[RE: รุ้สึกอนาถกับการเดินทางไปสนามบิน]
jabkungza พิมพ์ว่า:
Spoil
zhangwenxin พิมพ์ว่า:
jabkungza พิมพ์ว่า:
zhangwenxin พิมพ์ว่า:
jabkungza พิมพ์ว่า:
zhangwenxin พิมพ์ว่า:
jabkungza พิมพ์ว่า:
บอกกูเถอะ พิมพ์ว่า:
โลกหมุนรอบตัวคุณเหรอครับ ถ้าไม่ใช่ ก้มหน้าแล้วจัดการชีวิตตัวเองซะนะครับ เอาใจช่วย ผมไม่ได้เจออะไรฮาๆแบบนี้นานแล้ว
ผมขอตอบแทนจขมนะ
อย่าหาว่าผมยุ่งเลยครับ
โลกไม่ได้หมุนรอบตัวผมหรอกนะครับ
แต่เรื่องสวัสดิการขั้นพื้นฐานแค่นี้ผมยังต้องก้มหน้าต่อไป
เรื่องอื่นผมคงไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาละครับ
อย่างที่คุณว่า มันฮาครับ สำหรับผมมันก้ฮาครับ แบบตลกร้ายนะครับ ที่แค่สวัสดิการพื้นฐานมันย่ำแย่ขนาดนี้ แต่คนก็ยังทนกับมันโดยที่ไม่บ่นอะไรเลย
ด้วยความเคารพนะ ไม่ได้ประชดหรืออะไร
คุณลองลิสต์ประเทศที่สวัสดิการขั้นพื้นฐานดีกว่าไทย แต่เสียภาษีเท่าไทยมาหน่อยครับ
ตอบตรงๆผมไม่รู้ครับ ถึงจะไม่มีแล้วทำไมหรอครับ
การที่เสียภาษีแล้วแค่สวัสดิการพื้นฐานอย่างขนส่งมวลชนที่ดียังไม่ได้(ไม่ใช่ดีด้วยซ้ำนี่รถไฟเสียบ่อยแค่ไหน รถติดหยั่งกับอะไร) ผมต้องปิดปากเงียบหรอครับ
ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องอย่างอื่นเลยนะครับ แค่พื้นฐานการใช้ชีวิตแท้ๆ
ต้องคอยเทียบกับประเทศอื่นก่อนหรอครับ
หรือต้องรอให้ทุกประเทศบนโลกมีรถไฟที่ดีแล้วเราค่อยมี
หรือต้องรอให้เราจ่ายภาษีได้เท่าเค้าแล้วรถไฟค่อยดี
สำคัญด้วยหรอครับที่ต้องเปรียบเทียบแบบถอยหลังลงคลอง คุณจ่ายเงินแล้วพอใจกับสิ่งที่มีแค่นี้จริงๆหรอครับ
ผมไม่ได้คิดว่าการเรียกร้องอะไรมันผิดหรอกครับ ผมเห็นด้วย
แต่บางทีมันก็มากเกินไป เหมือนคุณจ่าย 100 บาท อยากได้ ของพันบาท
มันไม่มีหรอกครับในโลกนี้
คุณภาพของคนในประเทศมันก็มาจากคนในประเทศ
สวัสดิการที่ดีจะเกิดขึ้นได้ ก็เกิดจากคุณภาพของคนในประเทศนั้นๆ
แน่นอนสิครับ ถ้ารัฐบาลมีเงินไม่มากพอจะเอาที่ไหนมาสร้างให้คุณนั่งล่ะ
ประเทศไหนจนๆมีรถไฟฟ้าให้นั่งล่ะครับ ถามแปลกๆ
เหมือนคุณจ่าย 100 บาท อยากได้ ของพันบาท มันไม่มีหรอกครับในโลกนี้
บอกเลยครับว่ามี พวกสวัสดิการต่างๆที่รัฐให้เรานี่ละครับ มันไม่ใช่ 100 บาทแลก 1000 โดยตรงแต่โดยอ้อม รัฐบาลทำให้ครับ พวกไฟฟ้า น้ำประปา ถนนที่เราใช้กันทุกวันนี้ นี่ละครับ
พูดให้เห็นภาพ รัฐต้องแบกส่วนต่างให้ปชชอยู่แล้วครับ
ผมเข้าใจที่ท่านบอกนะ ท่านคงมองคนละแบบ คิดว่าประเทศเราไม่มีตัง แต่สำหรับผมมันมีตังครับแต่เหตุผลบางอย่างแหละครับ ถ้าเรื่องนี้ให้สุด คงต้องย้ายไปบอดการเมืองมากกว่า พูดแบบนี้ท่านคงเข้าใจผมบ้าง
ไม่มีอะครับ รัฐมาแบกค่าไฟค่าน้ำให้พันบาท โดยที่คุณจ่าย 100 บาท
ถ้ามีขอลิงค์หน่อยครับ
ผมไม่ได้คิดว่าไทยไม่มีเงิน
แต่ผมคิดว่าไทยสร้างรถไฟฟ้าได้หลายสายขนาดนี้ก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อแล้ว
ถนนจ่าย 100 ได้พันอะไรของคุณ นั่นเอาภาษีของเราหลายๆคนไปทำ
เอาภาษีรถไปทำ เอาเงินจากสัมปทานทางด่วนไปทำ เยอะแยะ
มันใช่จ่าย 100 ได้ พันที่ไหน มั่วไปเรื่อย
มันไม่ใช่จ่าย 100 ได้ พัน มันเรียกว่ามีคนจ่ายแทน
เช่นผมและอีกหลายคนไม่เคยใช้ 30 บาท รักษาทุกโรค
ผมและอีกหลายคนนี่แหละเป็นคนจ่ายส่วนต่างส่วนนี้ให้เขา
แล้วมันก็ถูกอย่างที่ผมบอกแล้วนี่แหละครับ คนในประเทศจ่ายภาษีนั่นก็คือเงินที่รัฐเอาไปใช้ รัฐจะใช่จ่ายเกินรายได้ที่หามาได้ก็ต้องกู้มา แล้วรายได้จากรัฐส่วนใหญ่มาจากไหน
เวียดนามที่สร้างรถไฟฟ้าแล้วเจ๊งตั้งแต่ยังไม่ใช้ เหตุผลพื้นฐานมันก็เหมือนกับประเทศไทย
เห็นรถไฟฟ้าเวียดนามแล้วก็คิดถึงประเทศไทยแต่ก่อน เช่นสร้างสุวรรณภูมิ 30 40ปีถึงเสร็จ
คุณบอกว่ามันเกี่ยวอะไรกับภาษี ถ้าไทยเหมือนประเทศยากจนวันนี้คุณจะได้มาบ่นเรื่องรถไฟฟ้าห่วยแตกหรือครับ รถไฟฟ้าให้ขึ้นยังจะไม่มีเลย
แล้วทำไมประเทศที่สวัสดิการดีๆเขาถึงเก็บภาษีสูงกันครับ ไม่เก็บให้เท่าไทยไปเลยล่ะ
ผมยังยืนยันคำเดิม ทุกอย่างเกิดขึ้นจากคุณภาพของประชาชนในประเทศนั้นๆ
เคยซื้อของสำเพ็งมั้ยครับ พวงกุนแจอันละ 2 บาท พอเดินเข้าห้างกลายเป็นอันละ 20บาท 50บาท
ผมถามหน่อยมูลค่าจริงๆของพวงกุนแจอันละเท่าไรครับ ถ้ารู้ช่วยบอกหน่อยผมก็ไม่รู้ครับ
เหตุผลเดียวกันครับง่ายๆ ทำไมรัฐถึงซื้อได้ถูกกว่าประชาชนทั่วไป หลักเดียวกันครับ
สำหรับผมมูลค่าของมันไม่ fixed อยู่แล้วครับว่าราคาเท่าไร
ประโยคที่ท่านพิมพ์มาบอก ซื้อ100ได้ของ1000 สำหรับผม
ถ้าซื้อเยอะมีเครดิตมันก็ซื้อได้ครับ ผมเลยมองว่ารัฐบาลสามารถทำได้
รัฐไม่ได้แบกให้ครับ แต่ด้วยกำลังซื้อ+เครดิตทำให้สามารถจ่ายในราคาถูกกว่าครับ
ยกตัวอย่างในของที่รัฐซื้อง่ายๆก็ ยาก็ได้ครับ ทำไม ยารพ.ถูกกว่าร้านขายยาครับ
ไม่ต้องพูดถึงมูลค่าจริงๆของยาก็ได้ครับ ผมก็ไม่รู้หรอกว่ายาพาราควรจะเม็ดละกี่บาท
ท่านจะมองมุมของท่านก็แล้วแต่ครับ
แต่จะหาว่าผมมั่วลองมองหลายๆมุมก่อนดีกว่านะครับ ด้วยความเคารพ
ส่วนเรื่องภาษีก็ตามท่านว่าแหละครับ ต่างคนต่างมุมมองครับ
ผมคิดว่าส่วนนี้คุณมองในมุมธุรกิจ ซึ่งมีทั้งสำเร็จและล้มหลว
อันนี้แล้วแต่มุมมองละกันครับ
ผมคิดว่าเข้าใจที่คุณสื่อนะครับ แต่ยังไงก็ได้ของตามมูลค่าที่ซื้อมา
ถึงจะซื้อเยอะแล้วได้มาในราคาที่ถูกก็ตาม
เราซื้อเยอะ ได้ของในราคาที่ถูก แต่คนขายก็ยังได้กำไรเช่นเดิม
เพียงแต่ตอนขายน้อยเขาได้กำไรต่อชิ้นมากกว่า ขายเยอะก็ได้กำไรก้อนใหญกว่า
และยังคงต้องอยู่ในขอบเขตของเงินภาษีหรือรายได้ที่เก็บได้ ใช้เกินก็ต้องกู้เอา
ผมไม่รู้ว่าคุณสื่อถึงส่วนไหนที่ไม่ช่วย ผมพูดรวมๆละกัน
ที่จริงมันก็ช่วยแหละครับ แต่มันช่วยในทุกเรื่องไม่ได้
ส่วนใหญ่ก็ช่วยแค่เอาหน้า หรือไม่ก็ให้รอดพ้นตัวไป
ที่สำคัญจริงๆผมคิดว่าไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหามากกว่า
เลี้ยงต้อยไปเรื่อยๆ ไม่แก้ปัญหาที่พื้นฐานของมัน ตามที่เราๆรู้กันว่าคืออะไร
ล่วงเกินอะไรไปก็ต้องขอโทษด้วยครับ