รัวครึ่งเดียว!เรืออย่างชิลถล่มเปรสตัน 3-0 ลิ่ว 16 ทีมคาราบาว คัพ
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ไม่มีอะไรต้องพลิกล็อคสำหรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ขนสำรองลงแนวรับแต่แนวรุกสุดจัดปลัดบอกบุกถล่มเปรสตัน นอร์ธ เอนด์สบายเท้า 3-0 โดยได้ประตูในครึ่งแรกทั้งหมดจากราฮีม สเตอร์ลิ่ง, กาเบรียล เชซุสและดาบิด ซิลบาเปิดแฉลบ OG. เป็นลูกสุดท้าย เข้ารอบ 4 คาราบาว คัพไปตามความคาดหมาย
เปรสตัน นอร์ธ เอนด์
Starting Formation: 4-2-3-1
11.
แดเนี่ยล จอห์นสัน
75'
6
29.
ทอม บาร์คูยเซน
63'
6
10.
จอช ฮาร์ร็อป
71'
6
ตัวสำรอง
35.
เดวิด นูเจนท์
63'
17.
จอช กินเนลลี่ย์
71'
6
7.
ทอม เบย์ลิสส์
75'
6
คาราบาว คัพ รอบ 3
สนาม ดีปเดล
อังคารที่ 24 กันยายน 2562
กรรมการ ลี เมสัน
เปรสตัน นอร์ธ เอนด์
0
3
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
0-1 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 19'
0-2 กาเบรียล เชซุส 35'
0-3 ไรอัน เล็ดสัน 42' (Og.)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ปรับทีมส่งบรรดานักเตะสำรองลงมายืดเส้นยืดเพียงไม่กี่คนแต่ก็ยังเป็นทีมที่แข็งแกร่งเหนือกว่าอย่างเป็นได้ชัดนำมาโดยฟิล โฟเด้น, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แบร์นาร์โด้ ซิลวาขณะที่เคลาดิโอ บราโว่ได้ยืนเฝ้าเสาในการออกสตาร์ตป้องกันแชมป์คาราบาว คัพ
เรือครองเกมตามสูตร
เปิดเกมขึ้นมาแมน ซิตี้ได้ครองบอลมากกว่าตามคาดหมายแต่จังหวะเข้าทำยังไม่ชัดเจนไม่มีโอกาสทำประตูในช่วงแรกของเกมขณะที่เปรสตันก็คอยขยันไล่บอลตามสไตล์ของทีมรองบ่อน
ผลัดกันลุ้นคนละที
จังหวะคอนเนอร์ของซิตี้มาได้จบเมื่อซิลบาโยนบอลไปให้เชซุสได้โขกในกรอบหกหลาแต่บอลหลุดเสาออกไป แล้วมาเป็นเจ้าถิ่นได้ยิงไกลโดยฮาร์ร็อปก็ติดเซฟของบราโว่
ราฮีมได้ยิงติดเซฟ
เรือใบสีฟ้าได้โอกาสส่องประตูอีกทีเมื่อราฮีมรับบอลต่อมาจากเชซุสก่อนเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วยิงด้วยซ้ายไปติดเซฟของริปเลย์อดได้ประตูในจังหวะนี้
ราฮีมหลุดยิงไม่เหลือเรือนำ 1-0
ซิตี้มาได้ประตูขึ้นนำจนได้เป็นทางราฮีมรับบอลมาจากการ์เซียก่อนลากจากเกือบกลางสนามหลุดเข้าไปยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษบอลแฉลบกองหลังก่อนพุ่งซุกก้นตาข่ายเป็นประตูแรกของเกมไป 1-0!!!
เชซุสส่องไกลติดโกล
เปรสตันเกือบไปเมื่อริปเลย์ประตูไปเตะบอลเข้าทางของราฮีมแย่งมาได้ก่อนจ่ายออกขวาให้เชซุสเห็นช่องพยายามยิงไกลนอกกรอบทว่าบอลเบาเข้ามือโกล
ราฮีมจ่าย!เชซุสอัดซ้ายมุมแคบ 2-0
เรือใบสีฟ้าได้ประตูหนีห่างเป็นการทำชิ่งสวยงามที่ซิลบาไหลให้ราฮีมจ่ายต่อไปถึงเชซุสตวัดยิงด้วยซ้ายเต็มๆในกรอบเขตโทษด้านซ้ายบอลผ่านตัวของริปเล่ย์เข้าไปไม่พลาด 2-0!!!
โฟเด้นส่องไกล
ยังคงเป็นซิตี้ที่ได้ลุ้นมากกว่าแล้วมาได้จบอีกครั้งเมื่อแบร์นาร์โด้ไหลบอลไปให้โฟเด้นพยายามส่องด้วยซ้ายนอกกรอบแต่บอลก็โด่งข้ามคานออกไปไกล
หน้าหนูเปิดแฉลบกองหลังเข้าเฉย 3-0
ประตูที่ 3 ของเรือใบสีฟ้ามาอย่างง่ายดายเป็นการแทงบอลของราฮีมให้ซิลบาที่สอดทะลุไปตามช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนพยายามเปิดเข้ากลางแล้วไปแฉลบปลายเท้าของเล็ดสันเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไปเสียแบบนั้น
บราโว่ได้เซฟสบาย
เปรสตันมาได้ลุ้นตีไข่แตกจากบอลยาวที่มาถึงบาร์คุยเซนลากเข้ากรอบเขตโทษก่อนยิงด้วยซ้ายทว่าบอลไปตรงตัวของบราโว่รับเอาไว้สบายเลย
เรือลงมาลุ้นสองทีติด
ลงมาครึ่งหลังไม่ทันไรซิตี้ได้ลุ้นก่อนเลยเมื่อโฟเด้นเกี่ยวบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนยิงทันทีบอลไปแฉลบกองหลังก่อนกระดอนข้ามคานออกไปแล้วอีกจังหวะเชซุสได้โขกที่เสาแรกก็ยังไม่ตรงกรอบ
การ์เซียชาร์จไม่ถึงซิตี้อดได้เพิ่ม
ซิตี้เกือบได้ประตูอีกแล้วเป็นทางโฟเด้นที่โยนบอลจากกราบขวาไปทางเสาไกลก่อนที่ซิลบาพยายามเหยียดขาไปตบบอลเข้ากลางประตูการ์เซียดันเข้าชาร์จไม่ทันบอลผ่านหน้าประตูออกไป
โฟเด้นกดชนคาน
โอกาสเข้าทำยังเป็นของซิตี้อย่างต่อเนื่องคราวนี้เป็นทางโฟเด้นได้ยิงด้วยซ้ายระยะราว 15 หลาบอลผ่านมือโกลไปแล้วแต่ดันไปชนคานเข้าอย่างจังยังไม่มีชื่อขึ้นสกอร์บอร์ดในวันนี้
ราฮีมฟรีคิกข้ามคานไกล
เรือใบสีฟ้าได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษระยะราว 22 หลาเป็นทางราฮีมที่ขอยิงเองวิ่งมาปั่นด้วยขวาบอลข้ามกำแพงแต่ก็ข้ามคานออกไปไกลเช่นเดียวกัน
เชซุสโขกท่ายาก
จังหวะต่อเนื่องของการเตะมุมด้านขวาซิตี้มาได้ลุ้นอีกรอบเมื่อแบร์นาเบ้โยนบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่เชซุสกระโดดเอาท้ายทอยโขกทำให้โดนไม่ดีบอลไม่ตรงกรอบ
เรือยิงสบายเข้ารอบ 4
ทดเวลาบาดเจ็บเชซุสได้ยิงเหน่งๆตรงจุดโทษแต่ไปตรงตัวโกลทำให้ไม่ได้เพิ่มแต่ก็ไม่เป็นไรหมดเวลาชนะไป 3-0 ตบเท้าเข้ารอบต่อไปไม่มีพลาด
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
72.
เทย์เลอร์ ฮาร์วู้ด-เบลลิส
7
12.
อังเคลิโญ่
60'
6.5
21.
ดาบิด ซิลบา
63'
6.5
7.
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
73'
8
ตัวสำรอง
22.
เบนจามิน เมนดี้
60'
6
26.
ริยาด มาห์เรซ
73'
6
82.
อาเดรียน แบร์นาเบ้
63'
6
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Wed Sep 25, 2019 07:12, ทั้งหมด 13 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
THE END OF THE F***ING WORLD
My Locker
