จาก ฐานเท่าไหร่ ถ้าจากแสนก็ไม่น่าย้าย ถ้าจาก 2-3 หมื่น ก็ไป
ส่วนตัว แค่มากกว่าฐานเดิม 15% ก็ไปแล้ว
เพื่อนบางคน เค้าก็มีเป้าหมาย 20% 30% แล้วแต่ความมั่นคงของบริษัท

อย่าลืมพิจาณณาสวัสดิการด้วยนะครับ
อย่างล่าสุด มีบวกให้ผม 25%จากที่เดิม แต่ไม่ได้ย้าย
คำนวณแล้วรายรับรวมต่อปีน้อยกว่าเดิมอีก เพราะไม่มีโบนัส
ไหนจะบวกสวัสดิการรักษาพยาบาลที่ไม่เท่าอีก

ผมนี่คงสัก 8 ปี ได้ขึ้น 7000

ของผมมันไม่มีการเลื่อนตำแหน่งแล้วปรับฐานนะครับ

ขึ้นแบบเป็นเปอร์เซ็น 8-10 เปอร์เซ็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ช่วงแรก ๆ จะช้า คงขึ้นไวตอนแก่

ของผมเลื่อนตำแหน่งนี่ปรับให้ก็แทบจะเหมือนไม่ได้ปรับ เพิ่มให้ 500 บาท เงินเดือนขึ้นทีก็ประมาณ 4%

ถ้าทุกอย่างเหมือนกันสิ่งสำคัญที่ต้องคิดถึงคือ เครียด กดดันและจะทำได้ยืดหรือเปล่า

ย้ายเลยครับ
ถามว่าเครียดกว่าเดิม กดดันกว่าเดิมไหม
เป็นเรื่องปกติ เค้าถือว่าจ้างแพง ต้องการสิ่งที่มากกว่าเดิมอยู่แล้ว

ต้องคิดเป็น % ด้วย และคิดสวัสดิการด้วย รวมถึงบวกค่าความเสี่ยงด้วยนะ

ถ้าเอาแต่ตัวเงิน ผมเพิ่งปฎิเสธที่ใหม่ ที่ + ให้ผมเกือบ 60k ไป แต่สวัสดิการมันรวมๆ ไปแล้ว เหมือนได้เพิ่มประมาณ 20-30k ซึ่งถ้านับความเสี่ยงแล้วก็ไม่คุ้มค่าในการย้าย เลยรอก่อน

ตอนเค้าเสนอเลขมาก็เกือบตกลงเหมือนกัน ดีที่กดเครื่องคิดเลขก่อน เลยรู้ว่าไม่คุ้มเท่าไร

10% ผมไม่ย้ายนะ .. อย่างน้อยๆ ต้อง 20-25 ถึงจะดูเงื่อนไขอื่นประกอบการตัดสินใจ

ถ้าเปิดมา 40-50% อันนั้น ย้ายทันที

อายุก็มีส่วนครับ ถ้ายังไม่35ไปลองวัดดูได้ไม่เวิร์คก็หางานใหม่ อายุมากจะหางานยาก กันเหนียวไว้นิดก็ดีครับ

ทำงานเพื่อ เงินครับ
ทำธุรกิจส่วนตัวก็เพื่อเงินครับ
เงิน สามารถทำให้ตัวเองและครอบครัวมีความสุขได้ไม่มากก็น้อย

ถ้าไม่ร้อนเงิน ให้เพิ่มอีก 10,000 ก็ไม่ย้ายครับ ถ้าไม่ได้มีเหตุผลที่ดีพอให้ย้าย

ถ้าเหตุผลคือสังคมที่ทำงานเดิมไม่โอเค ก็ต้องไม่โอเคถึงขั้นกระทบต่อหน้าที่การงานของเราจริงๆ เพราะย้ายไปที่ใหม่ก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าสังคมจะดีกว่าเดิม

นอกจากนั้นเเล้ว ถ้าเป็นผมเอง ก็จะดูว่าที่ทำงานปัจจุบันงานที่เราทำยังสามารถมีอะไรให้เราพัฒนาตัวเองได้อีกหรือไม่ ก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้ถึงขั้นไหนในบริษัท เเล้วความก้าวหน้านั้นมันคุ้มกับที่เราจะสู้ต่อไปหรือไม่

ในเเง่ของการดูเเลลูกจ้าง บริษัทมีสวัสดิการที่ดูเเลเราได้อย่างเหมาะสมตามสมควรเเล้วใช่หรือไม่ ไม่เอาเปรียบเราเกินไปหรือไม่ วัฒนธรรมการทำงานส่งเสริมให้เรารู้สึกทำงานได้อย่างสบายใจหรือเปล่า

เเละอีกคำถามที่ผมจะถามตัวเองคือ เราเป็นคนสำคัญของบริษัทเเล้วหรือยัง ถ้าบริษัทขาดเราไปวันนี้ สมมติว่าเราป่วยไป งานที่เราทำอยู่จะมีคนมาทำงานส่วนของเราได้หรือไม่ เเล้วมีจำนวนคนที่ทำเเทนได้เยอะหรือเปล่า เพราะถ้ามันเเทนเราได้ง่ายๆ ก็สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า ที่ใหม่อาจจะขาดคน เลยให้เงินจูงใจ เเต่พอเราเข้าไป เเล้วเค้าหาอย่างอื่นมาเเทนเราได้ง่ายๆ เค้าก็พร้อมจะบีบให้เราออกได้ง่ายๆเช่นกัน อะไรเเบบนี้เป็นต้นครับ

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ขึ้นอยู่กับการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆในชีวิตนะครับ บางคน การได้เงินเพิ่ม 7-8 พัน อาจจะหมายถึงการต่อลมหายใจให้ครอบครัวเค้าอยู่รอด นั่นมันก็มีความจำเป็นที่เข้าใจได้ทุกประการ ไม่ได้ต้องมีเวลามานั่งคิดปัจจัยต่างๆที่ผมร่ายยาวมา เพราะปากท้องสำคัญที่สุดเเล้ว จะมาบอกว่าทำไมไม่ อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ก็คงจะตายก่อนได้กินหวาน

สุดท้าย ทุกคนทำงานเพื่อผลตอบเเทนอยู่เเล้วครับ ผลตอบเเทนก็สำคัญ เเต่พลังเเห่งการอดใจรอจังหวะที่เหมาะสมมันก็มีอยู่จริง ท่านย้ายตอนนี้อาจจะเงินขึ้น 7-8 พัน เเต่ถ้ามันรอเวลาที่เหมาะสมอย่างอดทน นอกจากท่านอาจจะได้มากกว่านั้น ก็อาจจะมีอย่างอื่นที่ส่งเสริมที่ดีกว่าตามมาเป็นขบวนด้วยก็ได้

ไม่เอาจำนวนเงินนะ
เอาเป็นเปอเซ็น
สำหรับผม 25-35%
ถ้าได้ประมานนี้ ผมไปนะ
ถ้าน้อยกว่า ก็ต้องดูว่าเดินทางใกล้กว่าเดิมมั้ย
ถ้าต่างกันไม่มาก ก็ไม่ไป

เรื่องอื่นอ่ะครับ สวัสดิการ

โอกาสเติบโตในงาน

จริงๆต้องดูเป็น % อ่ะครับ ถ้าเดิมรับอยู่ 50,000 ได้มา 8,000 ผมไม่ย้ายนะ

แต่ถ้าเดิมรับอยู่ 20,000 ได้เพิ่มมา 8,000 ย้ายให้ไวครับถ้าองค์ประกอบใกล้เคียงกับที่เก่า

เศรษฐกิจแบบนี้ มีใครไม่น่าเงินบ้าง