มาร์เซลโล่ ลิปปี้ตำนานกุนซือชาวอิตาเลี่ยนเปิดเผยว่าเขานับถือเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันสุดยอดผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเหมือนกับพี่น้องและมีการแลกเปลี่ยนไวน์ของโปรดกันอยู่เสมอ

ทั้งคู่ได้รับการยอมรับว่าเป็นตำนานแห่งวงการลูกหนังจากความสำเร็จมากมายหาใครมาเปรียบเทียบได้

แม้เคยประชันฝีมือกันมาในการคุมทีมช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่ลิปปี้บอกว่าเขามีความสัมพันธ์อันดีกับ"ป๋า"อยู่จนจวบทุกวันนี้

"ใช่เลย เขาเหมือนกับพี่ชายของผมเลยแหล่ะนะ"โค้ชผมสีดอกเลากล่าว

"เราแลกเปลี่ยนของขวัญกันมากมาย ผมซื้อช็อคโคแลตจากตูรินไปฝากหลานๆของเขา แต่สุดท้ายเขากินเองหมดเลยนะ"

"แม้แต่เรื่องของไวน์ ของดีจากบ้านเกิดของผม เขาชอบส่งไวน์ Matrioskas ของรัสเซียมาให้ผม ใส่กล่องซ้อนกล่องที่บรรจุวิสกี้ Maccallan ปี 1971 มาให้ มีอยู่วันหนึ่งผมต้องโทรไปหาอเล็กซ์แล้วขอเขาเพิ่มอีกกล่องด้วยซ้ำ"

"เขารักไวน์ที่ตัวเขาเรียกว่า Tigno จริงๆแล้วมันคือ Tignanello แต่เขาเชื่อว่ามันไม่ได้เรียกแบบนั้นนะ"

"เราเคยท้าพนันกันว่าบริกรที่คอยเสิร์ฟไวน์ในร้านอาหารจะเรียกว่าอะไร แน่นอนว่าผมชนะ!"

"เราคอยแนะนำไวน์ผ่านโทรศัพท์มือถือกันเป็นประจำเลยนะ เขาเป็นแฟนตัวยงของไวน์เลยแหล่ะ"

คิดถึงป๋าาา

ป๋าขี้เมาจะตาย

สมัยก่อนทำงานร้านเหล้า หลังอู่ต่อเรือ 55555

สมัยก่อนมีข่าวลือว่าขะ swap กุนซือระหว่าง ยูเว่ - แมนยู เลยทีเดียว

ช่วงปลายยุค90 เฟอร์กี้เคยบอกว่ายูเว่ชุดนั้นคือทีมที่มาจากนอกโลก สุดจริงชุดนั้น

มีอยู่ครั้ง ก่อนเจอกันในUcl อินซากกี้เคยเล่นจิตวิทยา โดยการบอกว่าหลงรักวิกตอเรีย เบ๊คแฮม

จำได้เลาๆประมาณนี้

ซี้กันมานาน2โคตรกุนซือ สุดยอดทั้งคู่

คอแข็ง เหล้าขาว
คอยาว เหล้าสี
คอกระจอก กินไวน์
คอสบาย กินโค้ก
คอสกปรก แดกทุกยี่ห้อ

DOF ไหมปู่

เฟอร์กี้สมกับเป็นคนสกอต ตามฉายาขี้เมาจริงๆ ส่วนลิปปี้นี่สำหรับผมเป็นโค้ชรุ่นเดอะที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในความคิดผมเลย

Matrioskas ไวน์แม่ลูกดก

ชอบข่าวแบบนี้จัง

ทุกคนก็เพื่อนกันทั้งนั้น

โอเว่น หนังสือรีบูทรีไรของเอ็งข่าเขียนทรงนี้บ้างนะ

ครั้งแรกๆที่ดวลกัน ลิปปี้ที่อายุน้อยกว่าป๋า 7 ปี แต่ออร่าและบุคลิกแบบเนี้ยบหรู ตอนนั้น Lippi​ขึ้นชั้น World class ไปแล้ว เพิ่งเป็นแชมป์ UCL มาหมาดๆด้วย แต่ป๋ายังแค่ระดับประเทศ

เหมือนคนละชั้นกันเลย ทั้งฝีมือและ appearance ในตอนนั้น แต่ก็กลายมาเป็นเพื่อนกันหลังจากนั้นป๋าแกก็ก้าวมาเป็น wc ทัดเทียมกับลิปปี้ได้

จริง ๆ ถ้ามองว่า ลีกอังกฤษถูกแบน ไม่ให้เล่นถ้วยยุโรปจนถึงปี 96 ก็จะรู้สึกไม่แปลกใจในฟอร์มของ ยูไนเต็มบนถ้วย บิ๊กเอียร์ช่วงแรกๆ เลยครับ เพราะอ่อนประสบการณ์ ไม่ใช่แค่ เฟอร์กี้แต่รวมถึง นักเตะด้วยในถ้วยยุโรป เทียบ ง่ายๆ ก็เหมือน ช่วงที่คอนเต้ คุมยูเว่นั่นแหละ ก่อนที่อัลเลกรีจะมาสอนต่อจนได้เข้าชิง ก็เหมือน ยูไนเต็ด ช่วงปี 96-98 ก่อนที่จะได้แชมป์ปี 99 นั่นแหละ ตั้งแต่นั้นมาอย่างน้อยยูไนเต็ดก็ทำผลงานได้ดีในถ้วยยุโรปมาตลอด คือเข้ารอบ แบ่งกลุ่มที่ 2 (หรือรอบสิบหกทีม) และ 8 ทีมอยู่บ่อยๆ

มาแย่อีกรอบจริงๆ ปี 2005-2006 ที่ตกรอบแบ่งกลุ่มเลย จนฤดูกาลถัดมาเฟอร์กี้ต้องปรับรูปแบบการเล่นของยูไนเต็ดชุดใหญ่

หลายคนมองว่า ยูไนเต็ด ปี 99 คือพีคสุด แต่ผมมองว่า ปี 2008 คือสุดยอดผลงานของเฟอร์กี้นะ เพราะปี 99 รูปแบบการเล่นยังไม่หลากหลาย เท่าปี 2008 แต่มีจุดเด็ดคือเรื่องใจสู้และกล้าได้กล้าเสีย แบบวิ่งลืมตาย ในขณะที่ปี 2008 เล่นด้วย Class บอลที่สูงกว่า เอาง่ายๆ คือ ผมไม่เคยคิดเลยว่า ทีมจากอิตาลี่ จะเสียประตูให้กับทีมจากอังกฤษ ถึง 7 ลูก เหมือนนัด โรม่า ยูไนเต็ด ตอนปี 2007