เกาหลีมันเหมือนเด็กงอแง ขี้อิจฉา เป็นง่อยแต่ดันอยากจะวิ่ง สมน้ำหน้ามัน

แค่วัตถุดิบ ถ้าเกาผลิตได้ล่ะก็ ญี่ปุ่นก็หงายเหมือนกัน ใช่ว่าวัตถุดิบจะมีแค่ในญี่ปุ่น 90%นั่นแค่ส่วนแบ่งการตลาดเฉยๆ

แบบนี้บ.ส่งออกวัตถุดิบของญี่ปุ่นก็เจ็บไม่น้อย ลามไปยอดส่งออกของประเทศแน่นอน ถ้ามีบ.จีนมาเสนอผลิตแทน ญี่ปุ่นลูกค้าหายเสียหายยาวๆ

ระยะยาวยังไงเกาหลีกลับมาผลิตได้แน่ ของเกามันขายทั่วโลก ญี่ปุ่นแบนเกาไปเกาก็เสียหายส่วนหนึ่ง

ญี่ปุ่นก็ขายของไปเกาไม่ได้ เสียลูกค้ารายใหญ่วัตถุดิบ(ซัมซุงยอดขายไม่ใช่น้อยๆ) และบริษัทอื่นก็น่าจะโดนด้วย เช่นโตโยต้า ฮอนด้า ฯลฯ งานนี้น่าจะเจ็บทั้งคู่

แต่ผมมองว่าระยะยาวญี่ปุ่นเจ็บกว่า ทั้งๆที่เชียญี่ปุ่นก็เถอะ

เพิ่ม ส่วนแบ่งตลาด90%แปลว่าอีก10%ของประเทศอื่น สามารถผลิตได้เช่นกัน คงไม่เหมือนสิทธิบัตรแบบARM หรือ android

ใช่ครับ ผมไม่ค่อยติดตามวงการบันเทิงของทั้งสองเจ้าเท่าไหร่ เลยคิดว่าเกาลีใหญ่กว่า เพราะเห็นบ้านเรา เกาหลีวงต่างๆดังมากไรงี้ พวกรายการบันเทิงของเกาหลีก็ดูคุ้นหูกว่า เพราะแฟนผมชอบดู แต่พอหาอ่านจริงๆ แม่มทิ้งเป็นทุ่งจริงๆครับ


(ข้อมูลปี 2561 จาก IFPI หรือ สมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ)

แค่รายได้จากวงการเพลงก็ใหญ่กว่าเกือบ9เท่า พระเจ้า

ซีรี่ย์นี้น่าติดตามมากๆครับท่าน ผมไม่เชียร์ไม่แช่งฝั่งไหนเป็นพิเศษ อยากให้จบลงด้วยดีทั้งคู่ ต้องติดตามกันต่อครับ

ผลิตได้แน่ครับ แต่คุณภาพก็อีกเรื่องหนึ่ง ชาติอื่นๆก็ผลิตของพวกนี้ได้ แต่คุณภาพมันคนละเรื่องเลย
แล้วเกาจะต้องใช้เวลาเท่าไร่ในการพัฒนาขึ้นมา 5-10 วันมันทำไม่ได้นา

ก้อปเอาครับจะไปยากอะไร ฮอนด้า>>ฮุนได โซนี่>>ซัมซุง
ยิ่งจีนฝ่ายวิจัยงบหมื่นล้าน ถ้ามีลูกค้ารอแบบนี้ทำแปปเดียวแน่นอน ไม่น่าเกิน1-3ปี

ผมถึงบอกไง ระยะยาว

เรื่องคุณภาพบอกเลย จีน เกา ผลิตมาตรฐานหลังๆดีมาก เช่น เสียวมี่ หัวเหว่ย ฯลฯ

อยากรู้จะจบยังไง

เชีย ญป เกาหลีนิสัยกาก

ผลิตอ่ะได้ แต่สิทธิบัตรมันอยู่ที่ บริษัทยุ่น และคิดว่า้ขาจะตั้งขายมันราคาเท่าไหร่? ราคาอ่ะผมว่าจะตั้งแบบที่ไม่ใช่ราคากลางแต่เป็นราคาเกายังได้เลย

แต่ปัญหาที่ทำให้หมัดนี้ของยุ่นยังเจ็บตัวนิดๆคือนอกจากรายได้ส่งออกแล้วก็ยังมีของบางอย่างที่ยุ่นก็ต้องสั่งจากเกาหลีด้วย เหมือน ส่งสารเคมีให้เกาผลิต แล้วยุ่นเอามาประกอบขาย ดังนั้นผลกระทบอ่ะมี แต่เกาจะเจ็บมากกว่าเยอะมาก

งานนี้ เกาอ่ะผิดเต็มๆ ผิดแบบควรประนามมากๆ

ปล.ถ้าเกาหลียังไม่หยุด เดี๋ยวมีอีกหลายดาบ ผมว่าที่ขู่ๆไปญี่ปุ่นกล้าทำแน่ๆ และมีเหตุผลมากมายที่จะทำได้ด้วย

ก็ลองดูสิ

เคยดูรายการนึงในยูทูปสัมภาษณ์คนเกาหลีว่านิสัยเป็นไง บอกว่าคนเกาหลีเป็นคนที่มุ่งมั่นที่จะเอาชนะคนอื่นให้ได้โดยสามารถทำได้ทุกวิถีทาง ไม่ใช่แค่หมายถึงเอาชนะประเทศอื่นนะ รวมถึงการแข่งขันกันเองนี่แหละ

มีคนใน ss เอามาลงให้ดูนี่แหละ แต่จำไม่ได้ว่าช่องอะไร

โห เรื่องวงการบันเทิงนี่มวยคนละรุ่นเลย

เคยเห็นแต่เกาหลีพยายามตีตลาดญี่ปุ่นแทบตาย ไปเล่นคอนเสิร์ตยังต้องมีแปลงเพลงเป็นเนื้อญี่ปุ่นเลยด้วยซ้ำบางที

กลับกัน ญี่ปุ่นไม่ได้ง้อตลาดต่างชาติเลย พวกอุตสาหกรรมบันเทิง แค่บ้านตัวเองก็อยู่ได้สบายแล้ว

ประเด็นสำคัญที่กลัวกันคือเรื่องคุณภาพ ต้นทุน เเละที่สำคัญที่สุดคือเวลาครับ เพราะซัมซุงคงรอเวลาเป็นปีไม่ได้เเน่ๆ เเละหัวเหว่ยรอเสียบทุกเมื่อถ้าซัมซุงพลาดเพราะตลาดเดียวกัน

อย่างที่ท่านว่าว่าของจีนเดี๋ยวนี้คุณภาพดีไม่เหมือนเมื่อก่อนเเล้ว เเต่ถ้าซัมซุงพลาดเมื่อไหร่หัวเหว่ยเสียบยาวๆเเน่

ที่ผมไปนั่งอ่านเค้าเถียงกันคือเค้ามองข้ามเรื่องวัตถุดิบตั้งต้น เเล้วไปมองถึงฟินิชโปรดักซ์สุดท้ายที่ซัมซุงจะเสียตลาดไปจากมาตรการเเบนของญี่ปุ่น ถ้าซัมซุงมีปัญหาเมื่อไหร่เกาหลีก็เสียหายหนักเเน่ๆ

ไม่ได้รู้เรื่องอะไรมาก่อน และก็ไม่ได้เชียร์ฝั่งไหน แต่จากสรุปนี้คือไม่ได้เอียงไปทางญี่ปุ่นใช่ไหมครับ? คืออ่านแล้วความรู้สึกคือ ฝั่งญี่ปุ่นนี้โครตพระเอก ส่วนฝั่งเกาหลีนี้โครตตัวร้าย(แถมเป็นตัวร้ายที่ดูโง่ๆซะด้วย)

คือตามหลักความจริงดูฝั่งเกาหลีไม่น่าทำอะไรโง่ๆแบบนี้อ่ะ แบบอยู่ดีๆไปแบนบริษัทญี่ปุ่นเพื่อเอาเงินแค่ 10 ล้านไปให้เหยื่อสงคราม โดยยอมเสียหายถึงขั้นตัดความสัมพันธ์กับญี่ปุ่น เหมือนท่านว่าเผาบ้านฆ่าแมลงสาป ซึ่งๆจริงๆระดับเกาหลีก็ไม่น่าจะโง่ถึงขั้นนั้นน่ะ มันมีอะไรอย่างอื่นหรือเปล่า แบบบริษัทญี่ปุ่นที่โดนศาลเกาหลีเล่นงานเนี่ย มันไปทำอะไรผิดไว้หรือเปล่า

ปล. ย้ำอีกรอบว่าไม่รู้เรื่องอะไรมาก่อนเลย อ่านจากกะทู้นี้ล้วนๆ

ทีมญุี่ปุ่นวะ แค่เอาในสัญญา ก็จบแล้วละ

โดนแบนคืนบ้าง ไงละ