[RE: 'น้าลูกอม'ยันแฮปปี้ฟอร์มทีม-โวยไม่ได้จุดโทษอีกแล้ว]
Liverpool11 พิมพ์ว่า:
Spoil
J.Hernandez พิมพ์ว่า:
Liverpool11 พิมพ์ว่า:
ถามแฟนแมนยูจริงๆนะว่าที่เป็นแบบนี้เพราะโอเล่ฯหรอ โอเคหละโอเล่ฯอาจจะฝีมือไม่ถึง แต่ผ่านมากี่กุนซือแล้วแถมเป็นกุนซือระดับดีทั้งนั้นที่ผ่านๆมาแต่ผลก็ประมาณเนี่ย ผมว่าไม่น่าใช่ที่กุนซือแล้วหละ น่าจะอยู่ที่นักเตะแล้วหละ
ถามแฟนผี ผมก็ขอตอบในฐานะหนึ่งในแฟนผีแล้วกัน ก็จะชี้แจงให้ฟัง จะพยายามให้คร่าวๆที่สุด ถ้าอ่านแล้วติดขัด ต้องขอโทษก่อนเลยครับ สาเหตุเพราะยังไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลย สุดจะเซ็ง
ตอบคำถามก่อน กระทู้นี้มันเป็นกระทู้ข่าวของโซลชาที่แฮปปี้เลอะเทอะ จะให้ผมมานั่งบ่นบอร์ดบริหาร นั่งบ่นฟ้า ลม อากาศ ก็ไม่เข้ากับกระทู้อะเนอะ แล้วเคสนี้คือไม่ใช่แฮปปี้ธรรมดานะ คือให้สัมภาษณ์ด้วยรอยยิ้มด้วย เห็นแล้วบอกเลยว่าคนที่หัวร้อนยาก ก็ต้องมีหัวร้อนอะ คือพอใจและภูมิใจกับ 1 แต้มนี้จริงๆ เหมือนมันเป็นสิ่งที่เค้าต้องการตั้งแต่แรก แถมผลงานเกมรุกก็ห่วยแตก หาข้อดีตรงไหนไม่ได้ มีอย่างที่ไหนสโมสรระดับแมนยู ยิงเข้ากรอบ 0 ครั้ง แต่ยังยิ้มออกได้ คนก็จะบ่นโซลชาเป็นหลักแหละ
แล้วเอาคร่าวๆก็คือ จริงๆทุกภาคส่วนในยูไนเต็ดนั่นแหละ ที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งนักเตะ สต๊าฟโค้ช ผู้จัดการทีม และบอร์ดบริหาร โดยเฉพาะนักเตะนี่ก็ตัวดีเหมือนกัน
แต่ผมอยากจะแถลงไขให้เข้าใจเพิ่มเติมดังนี้ บอกเลยว่ายาว พยายามจะทำให้มันสั้นสุดๆเท่าที่แฟนผีแดงคนนึงจะเหลืออดแล้วกัน
เรื่องเป็นที่นักเตะ ส่วนตัวผมเองรู้มานานนมแล้วครับ คุณภาพนักเตะยูไนเต็ดไม่ได้ดีเลิศตั้งแต่ 2013 แล้วแหละ เพราะตั้งแต่ยอดคนสก็อตต์รีไทร์จากวงการลูกหนัง เราก็เห็นๆกันอยู่ว่าผลงานมันตกต่ำลงแค่ไหน
โอเค อาจจะมีการดีเบตว่า ยุคมูรินโญ่ คนยังบอกเลยว่า นักเตะชื่อชั้นก็ดี ให้คนอื่นมาคุมที่เล่นเกมรุกก็บินสูงไปแล้ว แต่ผมเป็นหนึ่งคนที่ไม่คิดว่าเป็นแบบนั้น และมูรินโญ่เป็น X-Factor ที่ทำให้ผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมเคยคิดไว้มันเป็นความจริง นั่นก็คือ ความอ่อนชั้นในด้านฟุตบอลของบอร์ดบริหาร และนักเตะที่มันไม่ได้มีฝีเท้าและทัศนคติที่ดี เหมือนที่ใครหลายๆคนในโลกของวงการฟุตบอลนั้น"อวย"ไว้
ยุคของโชเซ่ จริงอยู่ว่าเค้าก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบในผลงานที่ตกต่ำในฤดูกาลสุดท้าย(ซึ่งเจ้าตัวเองก็ยอมรับแบบกลายๆเช่นกันในช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมา จากการที่ไปเป็นนักวิจารณ์ในรายการ)
แต่ที่มีส่วนจริงๆ คือ"บอร์ดบริหารและตระกูลเกลเซอร์" จริงๆลองเซิร์จหากระทู้ที่ผมตอบดู น่าจะไม่ไกลมาก ผมจะบ่นเรื่องบอร์ดบริหารอยู่ ใส่ยาวพอสมควรแหละ
เอาเกลเซอร์ก่อน เกลเซอร์เนี่ย แฟนแมนยูจริงๆจะทราบว่า แฟนแมนยูส่วนใหญ่จะไม่ชอบตระกูลเกลเซอร์เป็นอย่างมาก เพราะพี่ๆลูกหลานๆท่านเนี่ย เข้ามาเทคโอเวอร์ด้วยเงินจำนวนมหาศาลก็จริง พวกเค้าเป็นนักธุรกิจที่เก่งก็จริง แต่เงินที่นำมาเทคโอเวอร์นั้น มันดันเป็นเงินที่กู้มา แล้วทะลึ่งเอาหนี้เอามาใส่สโมสรซะอย่างนั้น ทุกวันนี้ก็ยังเป็นหนี้อยู่นะครับ ไม่ใช่ภาวะปลอดหนี้ คซึ่งมันหมายความว่า เกลเซอร์ & Co. ทุกวันนี้ แทบจะไม่ได้ใช้เงินของตระกูลตัวเองลงทุนในการซื้อยูไนเต็ดเลยแม้แต่บาทเดียว ซึ่งหนี้ก่อนนี้มันมีมาตั้งแต่กันยายน ปี 2003 จนตอนนี้ก็ยังไม่หมด ข้อมูลตรงนี้ผมไม่แม่น แต่คาดว่าปี 2030 ก็ยังไม่น่าจะหมดไป
นี่แค่วีรกรรมแรกที่เด่นๆ และจะขอยกไว้แค่นี้ เพราะปัญหามันแทบไม่เคยเกิดขึ้น เพราะอย่างที่ทราบกันว่า ยูไนเต็ด มีเซอร์อเล็กซ์อยู่ และเซอร์อเล็กซ์ ก็คานอำนาจของเกลเซอร์ได้ และได้สิทธิ์ขาดในการจัดการยูไนเต็ดในเรื่องของเชิงฟุตบอลทั้งหมด
เสาหลักของทีมในช่วงหลัง จึงเป็นขรัวเฒ่าคนนี้ และเดวิด กิลล์ อีกหนึ่งบุคลากรคู่ใจ
และก็อย่างที่ทราบกันว่า สิ้นสุดฤดูกาล 12/13 ทั้งคู่ลงจากตำแหน่ง
นี่เป็นอีกวีรกรรมที่น่าด่าของตระกูลเกลเซอร์ เพราะรู้ทั้งรู้ว่าทั้งคู่จะลงจากตำแหน่ง แต่ก็ทำตัวเพิกเฉย แต่งตั้งแค่ พณฯท่าน เอ็ด วู้ดเวิร์ด เข้ามาแทน ซึ่งมันไม่มีการเตรียมพร้อมใดๆทั้งสิ้น
มอยส์เข้ามาทำงาน ตัวเองก็งงพออยู่แล้ว เจอวู้ดเวิร์ดที่ความรู้ในด้านฟุตบอล = ศูนย์ไปอีก
เสียศูนย์มากี่ปี ก็อย่างที่เห็น ทุกวันนี้ก็ยังเป็นซากอยู่
**ตัดภาพด้วยความว่องไว มาที่ตัวบอร์ดบริหารต่อ
เน้นไปที่ พณฯท่านเอ็ด วู้ดเวิร์ดนี่แหละ
มีหลายวีรกรรมมาก ถ้าอยากฟังเดี๋ยวผมจะมานั่งเล่าให้ฟัง เพราะมันโคตรจะเยอะเลย ถ้าตามข่าวซื้อขายทุกซีซั่น รวมไปถึงการเลื่อยขาเก้าอี้ฟานฮาล ที่โคตรไม่มีความมืออาชีพ
เอาง่ายๆว่า ไม่มีความรู้ด้านฟุตบอล แต่หวงอำนาจ ไม่อยากเสียอำนาจการปกครองที่ตัวเองถืออยู่ในมือ จนผลงานในสนามมันวอดวายหมดแล้ว
ยกตัวอย่างเช่น ต่อสัญญาแรชฟอร์ด 200k ต่อสัญญาอันเดรียส เปไรร่า ที่ปล่อยให้ทีมไหนยืมก็ไม่เคยทำผลงานได้ดี และอีกหลายคนที่ผลงานก็เห็นๆกันอยู่ว่า "ไม่ได้เรื่อง"
ในเรื่องของตัวเลขค่าเหนื่อยจุดนี้ผมไม่อยากโทษโซลชา เพราะเรื่องดีลค่าเหนื่อยไม่ใช่เรื่องของเค้า แต่ก็ต้องโทษส่วนนึง เพราะเชื่อว่ามีส่วนทำให้วู้ดเวิร์ดต่อสัญญาคนที่ underperforming หลายๆคน
ผลงานไม่มีพิสูจน์ ได้สัญญาแพงเหลือเกิน
เอาคร่าวๆประมาณนี้ก่อนแล้วกัน ผมเริ่มเบลอละ แต่ผมเชื่อว่าหลายๆคนก็รู้แบบผมแหละ แค่อาจจะเรียบเรียงได้ไม่ดีมาก แล้วก็ขี้เกียจพิมพ์ซะมากกว่า
นี่พิมพ์ออกมา นี่ก็หงุดหงิดแล้วนะ คิดถึงหน้าวู้ดเวิร์ดกับแมตต์ จัสต์ และรอยยิ้มโซลชาแล้วอยากจะฝ่าเท้า บรรจงถีบไปที่จอคอมพิวเตอร์มากๆ แต่ต้องอดทนไว้ก่อน
Spoil
ขอบคุณสำหรับข้อความครับ อ่อานแล้วพอจะเห็นภาพมากขึ้น งั้นขออีกคำถามครับ แล้วแฟนแมนยูคิดว่าสิ่งแรกที่ควรแก้คืออะไรครับในเมื่อตอนนี้ปัญหาเหมือนจะรอบด้านเลยทีเดียว แบบลิเวอพูลยุคมืดเราโชคดีที่FSGเข้ามาเทคโอเวอร์และเข้าใจทางด้านกีฬาจริงๆ ค่อยๆสร้างรากฐานขึ้นใหม่อย่างมั่นคงเลยทำให้ทีมดีขึ้นมาได้ถ้าไม่งั้นทีมอาจจะล้มละลายไปแล้วก็เป็นได้
ส่วนตัวผมว่า ปัญหามันเรียงแบบนี้ครับ บอร์ดบริหาร >= เจ้าของสโมสร > นักเตะ >= กุนซิอ
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น เพราะถ้าหลังบ้านไม่ดี หน้าบ้านก็อย่าหวังเลยว่าจะมีคุณภาพ เหมือนบ้านที่เสาเข็มผุๆพังๆ จะก่ออิฐ ฉาบปูน ทาสียังไง สุดท้ายเดี๋ยวมันก็พังเหมือนเดิม
จากมุมมองของผมเอง ผมมองว่าปัญหามีทรงคล้ายๆลิเวอร์พูลอยู่พอสมควรนะ อันนี้แฟนหงส์แดงก็คงเข้าใจดี ว่าต้องผ่านอะไรมาบ้าง และยาวนานขนาดไหน
แม้การเงินจะดีกว่าจริง แต่ก็อย่างที่บอก บุคลากรที่มีคุณภาพน้อยมาก จริงๆแมวมองเก่งๆในยูไนเต็ดนี่มีเยอะนะครับ แต่แมตต์ จัสต์ มือขวาของเอ็ด วู้ดเวิร์ดและตัวเอ็ดเองเนี่ยไม่ได้เรื่อง จากข่าวและเหตุการณ์ที่ผ่านมา มันบ่งชี้ว่าข่าวที่ทั้งสองคนไม่เชื่อรายงานของแมวมองนี่เป็นเรื่องจริง มองแต่ตัวเลขธุรกิจ ทำให้พลาดนักเตะดีๆไปหลายคนแล้ว ทั้งๆที่ตอนนั้นนักเตะกลุ่มดังกล่าวคือเก่งแล้ว แค่ยังไม่ดังมาก มันมีช่องและโอกาสที่จะเซ็นก่อนหน้ายักษ์ใหญ่หลายๆทีมด้วย แต่ก็ไม่สนใจ ไปสนใจแต่นักเตะที่มีชื่อเสียงเพื่อเอามาสร้างกำไรและปั่นหุ้นสโมสรขึ้น จนบางทีต้องเสียค่าโง่ซื้อนักเตะที่ต้องการในราคาแพงกว่าเดิมรวมไปถึงค่าเหนื่อยมหาศาลก็มี ในหลายๆดีล
สิ่งที่ควรแก้อย่างเร่งด่วน เอาจริงๆผมมองว่ามันต้องแก้ที่บอร์ดบริหาร อย่างน้อยๆต้องมีคนที่มีความรู้เรื่องฟุตบอล มาจัดการหลังบ้านก่อนเลยครับ U23 U18 ก็เละเทะไม่ได้ต่างกัน ไม่มีการวางพื้นฐาน ไม่มีการปูระบบขึ้นสู่ชุดใหญ่ ซึ่งอันนี้ก็ว่าไม่ได้ ชุดใหญ่มันก็ยังไม่มีระบบ ยังไม่รู้เลยจะเล่นแผนการเล่นอะไร
แต่ถ้ามีการแต่งตั้ง DoF ผมคิดว่ามันก็ต้องเปลี่ยนฝ่ายพัฒนาเยาวชน ฯลฯ อีก เพราะผลงาน ต้องบอกเลยว่าอ่อนลงทุกวันแม้กระทั่งชุดเล็กก็เถอะ คือผลงานมันทรงๆ แต่คุณภาพนักเตะ มันไม่ได้เหนือกว่าทีมอื่นเท่าไร แถมด้อยกว่าหลายๆทีมด้วย เพราะงั้นไอ้โครงการปั้นเด็กที่กำลังทำอยู่ มันเลยไม่เมคเซ้นส์มากๆ แต่ถ้าจะทำแบบนั้น มันก็เป็นการลดอำนาจของวู้ดเวิร์ดและจัสต์ เพราะงั้นผมเชื่อว่ากรณีนี้ จะยังไม่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ จนกว่า พณฯท่านเอ็ด จะหาคนมาอยู่ใต้อำนาจได้ เพราะดูจากความหวงอำนาจและตำแหน่งที่ผ่านมาหลายๆปี มันทำให้ผมคิดว่า ยากที่คนอย่างเขาจะปล่อยให้อำนาจที่มีอยู่หลุดมือ
ผมไม่เชื่อว่าเอ็ด จะมีความคิดว่า "เออ เดี๋ยวตั้ง DoF มาช่วยดูเรื่องซื้อขาย เดี๋ยวให้งบไป" ยากมากๆนะ สำหรับคนแบบนี้ คนที่มองตัวเองมากกว่าสโมสร เพราะการกระทำจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันทำให้แฟนบอลคิดว่าหมอนี่ไม่ได้รักสโมสรสักเท่าไรนัก มองแต่ตัวเลขเป็นหลักจริงๆ จนมีกระแส #EdOut มาได้ปีกว่าๆ
ถ้าเลือกได้ ก็อยากเปลี่ยนเจ้าของ เอาที่มันรักสโมสรจริงๆเหมือนกันครับ อิจฉาทั้งลิเวอร์พูลหรือเชลซีรวมไปถึงซิตี้ ที่มีเจ้าของดีๆ
แต่ทุกวันนี้ สโมสรก็ยังทำกำไรมหาศาลให้กับเกลเซอร์อีก มูลค่าสโมสรถ้าใครจะมาซื้อเพื่อเป็นเจ้าของ ต้องเป็นระดับเศรษฐีอันดับต้นๆของโลกเท่านั้นแหละ อย่างน้อยๆผมว่าต้องมี 5k ลป.อะ เผลอๆยังไม่พอที่จะทำให้เกลเซอร์สนใจด้วย เพราะมันเหมือน passive income ไปแล้ว ผลงานห่วยๆในสนาม แทบไม่ได้ทำให้กำไรที่เข้าสโมสรลดลงเลยด้วยซ้ำ อันนี้ก็ต้องชมเอ็ดอย่างนึง หาเงินเก่งมาก จนควรไปทำไอ้ด้านการเงินอย่างเดียวเลย เสียดายที่ต้องมานั่งด่าเค้าในเรื่องฟุตบอล
ต่อมาเราถึงต้องมานั่งแก้ที่นักเตะ คือต้องโละทิ้งหลายๆคน
ไม่ใช่ว่านักเตะกลุ่มดังกล่าว ไม่ตั้งใจเล่นให้สโมสรนะ แต่ฝีเท้ามันไม่ถึงจริงๆ เห็นๆกันอยู่ว่ามีใครบ้าง ซึ่งผมไม่อยากจะใช้คำนี้เลย แต่ไอ้ที่แฟนๆส่วนมากจะด่ากัน ก็เป็นนักเตะที่มาจากอคาเดมี่แทบจะทั้งนั้น
ผมไม่ยกชื่อนักเตะละกัน เพราะผมไม่ชอบทะเลาะกับใคร และเล็งเห็นว่ามันจะมีความขัดแย้งเกิดขึ้น ถ้าเอ่ยชื่อกันออกไป ถ้านักเตะที่กำลังจะผลักดันมันมีคุณภาพแบบเชลซี มีแกนหลังที่แข็งแกร่งแล้วดัน จะไม่ว่าเลยจริงๆ นี่มีทรงอยู่สองสามคน แต่แกนที่จะประคองรุ่นน้องมันดันขึ้นสนิม พร้อมจะผุพังได้ตลอดเวลา สภาพปัจจุบันฟอร์มในสนามจะเป็นแบบนี้ก็ไม่แปลก
สำหรับผมนี่คือสองสิ่งที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนจริงๆ แต่ไอ้ข้อนักเตะ มันก็จะไปผสมกับตัวผู้จัดการทีมอย่างโซลชาอีกเช่นกัน ซึ่งเลือกที่จะเชื่อใจ และมีส่วนต่อสัญญานักเตะที่ไม่ดีพอหลายๆคน ผลลัพธ์ก็คือแฟนบอลนี่แหละ ที่ต้องอดทนและกัดฟันทนเห็นอะไรที่มันเหมือนดูถูกสติปัญญาต่อไป
ผมเชื่อว่าแฟนบอลหลายๆคงคิด ว่าระบบการเล่นแบบนี้ ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ มันไม่เวิร์ค มันก็เลยควรจะเปลี่ยนลองอะไรใหม่ๆบ้าง นี่เหมือนได้แผนการเล่นที่ต้องใช้หน้าต่ำเก่งๆ แต่ทีมมีแค่ลินการ์ด มาต้า และโกเมซในตำแหน่งนั้น หรือกลางรับที่แทบจะหมดสภาพ รวมไปถึงการขาดกองหน้า มันไม่เหมือนดื้อเพราะเชื่อมั่นในตัวเด็กอย่างอาร์แซน เวนเกอร์ แต่มันเหมือนไร้ไอเดียว่า ตกลงเราควรจะทำอะไรมากกว่า
กองหลังก็เช่นกัน ถึงจะเสียประตูน้อยก็เถอะ แต่ส่วนตัวผมผมคิดว่า การมีตัวประคองแบบแม็คไกวร์ แต่ดันเอาคนที่สไตล์เดียวกันอย่างลินเดเลิฟมายืนคู่ มันก็มีแต่ประคองรึเปล่า ไม่มีคนที่เข้าไปพร้อมจะชน ผมอาจจะคิดผิดและมองภาพแบบตอนยังมี ริโอ - วิดิชอยู่ก็ได้นะข้อนี้ แต่ตอนนี้ผมคิดจริงๆว่ากองหลังมันสไตล์เดียวกัน ณ เวลานี้ ถ้าเซ็นเตอร์คู่เป็นโจนส์ หรือตวนเซเบ้ด้วย มันอาจจะเด็ดขาดและแกร่งกว่านี้ก็ได้ หรือถ้าเป็นไบญี่ที่เอะอะเจ็บ ก็น่าจะเสียประตูน้อยกว่านี้อีก
เหนื่อยครับเหนื่อย เชียร์แมนยู ทุกวันนี้ถึงกับดูบ้างไม่ดูบ้าง ทำอย่างอื่นประกอบการดูบอลไปด้วย เพราะยังไงรูปเกมก็เหมือนเดิมทุกนัด ไม่มีประกายใดๆจะมาจุดให้โลกสดใสในเร็วๆนี้แน่ๆ อย่างเร็วก็ตลาดซื้อขายหน้าหนาว
ซึ่งก็มองว่าไม่ได้ช่วยอะไรมากอยู่ดี อาจจะเป็นปีแรกที่ยากลำบากในการรักษาตำแหน่งครึ่งบนตารางด้วย