ก่อนอื่นเลยคือสมคำร่ำลือจริง ๆ ว่ามันเป็นหนังศิลป์ที่ดูเอาสนุกได้สบายมาก มีทั้งการเสียดสีสังคม ตลกร้าย ธริลเลอร์ และดราม่าในเรื่องเดียว

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะต้องมีองค์ประกอบที่ต้องอาศัยการตีความอยู่พอสมควร ได้รับชมคลิปหนึ่งใน YouTube เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็รู้สึกว่าวิเคราะห์ได้ดี แต่ก็ยังมีบางอย่างที่ส่วนตัวสงสัยอยู่ และพยายามคิดยังไงก็ยังไม่ค่อยแน่ใจในคำตอบของตัวเองนัก เลยจะมาถามท่านที่ได้รับชมไปแล้วหน่อย

ในเรื่องมีถึงสองฉากด้วยกัน ที่พ่อครอบครัวรวยพูดถึงความพยายามในการเอาใจภรรยาของตัวเอง พอพ่อครอบครัวจนได้ฟังแล้วยิ้ม ก็พูดต่อว่า “คุณคงรักเธอมากสินะครับ” คือฉากที่อยู่ในรถและฉากเตรียมตัวจัดงานวันเกิดของลูกชายครอบครัวรวย พอพ่อครอบครัวรวยได้ยินจะเปลี่ยนท่าทีจากเป็นมิตรเป็นเงียบขรึมขึ้นมาฉับพลันเลย อย่างตอนอยู่ในรถก็พูดประมาณว่าผมคงจะเรียกแบบนั้นมั้ง หรือฉากงานวันเกิดที่เปลี่ยนเรื่องไปเลย บอกว่าจะจ่ายเงินนอกเวลาให้ อยากทราบว่าแต่ละท่านคิดว่าความหมายของทั้งสองฉากนี้คืออะไรกัน

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคอมเม้นต์เลยเด้อ ลองมาคุยกัน หรือมีฉากไหนในเรื่องที่ท่านคิดว่าเป็นการแสดงสัญลักษณ์ลองยกมาได้เลย ชอบอ่านเพราะไม่ค่อยมีสมองจะนึกเองได้เท่าไหร่

ขอพูดถึงฉากอื่นในหนัง

ชอบเฟรมเปรียบเทียบหน้าต่างบ้านคนจน กับหน้าต่างสวนบ้านคนรวยมาก

อีกฉากที่ชอบมากๆตอนดูในโรงคือ ฉากครอบครัวคนจน หนีกลับบ้าน
กล้องถ่ายความลาดเอียงของถนน การไหลของน้ำ การเดินลงบันไดไปเรื่อยๆ
การเดินก้มหน้าก้มตาของครอบครัว สเตปลงจนจมไปถึงบ้านตัวเอง

จนได้ยินคำพูดคนพ่อว่า แผนที่ไม่มีผิดพลาดคือ ไม่ต้องวางแผน
สื่อถึงคนประเภทนี้ได้ดีเลย

เรื่องนี้ผมให้ดีงามทั้งความแมส และเนื้อหาศิลปะภาพยนตร์เลย

ความจนมันน่ากลัวจริงๆ มันทำให้สูญสิ้นความเป็นคน สูญสิ้นจิตสำนึกได้เลยอ่ะ เรื่องนี้พูดเรื่องชนชั้นได้ดีโคตรๆ


"รวยแล้วนิสัยดี หรือนิสัยดีแล้วจึงรวย" โควทจากหนัง เอาไปเลย 10/10

ผมเดาว่าเป็นเรื่องที่ย้ำว่า รักครอบครัวตัวเองมาก จนไม่สนใจความเป็นอยู่ของคนอื่น

ใช้เงินแก้ปัญหาโดยการจ้างนอกเวลา โยงไปถึงฉากที่เจสสิก้า จะตายอยู่แล้ว ยังไม่สน หาว่าจ้างมาแล้วนะ

มาช่วยลูกชายกรูเดี๋ยวนี้

ที่พ่อจน ถามพ่อรวย 2 ครั้ง ว่าคุณรักเธอรึเปล่า/ผมรู้แล้วว่าคุณรักเธอมาก แบบแสดงความเป็นห่วงเจ้านาย

พ่อรวยมันก็บอกกับเมียมันอยู่นะ ว่าไม่ชอบลูกจ้างมาให้ลามปามล้ำเส้น

ฟีลลิ่งคงแบบ เอ็งเป็นแค่คนขับรถ ไม่มีสิทธิมาถามเรื่องส่วนตัวอะไรขนาดนี้

อย่าถามให้มาก เราไม่ใช่เพื่อนกัน




ส่วนสัญลักษณ์ที่ผมชอบที่สุดคือ

ชั้นห้องใต้ดิน/ชั้นห้องบนดิน เปรียบเสมือน

ฐานะยากจน/ฐานะร่ำรวย

(ตอนจบเรื่องนี่ชัดเจนเลย) ผมจะตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงาน ทำตัวเองให้มีฐานะ

จนซื้อบ้านหลังนี้ได้ พ่อจะได้ไม่ต้องหลบซ่อนๆอีกต่อไป แล้วเดินขี้นมาเจอหน้าผมได้แบบไม่ต้องอายคนอื่น

พึ่งดูจบ ออกมาโรงหนังมาสดๆร้อน ยันอึนไม่หาย

ฉากจบก็ไม่วายมีหักมุมอีกรอบ สุดจริง

แต่ฉากเลิฟซีนบนโซฟา ทำเอาผมนี่ลุกเลย

คาใจจุดเล็กๆ 3 จุดคือ น้องพระเอกทำยังไงลูกคนเล็กถึงไม่ดื้อกะน้องพระเอก
อีกจุดคือเด็กแกะรหัสมอสได้แล้ว ไม่มีไรเกิดขึ้นเลย
แล้วไอ้ประโยคบอกว่าคุณรักเมียมากสินะมันลามปามยังไง จะหาว่ามีเมียน้อยหรอ

ไปดูมาวันพฤหัสครับ

อันนี้ในมุมมองผมนะ

ตอนขับรถบทสนทนาอาจจะเป็นเรื่องครอบครัวคนรวย เกี่ยวกับปัญหาของครอบครัวคนรวย
ผมมองว่าพ่อคนรวยอยากเล่าอะไรให้พ่อคนจนก็จะเล่าให้ฟังเอง
มึงไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย ห้ามถามเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับครอบครัว ความสัมพันธ์เรื่องเมียหรือว่าลูก หรือว่างานที่ทำอยู่

นอกเสียจากว่าตัวเองกำลังมีปัญหา อยากได้คำแนะนำ คำปรึกษาอะไรก็จะถามเอง
อาจจะมีฉากที่ถามว่าคุณคงรักภรรยามากซินะครับ
ฉากรถเกือบเฉี่ยวชนเพราะไม่มองทางของพ่อคนจน พ่อคนรวยเลยปามๆ เป็นจุดตัดจบบทสนาไป
ฉากนี่เองที่พ่อคนรวยเริ่มจะไม่พอใจในการทำงานของพ่อคนจนด้วย

แต่ก็นั้นแหละครับไม่โวยโดนหลอกอีกสเตป เพราะการไม่รอบคอบ ความไม่ละเอียดของตัวเองทั้งนั้น


ฉากใส่ชุดอินเดียนแดง ผมอาจจะตีความได้ว่า ระหว่างคนสองคน ปัญหาต่างๆที่เจอมาระดับมันแตกต่างกันไปในแต่ละวันครับ

ที่พ่อคนจนทำหน้าเจื่อนๆแบบนั้นเพราะกูไม่มีอารมณ์ร่วมในงานวันเกิด ไม่รู้สึกสนุก หรือว่าเอ็นจอยใดใด
เพราะครอบครัวกูกำลังแย่ กลัวมึงรู้ความจริง กลัวอีป้าลูกพีชตาย กลัวความจะแตก

ในฉากนี้พ่อคนรวยไม่รู้ว่าเมื่อคืนพ่อคนจนแม่งไปเจออะไรมาบ้าง มีปัญหาหนักหนาสาหัสมามากแค่ไหน
พ่อคนรวยก็แม่งจะใช้ให้พ่อคนจนแฮปปี้ เอ็นจอยกับงานวันเกิดของลูกตัวเองให้ได้ ใช้เงินจ้าง เงินซื้อเวลา ซื้อความสุขให้ครอบครัว ทำเพื่อครอบครัว
โดยที่ไม่สนใจลูกจ้างว่าเมื่อคืนมึงพักผ่อนน้อยมั้ย ได้นอนมั้ย ทะเลาะกับเมียรึป่าว หรือว่าญาติไม่สบาย
พ่อคนรวยไม่เคยถามรายละเอียด เรื่องความใส่ใจ ความสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆเลย


แล้วจากเหตุผลที่พ่อคนจนถูกกดขี่มาโดยตลอด พ่อคนรวยอาจจะไม่ได้พูดต่อหน้า แต่ลับหลังก็มีนินทาเรื่องกลิ่นตัวที่เหม็นสาบ

ผมว่าพ่อคนจนคงสะสมปัญหาต่างๆมามากมาย จนสุดท้ายลูกตัวเองก็จะตายอยู่แล้ว
พ่อคนรวยก็จะให้พ่อคนจนขับรถอีก เลยฟิวขาดแทงแม่งเลย เกิดเป็นโศกนาฏกรรม

หนังมันหักมุมสำหรับผมอยู่นะ นึกว่าไอ้คนที่อยู่ชั้นใต้ดินมันจะแทงจะฆ่าให้หมดในงาน 55555

เรื่องความลาดเอียงนี่หนังเล่นตั้งแต่เปิดเรื่องเลยครับ
ตอนที่ลูกชายครอบครัวคนจนเดินไปทำงานครั้งแรก
มีแต่เฟรมที่เดินขึ้นทั้งนั้นเลย ชอบมาก

ส่วนตอนเดินลงนี่ดึงอารมณ์หนักมาก
เดินลงจากบันไดบ้าน ลงเนินไม่พอ
ลงชั้นใต้ดินก็แล้ว ยังลงไปต่ำกว่านั้นได้อีก T T

งงหลายจุด
1. หินโชคดี สื่อถึงอะไร ทำไมตามพระเอก
2. ทำไมครูสอนพิเศษทั้ง2ถึงหลงรักและพูดคำเดียวกันกับลูกสาวรวย
3.ฉากน้องสาวโดนแทง แล้วเค้กยัดหน้า มีนัยยะอะไรไหม
4.เรื่อง1ปีก่อน ที่แม่คนรวยตกใจ คือเรื่องอะไร?
5.สาวคนจน วิ่งไปสูบบุหรี่ในส้วม ตอนน้ำท่วมบ้าน สื่อถึงอะไร
6.ไดอานี่ลูกสาวคนรวย ใส่เข้ามาทำไม?
7.บริษัทฆาตกร กับ พ่อคนจน เกี่ยวข้องอะไรกันไหม
8.ฉากดันตู้ มีนัยยะอะไรไหม ผมรู้สึกมันไม่จำเป็นต้องทำท่านั่นดันตู้
9.เรื่องกลิ่นเหม็นคือเหม็นกลิ่นคนจน หรือมีนัยยะอื่นไหม
10.บทลูกชายคนรวย จะสื่อถึงอะไร

แค่นี้ก่อน 555

ตอบตามความเข้าใจนะครับ ไม่ได้บอกว่าผมเข้าใจถูก 5555

1. หินโชคดี สื่อถึงอะไร ทำไมตามพระเอก
- อันนี้ผมตีความว่า หินเนี่ยมันดีมากๆ เลยนะ เป็นหินโชคลาภ
คนรวยๆ ก็อยากมีไว้ในบ้าน ซึ่งเพื่อนพระเอกก็ดูพอมีฐานะ
ก็อยากเอามาให้เพื่อนรักอย่างพระเอก

แต่คนจนคือไม่ได้ต้องการอะไรพวกนี้ไง ต้องการอาหารมากกว่า
ประโยชน์ของมันก็เลยมีแค่นำมาทุบหัวเบะเท่านั้น

2. ทำไมครูสอนพิเศษทั้ง2ถึงหลงรักและพูดคำเดียวกันกับลูกสาวรวย
- เงี่ยนครับ อยู่สองต่อสองผู้หญิงให้ท่าก็พร้อมเอา

3.ฉากน้องสาวโดนแทง แล้วเค้กยัดหน้า มีนัยยะอะไรไหม
- น่าจะมีแต่คิดไม่ออกครับ

4.เรื่อง1ปีก่อน ที่แม่คนรวยตกใจ คือเรื่องอะไร?
- ตอน ป.1 ครับ ที่ทาชงเจอผีในบ้าน (ผัวแม้บ้าน)

5.สาวคนจน วิ่งไปสูบบุหรี่ในส้วม ตอนน้ำท่วมบ้าน สื่อถึงอะไร
- สื่อถึงวิธีการแก้ปัญหาของแต่ละคนครับ
พ่อ - พยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้
ลูกชาย - โทษตัวเอง นั่งจมอยู่กับปัญหา
ลูกสาว - ช่างแม่ง ไม่สนใจอะไร

6.ไดอานี่ลูกสาวคนรวย ใส่เข้ามาทำไม?
- สังคมเกาหลี สนใจลูกชายมากกว่าลูกสาวครับ
ไม่แปลกที่จะโหยหาความรักจากผู้ชายอื่น (ครูสอนพิเศษ)
และมีฉากที่ตามใจลูกชายเยอะมาก
ตอนกิน "จาปากุรี" นี่ก็ตามใจลูกชาย
พอไม่กินก็ถามพ่อ แล้วแม่ก็กินเองเลย ไม่ถามลูกสาวสักคำ

7.บริษัทฆาตกร กับ พ่อคนจน เกี่ยวข้องอะไรกันไหม
- บริษัทฆาตกร หมายถึงอันไหนครับ ?
ถ้าร้านเค้กของผัวแม่บ้านผมว่าไม่เกี่ยวกัน

8.ฉากดันตู้ มีนัยยะอะไรไหม ผมรู้สึกมันไม่จำเป็นต้องทำท่านั่นดันตู้
- ผมว่าไม่มีนะ แต่มันน่าจะเป็นท่าที่ออกแรงได้มากสุด
ใช้ทั้งเท้า ทั้งมือ คือทุ่มสุดตัว
ถ้าจะตีความก็ทำเต็มที่เพื่อคนที่รักกระมัง

9.เรื่องกลิ่นเหม็นคือเหม็นกลิ่นคนจน หรือมีนัยยะอื่นไหม
- อันนี้ผมตีความเป็น "ความคิด"
เวลาเราคุยกับใคร เราสัมผัสได้ถึงชนชั้นของเขาเลยนะ
คนจน คนรวย มี Mindset ที่แตกต่างกันแบบชัดเจนเลย

10.บทลูกชายคนรวย จะสื่อถึงอะไร
- คล้ายๆ ข้อลูกสาว ที่ใส่มาเพื่อจิกกัดแหละครับ
แถมยังมาเล่นประเด็นอื่นๆ ยิบย่อยในหนังได้อีก

ไม่แน่ใจนะท่าน แต่คิดว่าที่เด็กแกะรหัสมอร์สได้แล้วเฉยๆ อาจจะหมายถึงการที่คนรวยรู้ว่าคนจนมีปัญหา แต่เลือกที่จะเพิกเฉยไม่ทำอะไรหรือเปล่า คหสตเด้อ ส่วนข้อแรกนี่สงสัยอยู่เหมือนกัน

ส่วนตัวเห็นด้วยกับการตีความของท่านนะ ว่าคนรวย-คนจนเขามีลำดับความสำคัญของความต้องการไม่เท่ากันจริงๆ เหมือนทฤษฎี Hierarchy of Needs ของ Maslow ที่บอกว่าความต้องการชั้นต่ำของพีระมิด (อาหาร, ความมั่นคง) ต้องได้รับการเติมเต็มก่อนจึงจะเริ่มเห็นความสำคัญของขั้นอื่นตามมา (ความรัก, การได้รับการยอมรับ)

แล้วก็เหมือนดูจากที่หนึ่ง อันนี้ก็วิเคราะห์ได้น่าสนใจเหมือนกัน เขาบอกว่าหินก็เหมือนกับครอบครัวพระเอกที่ยกระดับให้ตัวเองดูโดดเด่นขึ้น แต่สุดท้ายฉากที่เอาหินไปวางในแม่น้ำ มันก็กลายเป็นแค่ก้อนหินธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรแล้ว

แต่ก็อดสังสัยไม่ได้ว่าทำไมหินนี้ถึงติดมือพระเอกอยู่เรื่อยเลย

เรื่องหินติดมืออันนี้ผมอ่านมา ไม่ได้คิดเอง 5555

เขามีคุยกันว่า พระเอกเป็นคนที่ต้องการพยายามจะเป็นแบบเพื่อนเขา
พยายามจะเข้าใจวิถีชีวิตคนรวย โดยที่ไม่ได้เข้าใจจริงๆ น่ะครับ
เหมือนพยายามชมภาพศิลปะว่าความหมายดีมาก ทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจ

และประเด็นนี้คนรวยก็เช่นกัน หลายๆ คนไม่ได้เข้าใจศิลปะจริงๆ หรอก
แค่มีไว้เพื่อเป็นตัวบ่งบอกฐานะเฉยๆ

ประเด็นนี้ผมไม่อินเท่าไหร่

วนตามเข็ม หรือ ทวนเข็มนะคับ

ผมอ่านซับไม่ถนัดเลย ฉากนี้