ามานี่แหละ ทั้งเดวิด ดีนผู้ที่เคยร่วมกันกับเวนเกอร์สร้างอาร์เซน่อลหรือแม้กระทั่งฮิลลวูดด์ที่พลาดขายหุ้นให้ไอ้เก้ ก็ยังเคยออกมาพูดว่าพลาดที่ขายหุ้นให้กับไอ้เก้ไป ถามว่าคนอย่างไอ้เก้มันจะขายอาร์เซน่อลไหมถ้ามีคนติดต่อขอซื้อเข้ามา ผมขอยกตัวอย่างสถานะสโมสรอาร์เซน่อลในปัจจุบันเปรียบดังห่านออกไข่เป็นทองคำ ถ้าคุณเป็นเจ้าของ คุณจะขายราคาเท่าไรดีละ คุณแค่จ้างคนมาดูแลห่านให้ดี แค่นี้ก็เหลือเฟือวันใดห่านไม่ออกไข่หรือห่านป่วยก็แค่ไล่คนดูแลห่านออกแล้วหาใหม่ แต่กว่าห่านตัวนี้จะออกไข่เป็นทองคำ ชายนามว่า อาร์แซนและผองเพื่อนเจ้าของฟาร์ม คอยดูแลลูกห่านตัวนี้มาดีถึงดีที่สุดแล้ว แม้ว่าช่วงท้ายๆของเวนเกอร์แทคติคเริ่มที่สู้กับพวกโค้ชสมัยใหม่ไม่ค่อยได้เเล้ว แต่ความเป็นเอกลักษณ์ของอาร์เซน่อล ผมมั่นใจว่าจะไม่มีใครทำได้แบบที่เวนเกอร์ ทำไว้แน่นอน
#MerciArsene

ยินดีด้วยครับตำนานผู้จัดการทีมอาร์เซนอลที่ยิ่งใหญ่

ผมจะไม่ไปบัฟสู้กับทีมอื่นเรื่องแชมป์เลย ความภูมิใจของผมในฐานะแฟนปืนคนนึง คือ ได้ทันเห็นป๋าเวงเกอร์คุมทีมนี่ละ

เริ่มดูตอนที่ทีมเป็นหนี้สนามแล้ว แต่ก็ยังเกาะกลุ่มระดับบนๆไว้ได้ แม้เสียตัวหลักแทบทุกปี ไม่ได้แชมป์มาเป็น 9-10 ปี

พอเห็น FA CUP ที่คว้ามาได้แม้จะเป็นถ้วยไม่ใหญ่แต่ผมโคตรภูมิใจในทีมที่ผมเชียร์เลย

ถ้า Trophy สำหรับคนอื่นคือถ้วยแชมป์ Trophy สำหรับผม คือ ป๋าเวงเกอร์อยู่คุมปืน ครับ

ปล.ไม่ได้พิมพ์เอาหล่อ แต่พิมพ์ตามความรู้สึก มันยากจะอธิบายใยความภูมิใจในตัวป๋าเวง จริงๆครับ

#สุภาพบุรุษลูกหนัง #บอลระบบ

ใครจะว่าไงไม่รู้ แต่ผมอยากเห็นแกกลับมาคุมปืนในยุคนี้ สรรพยากรแบบนี้อีกซักครั้ง

คิดถึงจริงๆครับบอส

อยากทำให้อ่านง่ายขึ้นไม่รู้ช่วยมั้ยนะครับ

สิ่งที่เวนเกอร์เสกให้อาร์เซน่อลในยุคของเค้าหลักๆเลยคือ มาตรฐานของการเป็นทีมยักษ์ใหญ่ที่เบียดลุ้นเเชมป์กับยูไนเต็ดได้อย่างสนุก
แบบมีสไตล์ของตัวเอง มีสนามที่ทันสมัยและใหญ่พอที่จะเอาไว้หาเลี้ยงตัวเองได้ในยุคถัดๆไป รวมถึงการให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งมาก
ให้ความเชื่อมั่นเชื่อใจ จนนักเตะเหล่านั้นได้พิสูจน์ตนเองในระดับเวิร์ลคลาสมานักต่อนัก ช่วงยุคนึงที่น่อลเล่นกันได้เเบบไหลลื่นมากๆ
ยูไนเต็ดของท่านเซอร์ยังต้องเอาแทคติคเล่นอัดหนักๆแบบโบลตันยุคพี่แซม อัลลาไดซ์ เอามาไว้เบรคเกมส์รุกที่ไหลลื่นนั้นของน่อล
เพราะถ้าสู้ต่อบอลตามเกมส์ของอาร์เซน่อลช่วงนั้นสู้ได้ยากมาก สำหรับผม ผมมองว่าท่าเซอร์สดุดีเวนเกอร์มากๆ
คือ เป็นโค้ชที่สามารถต่อสู้กับเค้าได้อย่างสมศักดิ์ศรีและดุเดือด ไม่มีเกรงกลัวความเป็นยูไนเต็ด และมีวิถีเป็นของตนเอง
แม้จะมีปะทะคารมณ์กันบ้าง แต่พอสงครามสงบ เมื่อมองผ่านช่วงเวลาที่ผ่านมาแล้ว เค้าจะคิดถวิลถึงมันอยู่เสมอ
ในฐานะศัตรูที่รักของกันและกัน
--------------------------------------

อาร์เซน่อลอาจจะมีตกลงไปช่วงเชลซียุคเสี่ยหมีเข้ามา ที่สาดเม็ดเงินซื้อโค้ช ตัวผู้เล่นเพื่อที่จะได้รีบวางรากฐานไวๆจะได้สูสี
กับทีมอย่างแมนยู อาร์เซน่อลได้ แถมยังมีลิเวอร์พูลที่โคจรเข้ามาสู่เส้นทางขับเคี่ยวด้วยในยุคเบนิเตซ จนตอนนั้นเกิดคำว่า BIG4 จากนั้น ซิตี้จึงดำเนินรอยตามเชลซีมาในรูปแบบคล้ายๆกัน คือมีเม็ดเงินสนับสนุนหลักๆมาจากเจ้าของทีม
อาร์เซน่อลของเวนเกอร์ไม่ได้เป็นเช่นนั้น การที่จะยิ่งใหญ่แบบยั่งยืน คือการยืนบนขาของตัวเอง ดังที่เวนเกอร์เคยบอกไว้ว่า การที่จะเป็นทีมใหญ่ เราจำเป็นต้องมีขนาดสนามแบบเดียวกับที่ยูไนเต็ดมีเพื่อเพิ่มรายได้ต่างๆให้สโมสร นั่นคือที่มาของแอชเบอร์ตันโกรฟ
หรือ เอมิเรสต์ สเตเดียมในทุกๆวันนี้ แทนที่ไฮบิวรี่ สนามเหย้าที่มีมนต์ขลังของเดิมที่ถูกเปลี่ยนให้ไปเป็นที่อยู่อาศัยไปแล้ว
สมัยที่ไอ้เก้ยังไม่เข้ามาสูบได้อย่างเต็มที่เหมือนทุกวันนี้ อารมณ์เหมือนชาติที่แล้ว เวนเกอร์กับพวกเคยไปเผาบ้านไอ้เก้เเละครอบครัวมันมา ชาตินี้เวนเกอร์ต้องคอยมาสร้างบ้านหลังนี้ให้สวยงามเสียก่อนเพื่อสุดท้ายให้ไอ้เก้เเละครอบครัวมันเข้ามาอยู่ ทุกวันนี้อาร์เซน่อลเป็นอาร์เซน่อลแบบไม่พึ่งพาเจ้าของทีมก็อยู่ได้สบายๆ เพราะมีรายรับหลายทาง ไอ้เก้แค่ปรับเปลี่ยนวิถีบริหารใหม่จาก เวนเกอร์คนเดียวเบ็ดเสร็จ ให้เป็นหน้าที่บอร์ดเหมือนองค์กรบริษัทมหาชน ทั่วๆไป ตรงไหนผิด ตรงไหนเสีย ก็ปลด ก็เปลี่ยน ไม่สนหน้าไหนเพราะกูคือเจ้าของ กูมีงบเท่านี้ กูจ้างพวกเมิงมาแล้ว เมิงต้องบริหารให้กู เป้าหมายกูเป็นแบบนี้ จะทำยังไงก็ได้ ถ้าไม่ได้
ก็แค่หาคนใหม่มาเปลี่ยนๆไปเรื่อยๆ ต่างจากเวนเกอร์ที่บริหารแบบอนุรักษ์นิยม
คือ ให้โอกาส พูดคุย ช่วยเหลือ แม้มันจะไม่ดีที่สุดแต่ก็สามารถอยู่ได้กันได้ มีความเข้าอกเข้าใจกันมากว่า
--------------------------------------

สมัยก่อนเวนเกอร์มีอิสระสูงมากในการบริหารทีมปืนใหญ่ ทั้ง ฮิลล์วูด ก็สนับสนุนเต็มที่ เดวิด ดีนก็คอยช่วยเหลือในการซื้อขายนักเตะ
อุชมานอฟที่เป็นคู่เเข่งของฮิลล์วูด ถึงแม้จะมีหุ้นไม่เยอะแต่ก็ไม่ค่อยมีข่าวขัดแย้งกับเวนเกอร์มากนัก ติดตรงก็ที่เรื่องหนี้สนามที่เวนเกอร์
ต้องคอยใช้ความรู้จากใบปริญญา ที่จบทั้งวิศวกรรมโยธาและเศรษฐศาสตร์ ช่วยให้ผ่าน ณ จุดๆนั้นมาได้ ขายนักเตะกิน เล่นแร่แปรธาตุ
เพื่อให้ผ่าน ณ จุดๆนั้นมาได้ จนกระทั่ง Ozil คือเงิน 42.5 ล้านปอนด์แรกของเวนเกอร์ที่เริ่มได้ใช้ทุ่มนักเตะระดับสตาร์เข้ามาได้ ถ้าไม่ใช่เวนเกอร์ ผมก็ยังเชื่อว่า Ozil ก็ไม่มีทางมาอาร์เซน่อลอย่างแน่นอน เพราะตอนนั้น แมนยู แทบจะรอรับจากเบอร์นาบิวอยู่เเล้วเชียว จำไม่ได้ว่าน่อลไปปาดอีท่าไหนมาได้ แต่จำได้ว่าเวนเกอร์มีส่วนมากๆในดีลนี้
--------------------------------------

ความพังของอาร์เซน่อลสำหรับผมคือการให้ครอบครัวไอ้เก้เข้ามานี่แหละ ทั้งเดวิด ดีนผู้ที่เคยร่วมกันกับเวนเกอร์สร้างอาร์เซน่อล
หรือ แม้กระทั่งฮิลลวูดด์ที่พลาดขายหุ้นให้ไอ้เก้ ก็ยังเคยออกมาพูดว่าพลาดที่ขายหุ้นให้กับไอ้เก้ไป ถามว่าคนอย่างไอ้เก้มันจะขาย
อาร์เซน่อลไหมถ้ามีคนติดต่อขอซื้อเข้ามา ผมขอยกตัวอย่างสถานะสโมสรอาร์เซน่อลในปัจจุบันเปรียบดังห่านออกไข่เป็นทองคำ
ถ้าคุณเป็นเจ้าของ คุณจะขายราคาเท่าไรดีละ คุณแค่จ้างคนมาดูแลห่านให้ดี แค่นี้ก็เหลือเฟือวันใดห่านไม่ออกไข่หรือห่านป่วย
ก็แค่ไล่คนดูแลห่านออกแล้วหาใหม่ แต่กว่าห่านตัวนี้จะออกไข่เป็นทองคำ ชายนามว่า อาร์แซนและผองเพื่อนเจ้าของฟาร์ม
คอยดูแลลูกห่านตัวนี้มาดีถึงดีที่สุดแล้ว

แม้ว่าช่วงท้ายๆของเวนเกอร์แทคติคเริ่มที่สู้กับพวกโค้ชสมัยใหม่ไม่ค่อยได้เเล้ว แต่ความเป็นเอกลักษณ์ของอาร์เซน่อล
ผมมั่นใจว่าจะไม่มีใครทำได้แบบที่เวนเกอร์ ทำไว้แน่นอน

#MerciArsene

ถ้าเกิดการปลดโค้ชของผีแดงกลางฤดูกาล อยากให้แกนี่แหละมาช่วยจนจบซีซั่น

จะทำสัญญายกเว้นไม่เข้าไปคุมทีมในสนามนัดที่เจอกับอาเซน่อล​ก็ได้

เอางั้นเลยเหรอครับ แสดงว่าอยากได้ป๋าเวเกอร์มากๆ

ดูจากสถานการณ์แล้วเวนเกอร์น่าจะเหมาะสุดสำหรับระยะสั้นครับ แต่แกจะมาไหม หรือทีมจะติดต่อไปรึเปล่าอีกเรื่องนะครับ

ขอบคุณมากๆเลยครับท่าน ถ้าส่วนไหนข้อเท็จจริงผมผิดเพี้ยนไป เพิ่มเติมมาได้เลยนะครับ ผมตั้งใจว่า 22 Oct นี้ อารแซนครบรอบอายุ 70 ปี ผมจะเขียนกระทู้อัตชีวประวัติของอาร์แซน เวนเกอร์ตาม ref ข้อมูลจากที่ต่างๆที่ผมเก็บไว้ เลยครับ จะพยาพยามเรียบเรียงแบบไมมี Bias กับคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วยครับ เพราะ อาร์แซนลักษณะนิสัยเป็นคนที่มองส่วนรวมมากกว่าส่วนตน และมีลมหายใจเป็นอาร์เซน่อลตลอดมา

โครตคนตัวจริง Legend

ผจก คนอื่น ความสำเร็จคือถ้วยรางวัล

แต่สำหรับอาแซน ความสำเร็จเค้าคือ เอมิเรต สเตเดี้ยม

ขอบคุณครับบอส