ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
โค้ช C-License
Status: FIAT IUSTITIA, ET PEREAT MUNDUS
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 4508
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 19, 2019 17:55
ประวัติหลวงปู่เคน สุขวัฒโน แห่งวัดถ้ำเขาอีโต้ (ที่มา มุกหลวงปู่เค็ม)



ที่มาของประโยคฮิตของตลก "หลวงปู่เค็ม วัดเขาอีโต้ขว้างเป็ด เดินบนกองไฟ ก้าวแรกไม่เป็นไร ก้าวสองไฟเริ่มไหม้สบง"

เรื่องราวจากวีดิโอตลกที่ดังกระฉ่อนชั่วข้ามคืน ใครดูใครฟังก็อดขำไม่ได้ เป็นที่เข้าใจว่านั่นคือการแสดงเพื่อความบันเทิง มิใช่การลบหลู่แต่ประการใด แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะรู้ว่า หลวงปู่เค็ม วัดเขาอีโต้ขว้างเป็ด แท้ที่จริงแล้วเป็นชื่อสมมติ ที่ดัดแปลงมาจากอดีตพระเถราจารย์รูปหนึ่ง ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังกว้างไกลเมื่อห้าหกสิบปีก่อน มีอายุยืนยาวถึง 111 ปี แก่กล้าพุทธาคมเป็นที่เลื่องลือ เจ้าตำรับไซดักทรัพย์ ที่โดดเด่นในด้านโชคลาภค้าขาย ดังปรากฏให้เห็นตามร้านค้าแขวนอยู่ทั่วไปทั่วประเทศ พระเถราจารย์รูปนี้คือ หลวงปู่เคน วัดถ้ำเขาอีโต้ แห่งเมืองปราจีนบุรี

ประวัติหลวงปู่เคน สุขวัฒโน แห่งวัดถ้ำเขาอีโต้ ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

ท่านเกิดเมื่อพ.ศ.๒๔๐๒ ที่ตำบลโคกกรวด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก (ในสมัยนั้นยังเป็นจังหวัดปราจีนบุรี) ต่อมาได้มีภรรยาชื่อ นางลา ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านนางลา ณ หมู่บ้านนาปรือ ตำบลเนินหอม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ทั้งสองดำรงชีวิตคู่อยู่ได้ราวๆสิบปี โดยไม่มีลูก จนหลวงปู่เคนเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก จึงได้อุปสมบทเมื่อตอนอายุราวๆ ๓๐ ปีเศษ จากนั้นได้ออกเดินธุดงค์และกลับมาจำพรรษาในถ้ำแถวตำบลนาหินลาด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ต่อมาจึงย้ายมาจำพรรษาที่ถ้ำเขาอีโต้ ตำบลบ้านพระ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ตราบจนมรณภาพในปีพ.ศ.๒๕๑๓ สิริอายุ ๑๑๑ ปี

วัตรปฏิบัติและปฏิปทา

หลวงปู่เคน ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นที่ศรัทธาของสาธุชนทั่วไป แม้กระทั่งสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื้น นพวงศ์ ณ อยุธยา) ยังได้เสด็จมาสนทนาธรรมกับหลวงปู่เคน ณ วัดถ้ำเขาอีโต้ มีหลักฐานก็คือภาพถ่ายที่กุฏิหลวงพ่อเจ้าอาวาส ในสมัยหลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านชอบฟังเทศน์โดยเฉพาะการเทศน์มหาชาติ ถ้าว่างท่านจะนั่งภาวนาอยู่ในถ้ำ เวลาออกไปไหนมาไหนท่านชอบใช้ย่ามสีแดง จนคนนิยมเรียกท่านว่า "หลวงพ่อย่ามแดง" หลวงปู่เคนท่านเป็นพระรุ่นเก่า เวลาพูดท่านก็ชอบใช้ภาษาโบราณ และมักจะเอ่ยวลีว่า “ หอสระอีแม่มึง ” เสมอ หลวงปู่เคนท่านออกเดินบิณฑบาตเป็นนิจแม้ว่าจะอายุมากแล้วก็ตาม และการบิณฑบาตของท่านนี่เองเป็นเหตุให้เกิดเรื่องเล่าขานว่าหลวงปู่เคนเป็นพระผู้สำเร็จอภิญญาสามารถเดินหนย่นระยะทางได้ จนมีผู้ศรัทธาหลั่งไหลมากราบขอพรและให้ท่านรดน้ำมนต์ให้มิได้ขาด ยิ่งไปกว่านั้นวัตถุมงคลที่หลวงปู่สร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไซดักทรัพย์ นกสาลิกาคู่ สีผึ้ง ผ้ายันต์ ฯลฯ ต่างก็เป็นที่ต้องการของผู้ที่มากราบท่าน เพราะเต็มไปด้วยอานุภาพทางเมตตามหานิยม ไปบูชาแล้วค้าขายดี มีประสบการณ์เล่าขานกันไม่จบสิ้น

อภินิหารของหลวงปู่

เรื่องราวอภินิหารของหลวงปู่นั้นผู้เขียนได้รวบรวมจากนักเขียนรุ่นเก่าๆบ้างและผู้มีประสบการณ์โดยตรงบ้างดังนี้

มีเรื่องเล่าแปลกๆว่า มีลูกศิษย์ไปพบหลวงปู่ที่วัด แต่เด็กวัดบอกว่าหลวงปู่เข้าไปในถ้ำสวดมนต์ ลูกศิษย์คนนั้นจึงเดินไปหาหลวงปู่ในถ้ำ เมื่อเข้าไปก็เห็นหลวงปู่สวดมนต์อยู่จริงๆ แต่ร่างของหลวงปู่ท่านลอยอยู่บนอากาศ โดยไม่มีอะไรรองนั่งแม้แต่น้อย หลวงปู่ท่านลอยอยู่สักพักแล้วก็ค่อยๆลอยกลับมาลงนั่งสมาธิปกติดังเดิม...

ชาวบ้านที่จังหวัดนครนายก เห็นพระชราแปลกหน้ามาเดินรับบาตรอยู่บ่อยๆ จึงถามว่าท่านชื่ออะไร มาจากไหน ท่านบอกว่าชื่อหลวงปู่เคน มาจากวัดถ้ำเขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งอยู่ห่างไปสามสิบกิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านหลายคนเกิดความสงสัยว่าท่านมาเดินบิณฑบาตถึงนี่ได้อย่างไร จึงมีคนเรียนถามท่าน หลวงปู่ท่านบอกว่าเดินมา พอชาวบ้านบอกว่าจะไปส่ง หลวงปู่ท่านบอกว่าไม่ต้อง ท่านเดินกลับเองได้ ทำให้ชาวบ้านยิ่งสงสัยหนักขึ้นไปอีก กระทั่งเช้าวันหนึ่งเมื่อใส่บาตรเสร็จแล้วจึงแอบขับรถตามท่านออกไป ปรากฏว่ารถขับตามหลวงปู่เดินไม่ทันจนพลัดหลงกัน เขาเลยขับรถดิ่งไปยังวัดถ้ำเขาอีโต้ทันที เพื่อรอดูหลวงปู่ว่าท่านจะกลับมาที่นี่จริงหรือเปล่า แต่พอมาถึงวัดเขาก็ต้องตกใจ เพราะเห็นหลวงปู่นั่งฉันเช้าอยู่แล้ว ครั้นมองไปที่สำรับกับข้าวก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปอีก เมื่อเห็นกับข้าวที่เขาใส่บาตรเมื่อเช้าอยู่ในสำรับที่หลวงปู่กำลังฉัน นั่นแสดงว่าหลวงปู่เคนท่านเดินย่นระยะทางมาได้จริงๆ

คราวหนึ่งไฟไหม้บ้านพี่สาวของนักเขียนนิตยสารพระชื่อดังที่อุบล แต่ปรากฏว่ามีวัตถุมงคลที่ไฟไม่สามารถเผาผลาญหรือหลอมละลายได้คือ รูปถ่ายหลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง และ ผ้ายันต์แดงของหลวงปู่เคน วัดถ้าเขาอีโต้

ตาสมบุญเป็นหลานๆของหลวงปู่เคนเล่าว่า เมื่อสมัยยังเป็นเด็ก ได้เคยไปนอนที่กุฏิหลวงปู่เคน พอตอนเช้าหลวงปู่ท่านก็ออกเดินบิณฑบาตตามปกติ แต่ก่อนที่หลวงปู่จะออกจากถ้ำเขาอีโต้ ท่านได้เอ่ยว่า ไอ้น้อย(หมายถึงตาสมบุญ)เดี๋ยวเอ็งอยู่ที่นี่ก่อนนะ หลวงปู่จะไปบิณฑบาตในเมืองสักหน่อย ว่าแล้วท่านก็ถือบาตรเดินออกมา แต่เพียงสิบกว่านาทีท่านก็เดินกลับมาพร้อมอาหารเต็มบาตร ทำเอาตาสมบูรณ์ซึ่งเป็นเด็กในขณะนั้นแปลกใจเป็นอย่างมากว่าทำไมหลวงปู่ท่านเดินเข้าไปบิณฑบาตในเมือง แต่กลับมาถึงวัดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร เนื่องจากในสมัยนั้นไม่มีรถผ่านดังปัจจุบัน เวลาไปไหนมาไหนต้องใช้การเดินเท้า

ครั้งหนึ่งเมื่อหลวงปู่เคนฉันภัตตาหารเสร็จแล้วได้นำแอบเปิ้ลที่เหลือแจกจ่ายแก่ญาติโยมที่ยากจน ปรากฏว่าแม่เฒ่าท่านหนึ่งไม่กล้ากินผลแอบเปิ้ลที่หลวงปู่เอาให้ เพราะไม่รู้จัก เนื่องจากสมัยนั้นแอบเปิ้ลเป็นผลไม้ของหายาก ต้องสั่งมาจากต่างประเทศ จะมีขายเฉพาะแหล่งธุรกิจการค้าในกรุงเทพ คนในป่าในดงตามบ้านนอกคงไม่เคยเห็น จึงมีผู้ถามหลวงปู่ว่าไปเอาแอบเปิ้ลมาจากไหน? หลวงปู่ท่านตอบว่าเมื่อวาน โยมที่กรุงเทพเขาใส่บาตรมา ลูกศิษย์บางคนที่ได้ฟังอยู่ก็แย้งว่า เมื่อวานหลวงปู่ไม่ได้ไปกรุงเทพนี่ครับ หลวงปู่ยังไปเดินบิณฑบาตแถวหมู่บ้านผมเลย หลวงปู่ได้ยินแล้วก็ทำเป็นเฉยเหมือนไมได้ยิน ส่วนลูกศิษย์ก็เริ่มลือกันไปว่าหลวงปู่เคนแบ่งภาคไปบิณฑบาตพร้อมๆกันทั้งสองแห่ง อีกทั้งย่นระยะทางไปไหนมาไหนได้อย่างรวดเร็ว

เล่ากันว่าหลวงปู่เคนรู้วันมรณภาพ คือมีอยู่วันหนึ่ง อยู่ๆหลวงปู่เคนก็บอกกับลุงเลิศหลานชายของท่านว่าอีก ๗ วัน ท่านจะมรณภาพ ตอนนั้นลุงเลิศก็ได้แต่คิดในใจว่าหลวงปู่ถ้าจะหลง เพราะตอนนี้ท่านก็แข็งแรงดีไม่มีวี่แววว่าจะเจ็บป่วย แล้วจะถึงแก่มรณภาพในเวลาอันสั้นได้อย่างไร จนกระทั่งถึงวันที่ ๗ ตามที่ท่านกล่าว อยู่ๆหลวงปู่ก็บอกว่าอยากกินข้าวเหนียวมะม่วง จากนั้นไม่นานก็มีลูกศิษย์จากกรุงเทพมาหาแล้วนำข้าวเหนียวมะม่วงมาถวาย เล่นเอาคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น ต่างก็หันมามองตากันด้วยความทึ่งในอภิญญาของหลวงปู่ พอญาติโยมลากลับในช่วงบ่ายๆ หลวงปู่ท่านก็เป็นลมและมรณภาพในตอนเย็นของวันนั้นนั่นเอง

เมื่อหลวงปู่มรณภาพแล้วได้มีการเก็บสังขารของท่านไว้ในหีบ โดยท่านได้สั่งกำชับไว้ก่อนนานแล้วว่า เมื่อสวดอภิธรรมเสร็จให้นำหีบดังกล่าวบรรจุไว้ในหลืบถ้ำบริเวณที่ท่านอยู่ ซึ่งทางวัดก็ได้ดำเนินการตามนั้นมา

จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ได้เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ขึ้นในคืนหนึ่งคือ อยู่ดีๆได้เกิดไฟเผาไหม้หีบบรรจุสังขารดังกล่าว ทำให้เหลือเพียงแต่เถ้าและกระดูกของท่านเท่านั้น พอรุ่งเช้าลูกศิษย์ลูกหาที่รู้ข่าวต่างมามุงดูและวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ ขณะเดียวกันก็มีบางคนแอบหยิบเอาชิ้นส่วนกระดูกของท่านออกมา แต่พอนำขึ้นรถจะขับกลับบ้าน ปรากฏว่าไม่สามารถสตาร์ทรถติด จึงต้องนำชิ้นส่วนกระดูกที่หยิบติดตัวไปกลับมาคืนที่เดิม

หลังจากเหตุการณ์มหัศจรรย์เกิดขึ้นไม่นานก็ได้มีลูกศิษย์ของท่านมาทำการสร้างมณฑปคอนกรีตครอบบริเวณดังกล่าวไว้เพื่อจะได้ประดิษฐานรูปหล่อจำลองของท่านไว้ให้ผู้ที่ศรัทธาได้กราบเคารพบูชา โดยจะทำการสร้างเป็นสองชั้น แต่พอสร้างมณฑปชั้นแรกเรียบร้อยแล้ว ก็สร้างบันไดขึ้นไปยังพื้นชั้นสองเสร็จเป็นลำดับถัดมา แต่พอช่างเริ่มขึ้นไปเหยียบพื้นชั้นสอง เพื่อจะสร้างผนังและโครงหลังคา ก็ปรากฏเกิดเหตุอาเพศ ฟ้าผ่าลงกลางต้นไม้ใหญ่ที่อาคารมณฑปชั้นล่างล้อมไว้ ทำให้ลำต้นของต้นไม้ดังกล่าวแตกเป็นสองซีก ดูเหมือนว่าหลวงปู่หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์คงไม่อยากให้ใครขึ้นไปเหยียบย่ำด้านบน ทางวัดเห็นท่าไม่ดีจึงหยุดสร้างมณฑปชั้นสองตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กระทั่งปัจจุบันมณฑปก็ยังคงเป็นอาคารชั้นเดียวอย่างที่ท่านเห็นในภาพ

กรรมฐานและวิชาคาถาอาคม

เล่ากันว่าชาวบ้านแถวตำบลโคกกรวด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ถิ่นกำเนิดของหลวงปู่เคนมีเชื้อสายลาว พูดภาษาถิ่นแบบภาษาอีสาน เมื่อหลวงปู่เคนบวชแล้ว ท่านจึงออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ รวมถึงเข้าไปยังประเทศลาว เพื่อเรียนกรรมฐานและวิชาอาคมกับสำเร็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ เมื่อเรียนกลับมาแล้วก็ได้กลับมาจำพรรษาและช่วยชาวบ้านสร้างและพัฒนาวัด วัดพรหมเพชร ขึ้นที่ตำบลโคกกรวด ถิ่นกำเนิดของท่าน เมื่อสร้างเสร็จแล้วท่านจึงออกไปอยู่ในถ้ำเขาอีด่าง บริเวณน้ำตกวังม่วง ตำบลนาหินลาด จากนั้นไม่นานจึงย้ายมาอยู่ที่ถ้ำเขาอีโต้ตราบจนมรณภาพ

เนื่องจากหลวงปู่เคนได้ร่ำเรียนวิชามาจากสำเร็จลุน วิชาของท่านจึงออกจะแปลกแหวกแนวไปกว่าวิชาของทางฝ่ายไทยที่เราเคยได้รับรู้กันทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นวิชาน้ำออกบ่อที่ใช้ทำน้ำมนต์รดถอนของขจัดอัปมงคล วิชากาหลงที่ใช้ได้สารพัด หรือวิชาการทำไซเงินไซทองไว้ดักทรัพย์ โดยใช้ มหาชัยยะมงคลคาถา หรือ ไชยใหญ่และจุลชัยยะมงคลคาถาหรือ ไชยน้อย ซึ่งเป็นคาถาภาษาบาลีผสมภาษาลาว มาสวดปลุกเสกเพราะในภาษาไทยอีสานและภาษาลาวจะออกเสียง ช.เป็น ซ. ดังนั้นคำว่าชัยมงคล ทางไทยอีสานและลาวจะออกเสียงเป็นไซยมงคล ซึ่งพ้องกับคำว่าไซ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ดักสัตว์น้ำของไทย มาเป็นเคล็ดในการปลุกเสกไซของท่านซึ่งนับว่าได้ผลเป็นที่ประจักษ์กันมามากแล้วว่ามีอานุภาพก่อให้เกิดสิริมงคล คุ้มครองป้องกันภัยทำมาค้าขาย โชคลาภดี อย่างชนิดที่พูดได้ว่ายังไม่มีไซของพระเกจิอาจารย์ใดเก่งไปกว่าไซเงินไซทองดักทรัพย์ของท่าน เพราะชัยยะคาถาทั้ง ๒ นี้พรรณนาถึงชัยชนะของพระพุทธเจ้า เหนือหมู่มารทั้งปวงทั้งล่วงพ้นอำนาจของพรหม มาร เทวดา ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 และสรรพสัตว์ อีกทั้งความชั่วร้ายทั้งร้าย เชื่อกันว่า เป็นบทสวดที่มีอานุภาพมาก สามารถขจัดปัดเป่าเรื่องเลวร้าย และภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง ทั้งแก่ตัวผู้สวดสาธยาย และบ้านเมืองของผู้สวดสาธยายนั้น



วัตถุมงคลของหลวงปู่เคน

วัตถุมงคลของท่านจะเน้นไปทางเมตตา มหานิยม การค้าขายดี เป็นหลัก ท่านมีชื่อเสียงเรื่องการสร้าง ไซดักเงิน และนก (ที่ทำจากไม้กาหลง) สีผึ้ง ผ้ายันต์ เหรียญ ฯลฯ

ไซ เป็นเครื่องจักสานประเครื่องดักจับสัตว์น้ำที่มีความสำคัญ และมีคุณค่าต่อวิถีชีวิตของคนในในอดีต ทุกบ้านจะทำไซไว้ใช้เอง โดยจะนำไซไปดักไว้ตามคลองที่น้ำไหลผ่าน ซึ่งสถานที่ดักก็จะมีอยู่ทั่วไปตามไร่ตามนา ในฤดูฝนมีน้ำหลาก ชาวบ้านออกไปทำไร่ ทำนา ก็จะนำไซไปดักทิ้งไว้ด้วย ก็จะได้ปู ปลาต่าง ๆ มากมาย บางครั้งอาจยกไซไม่ได้เนื่องจากหนักเพราะดักปลาได้เกือบเต็มไซ ปลาที่ได้ก็จะนำไปประกอบอาหารสำหรับทุกคนในครอบครัว แบ่งปันให้เพื่อนบ้านบ้าง โดยไม่ต้องซื้อขายกัน ที่เหลือก็จะนำมาถนอมอาหารเช่น ทำปลาร้า ปลาเค็ม ปลาย่าง เก็บไว้กินยามฤดูแล้ง ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากร ที่สามารถหาปลากินได้อย่างเหลือเฟือ พระเกจิโบราณจึงนำไซมาทำเป็นเครื่องราง ให้ลูกศิษย์ไปแขวนไว้ตามหน้าร้านค้า ประตูบ้าน หรือใช้ผูกเสาเอกในพิธีลงเสาเอกบ้านเรือน เพื่อความเป็นสิริมงคล.. ช่วยดักเงินทอง ดักโชค ดักลาภ เรียกกันว่าไซดักทรัพย์ และพระเกจิอาจารย์ที่ทำไซแบบนี้ได้มีอานุภาพสูงสุดก็คงไม่มีใครเกินหลวงปู่เคน แห่งวัดถ้ำเขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี ท่านเป็นพระใจดีมีเมตตามาก วัตถุมงคลของท่านใช้แล้วร่ำรวยกันทั้งนั้น ใครๆ ในสมัยก่อนจึงไปกราบท่านเต็มวัด

ข้อมูลจากFB: หลวงปู่นูญ วัดเนินหอม
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ผู้ช่วยผู้จัดการทีมสำรอง
Status: เรื้อนเพราะรัก ไม่รักไม่เรื้อน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 33991
ที่อยู่: 乃木坂46
โพสเมื่อ: Mon Aug 19, 2019 18:11
[RE]ประวัติหลวงปู่เคน สุขวัฒโน แห่งวัดถ้ำเขาอีโต้ (ที่มา มุกหลวงปู่เค็ม)
ตอนแรกก็เข้ามาอ่านประวัติ อ่านไปอ่านมาเหมือนอ่านนิยายซะงั้น...
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
แก้ไขล่าสุดโดย 46คือรัก เมื่อ Mon Aug 19, 2019 18:11, ทั้งหมด 1 ครั้ง
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 1793
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 19, 2019 18:17
[RE: ประวัติหลวงปู่เคน สุขวัฒโน แห่งวัดถ้ำเขาอีโต้ (ที่มา มุกหลวงปู่เค็ม)]
แฟนตาซีมาก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 May 2009
ตอบ: 7866
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 19, 2019 18:21
ประวัติหลวงปู่เคน สุขวัฒโน แห่งวัดถ้ำเขาอีโต้ (ที่มา มุกหลวงปู่เค็ม)
สาธุ 99
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Dec 2009
ตอบ: 1720
ที่อยู่: ผมยังอยู่บนพื้นดิน
โพสเมื่อ: Mon Aug 19, 2019 18:28
[RE: ประวัติหลวงปู่เคน สุขวัฒโน แห่งวัดถ้ำเขาอีโต้ (ที่มา มุกหลวงปู่เค็ม)]
ก้าวแรกไม่เป็นไร ก้าวสองไฟเริ่มไหม้สบง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jan 2014
ตอบ: 3885
ที่อยู่: bangkok
โพสเมื่อ: Mon Aug 19, 2019 18:38
[RE: ประวัติหลวงปู่เคน สุขวัฒโน แห่งวัดถ้ำเขาอีโต้ (ที่มา มุกหลวงปู่เค็ม)]
ดูจากรูปก็น่าจะพอเห็นได้ว่าหลวงปู่เป็นพระผู้เฒ่าที่น่าจะปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ คนพื้นที่ถึงได้ให้ความเคารพนับถือมาถึงปัจจุบัน ส่วนอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์จะเป็นจริงแค่ไหนเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เป็นชนรุ่นหลังก็คงได้แต่ฟังไว้พิจารณา ยังไงถ้าเรื่องนี้เป็นบ้านเกิดของเราแล้วคนเอามาเล่นแบบนี่เราก็คงไม่สบายใจ

ความเห็นส่วนตัวครับ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: Play Forward
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Sep 2009
ตอบ: 10774
ที่อยู่: Fromis_9
โพสเมื่อ: Mon Aug 19, 2019 19:03
ประวัติหลวงปู่เคน สุขวัฒโน แห่งวัดถ้ำเขาอีโต้ (ที่มา มุกหลวงปู่เค็ม)
ผมอ่านหนังสือพระเมื่อก่อนนี่ยังกับอเวนเจอร์ มีทั้งเหาะได้ พับแผ่นดินให้เดินทางเร็วขึ้น หายตัวบังตา เสกให้คลองเป็นน้ำแข็ง อะไรไปเรื่อยเลย
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

Tottenham Hotspur-Roma-New England Patriots-SC30-J.Lin7-TB12


ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: แค่เธอยักคิ้ว…ต้นงิ้วก็แค่สไลเดอร์ !!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 13981
ที่อยู่: Japan
โพสเมื่อ: Mon Aug 19, 2019 20:22
[RE]ประวัติหลวงปู่เคน สุขวัฒโน แห่งวัดถ้ำเขาอีโต้ (ที่มา มุกหลวงปู่เค็ม)
ผมว่าช่วงนี้เหรียญท่านคงราคาขึ้นแน่
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status: หวิ่งๆ หวั่งๆ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 Dec 2009
ตอบ: 6398
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 19, 2019 21:39
[RE]ประวัติหลวงปู่เคน สุขวัฒโน แห่งวัดถ้ำเขาอีโต้ (ที่มา มุกหลวงปู่เค็ม)
พระท่านก็อยู่ดีๆของท่าน มีแต่ลูกศิษย์นี่แหละคอยมาเติมนั่นนู่นนี่
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ฝากชองฟังเพลงสบายๆด้วยครับผม https://www.youtube.com/embed/GbPsvOqrT08
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status: สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Sep 2018
ตอบ: 1882
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 20, 2019 09:55
[RE: ประวัติหลวงปู่เคน สุขวัฒโน แห่งวัดถ้ำเขาอีโต้ (ที่มา มุกหลวงปู่เค็ม)]
ผมว่าเรื่องอิทธิปาฏิหารมันอยู่ที่ความเชื่อส่วนบุคคลนะ
คนเราก้อแปลกใครคิดไม่เหมือนตนเองชอบไปว่าเขาไม่ว่าจะฝ่ายไหนก้อต่างยึดมั่นในความคิดของตน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel