รบกวนพิจารณาด้วยครับ
เมินผี-ไก่! P$Gวางตัว ดีบาล่า แทนเนย์มาร์
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สโมสรอภิมหาเศรษฐีของลีกเอิง ฝรั่งเศส มีเป้าหมายคว้าตัวเปาโล ดีบาล่า กองหน้าของยูเวนตุสในฐานะตัวแทนของเนย์มาร์ดาวดังของทีม ตามการรายงานของ "Gazzetta dello Sport"
เปแอสเชอาจจำเป็นต้องเริ่มมองหาดาวยิงตัวใหม่มาทดแทนเนย์มาร์ที่ตกเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องว่าอยากย้ายออกจากรั้วปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เพราะไม่มีความสุขกับยอดทีมแห่งกรุงปารีส
และล่าสุดเลโอนาร์โด้ผู้อำนวยการคนใหม่ของปารีสเจ้าของแชมป์ลีกเอิงฤดูกาล 2018-19 เพิ่งยืนยันว่าการเจรจาย้ายทีมของซูเปอร์สตาร์ทีมชาติบราซิลวัย 27 ปีมีความคืบหน้า
ทำให้ตอนนี้เปแอสเชได้ติดต่อทาบทามดีบาล่ ที่เพิ่งปฎิเสธย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ผ่านทางเอเยนต์ของเขาแล้ว
สำหรับหัวหอกทีมชาติอาร์เจนติน่าวัย 25 ปียังถูกจับจ้องอนาคตกับทัพ "ม้าลาย" แชมป์สคูเด็ตโต้ 8 สมัยซ้อน หลังก่อนหน้านี้ยูเว่เคยพยายามขายสตาร์ชาวอาร์เจนไน์ออกจากถิ่นอัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม ให้กับ "ยูไนเต็ด" และสเปอร์ส
+++++
กลับบุนเดส! เสือใต้เตรียมยืม เปริซิช จากงูพ่วงออปชั่นซื้อขาด
บาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่ในบุนเดสลีกา เยอรมัน จัดการบรรลุข้อตกลงยืมตัวอิวาน เปริซิช ปีกของอินเตอร์ มิลาน เข้ามาร่วมทีมได้แล้ว ตามการรายงานของนักข่าวคนดัง "Fabrizio Romano"
เปริซิชตกเป็นเป้าหมายของ"เสือใต้" ดับเบิ้ลแชมป์บุนเดสลีกา และเดเอฟเบ โพคาล ฤดูกาล 2018-19 หลังลีรอย ซาเน่ ปีกทีมชาติเยอรมันวัย 23 ปีของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ท็อปลิสต์เป้าหมายแรกของพวกเขาประสบปัญหาอาการบาดเจ็บเอ็นเข่า และต้องพักยาว
ก่อนบาเยิร์นเปิดฉากเจรจายืมตัวรุกทีมชาติโครเอเชียวัย 30 ปีที่ถูกคาดหมายอยู่แล้วว่ามีโอกาสย้ายออกจากถิ่นสตาดิโอ จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า ในซัมเมอร์ปี 2019 นี้กับ อินเตอร์
และตอนนี้ยอดทีมแห่งแคว้นบาวาเรียกำลังเตรียมการรับอดีตดาวเตะ ดอร์ทมุนด์ และ โวล์ฟสบวร์ก กลับบุนเดสลีกลีกามาร่วมถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า แล้วด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี โดยมีค่ายืม 5 ล้านยูโร พร้อมออปชั่นซื้อขาดสนนราคา 20 ล้านยูโร
+++++
ลูกากู หวานมุ่งหน้าโกอินเตอร์พร้อมกร้าวพางูกลับมาผงาด
โรเมลู ลูกากู กองหน้าตัวใหม่ของอินเตอร์ มิลาน สโมสรยักษ์ใหญ่ในเซเรีย อา อิตาลี เปิดเผยว่าเขาปราถนาย้ายมาร่วมทัพ "งูใหญ่" เท่านั้น พร้อมตั้งเป้าหมายช่วยทีมกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง
อินเตอร์ประกาศคว้าตัวลูกากูจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวรวม 80 ล้านยูโร (ประมาณ 74 ล้านปอนด์) ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อ-ขายนักเตะซัมเมอร์ปี 2019 ในประเทศอังกฤษ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยหัวหอกทีมชาติเบลเยียมวัย 26 ปีเคยเกือบย้ายไป ยูเวนตุส คู่ปรับของ "เนรัซซูรี่" ก่อนจรดปากกาเซ็นสัญญาระยะยาว 5 ปีจนกระทั่ง 2024 ปีสำหรับการล่าตาข่ายในถิ่นสตาดิโอ จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า พร้อมรับค่าเหนื่อย 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
"อินเตอร์ เป็นเพียงสโมสรเดียวเท่านั้นที่ผมต้องการ ผมย้ายมาที่นี่เพื่อนำ "เนรัซซูร์รี่" กลับมาอยู่ในระดับท็อปอีกครั้ง" ลูกากู กล่าว
################################################################
แรชฟอร์ดเบิ้ล! ผีเฉียบคมเปิดซีซั่นสวยหรูรัวสิงห์ 4-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกตัวฤดูกาลใหม่ด้วยผลงานน่าประทับใจ หลังเปิดโรงละครแห่งความฝันไล่ถลุง เชลซี ขาดลอยจาก 2 ประตูของ มาร์คัส แรชฟอร์ด พร้อมประเดิม 3 ตัวใหม่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์, อารอน วาน-บิสซาก้า และ แดเนียล เจมส์ ที่เปลี่ยนตัวลงมายิงปิดกล่อง
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2562
กรรมการ แอนโธนี่ เทย์เลอร์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 - 0 เชลซี
1-0 มาร์คัส แรชฟอร์ด 18' (Pen.)
2-0 อองโตนี่ มาร์กซิยาล 65'
3-0 มาร์คัส แรชฟอร์ด 67'
4-0 แดเนียล เจมส์ 81'
แมนฯ ยูไนเต็ด เจ้าถิ่นผู้จัดการทีม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ส่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ปราการหลังตัวใหม่ที่ย้ายทีมมาด้วยค่าตัวสถิติโลกกองหลังประเดิมสนามกับพลพรรค "ปีศาจแดง" จับคู่กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ส่วนแนวรุกนำมาโดย มาร์คัส แรชฟอร์ด, อองโตนี่ มาร์กซิยาล, เจสซี่ ลินการ์ด และ ปอล ป็อกบา
ส่วนทีมเยือน เชลซี จะเป็นการคุมทีมนัดแรกในพรีเมียร์ลีกของเฮดโค้ชคนใหม่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด วาง เปโดร โรดริเกซ, รอส บาร์คลี่ย์, มัตเตโอ โควาซิช และ เมสัน เมาน์ท เดินเกมรุกสนับสนุน แทมมี่ อบราฮัม ที่รับบทกองหน้าตัวเป้า ส่วน เอ็นโกโล่ ก็องเต้, โอลิวิเยร์ ชิรูด์ และปีกตัวใหม่ คริสเตียน พูลิซิช เป็นตัวสำรอง
บิ๊กแมตช์ต้อนรับฤดูกาล 2019-20 ทั้ง "ยูไนเต็ด" และ "สิงโตน้ำเงินคราม" พยายามออกสตาร์ทเกมด้วยการจับจังหวะของตัวเองได้ ก่อนเป็นทีมเยือนมีโอกาสลุ้นทำประตูก่อน
4'
สิงห์บลูส์ทักทายเต็มเสา
บาร์คลี่ย์ ปั๊มบอลให้ อบราอัม หมุนตัวหวดด้วยขวาเต็มแรงจากบนเส้นกรอบเขตโทษทางขวาส่งบอลพุ่งผ่านมือ เด เคอา ไปแล้ว แต่บอลชนเสา 2
7'
ผีน่าขึ้นนำเร็วจากความผิดพลาดของ ซูม่า
ซูม่า ส่งบอลพลาดหน้ากรอบเขตโทษของตัวเองหลังถูกบีบเพรสซิ่ง และบอลเข้าทาง มาร์กซิยาล วิ่งมาแปด้วยขวา แต่บอลไม่แรงพอ ทำให้ เกปา ล้มรับสบาย
12'
สิงห์ได้ลองอีกครั้ง
เมาน์ท มิดฟิลด์ดาวโรจน์ของ เชลซี ที่ได้โอกาสออกสตาร์ทในนัดนี้รับบอลกจาก โควาซิล และสับไกลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลไปตรงตัว เด เคอา รับเอาไว้ได้
18'
ผีบุกน้อยกว่าแต่นำก่อนจากจุดโทษ
แรชฟอร์ด พาบอลเข้ากรอบ ก่อนโดน ซูม่า เกี่ยวล้มลงในกรอบเขตโทษ ทำให้ผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ไม่ลังเลเป่าเป็นลูกโทษ และ แรชฟอร์ด ลุกขึ้นมาสังหารเองอย่างเฉียบขาด ให้ "ปีศาจแดง" ออกนำก่อน 1-0
30'
ผีมีลุ้นลูก 2 ต่อเนื่อง
มาร์กซี่ ที่เริ่มปั่นป่วนแผงแบ็กโฟร์ของ เชลซี ได้ดีรับบอลจาก ลินการ์ด และได้ปั่นด้วยขวาจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลไม่เข้ากรอบ
35'
สิงห์ได้ส่องไกลอีกรอบ
ครั้งนี้เป็น บาร์คลี่ย์ ที่ได้บอลหน้านอกกรอบเขตโทษ และหาจังหวะตะบันไกลด้วยขวา แต่บอลหลุดข้างเสาออกไป
36'
สิงห์พยายามรุกลุ้นตีเสมอต่อเนื่อง
เปโดร เลี้ยงบอลจากหน้ากรอบเขตโทษทางขวาตัดเข้าใน และบรรจงปั่นด้วยเท้าซ้าย แต่บอลไปตรงตัว เด เคอา รับเข้าซองได้
39
บาร์คลี่ย์ได้ซัดเต็มแต่ไปติดเซฟของเด เคอา
สิงห์บลูส์ดาหน้าบุกเป็นชุด เปโดร แทงบอลเข้ากรอบเขตโทษทางซ้ายให้ บาร์คลี่ย์ ลุยเข้ามาอัดด้วยซัาย แต่ เด เคอา ใช้เท้าป้องกันออกไป และบอลกระดอนมาเข้าทาง จอร์จินโญ่ สอดขึ้นมาซ้ำดาบสองด้วยขวา แต่บอลไปชนบล็อคของ แม็คไกวร์
40
สิงห์เกือบตามตีเสมอสำเร็จ
ช่วงท้ายครึ่งแรกเป็นของ เชลซี ที่เปิดเกมรุกได้ลุ้นหลายครั้ง จอร์จินโญ่ ยกบอลข้าม ลินเดอเลิฟ กับ บิสซาก้า มาถึง เอเมอร์สัน เติมสูงขึ้นมา และได้ก้มหน้ากดด้วยซ้ายเต็มๆ แต่บอลไปชนสามเหลี่ยมเข้าอย่างจัง ทำให้จบครึ่งแรกเจ้าบ้าน "เร้ด เดวิลส์" ยังรักษาสกอร์นำ 1-0 ไว้ได้
HALF TIME
51'
สิงห์บลูส์บู๊ต่อทันทีในครึ่งหลัง
เปิดครึ่งหลังมาเป็นทีมเยือน เชลซี พยายามบุกกดดัน "ยูไนเต็ด" ต่อเนื่อง ก่อนเป็น เปโดร ได้ลองปั่นด้วยซ้ายจากหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลไม่เข้ากรอบ
56'
เอเมอร์สันได้กดเต็มอีกๆ
10 นาทีแรกของครึ่งหลังยัง "สิงโตน้ำเงินคราม" มีโอกาสเข้าทำมากกว่า และ เอเมอร์สัน ได้ใส่เต็มข้อด้วยซ้ายจากมุมกรอบเขตโทษทางซ้าย แต่ เด เคอา ยืนตำแหน่งได้ดี และทุบออกไปได้
58'
ส่งพูลิซิชประเดิมพรีเมียร์ลีก
แลมพาร์ด ปรับแนวรุกหลังเกมผ่านมาเกือบ 1 ชั่วโมงกับการส่ง พูลิซิช ปีกตัวใหม่ทีมชาติสหรัฐอเมริกาลงสนามนัดแรกในพรีเมียร์ลีกกับ เชลซี แทน บาร์คลี่ย์
65'
ผีเด็ดขาดกว่าขยับนำ 2-0
แต่กลับเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่บุกน้อยกว่าได้ประตูที่ 2 จากการประสานงานกันของ ป็อกบา กับ ลินการ์ด และมาถึง เปเรร่า ได้เปิดบอลจากทางฝั่งขวากรอบ 6 หลาให้ มาร์กซิยาล เข้าชาร์จจ่อบอลลอดขา เกปา ตุงตาข่ายให้ "ปีศาจแดง" นำเพิ่มเป็น 2-0
66'
สิงห์เปลี่ยนตัวที่สองทันทีหลังโดนลูก 2
แลมพาร์ด ไม่รอช้าหลังตามหลัง 0-2 ด้วยการเปลี่ยน ชิรูด์ ลงสนามมาเพิ่มความหนักหน่วงในแนวรุกแทนที่ อบราอัม
67'
ผีเฉียบคมรัว 2 ลูกติดหนีเป็น 3-0
เชลซี ยังไม่ทันตั้งตัวหลังเสียประตูที่ 2 "ยูไนเต็ด" มาบวกสกอร์ 3-0 ในนาทีต่อมาจากจังหวะโต้กลับ ป็อกบา วางบอลจากแดนตัวเองให้ แรชฟอร์ด หลุดเข้าไปซัดผ่านมือ เกปา และเป็นลูกที่ 2 ของเขาในนัดนี้ด้วย
73
ส่งก็องเต้มาเรียกความฟิต
หลังตามห่างเป็น 0-3 แลมพาร์ด ปรับหมากในแดนกลางบ้างด้วยการให้ ก็องเต้ ยังไม่ฟิตเต็มร้อยลงสนามมาแทนที่ตำแหน่งของ จอร์จินโญ่
73
ผีเปลี่ยนเจมส์ประเดิมสนาม
โซลชา ให้โอกาส เจมส์ ปีกดาวโรจน์ตัวใหม่ทีมชาติเวลส์ลงเล่นนัดแรกในพรีเมียร์ลีกกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการเปลี่ยนตัวไปแทน เปเรร่า
81'
ผีผลิตสกอร์ไหลเป็น 4-0
แมนฯ ยูไนเต็ด กระหน่ำเป็น 4-0 จากการสวนกลับอีกครั้ง หลัง ป็อกบา สอดประสานกับ มาร์กซิยาล พาบอลขึ้นมาเองจากกลางสนามจนถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนปล่อยบอลให้ เจมส์ แตะหาจังหวะกดด้วยขวาบอลแฉลบ เอเมอร์สัน เปลี่ยนทางเข้าเสาสองไป
ก่อนจบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บชัยเหนือ เชลซี ด้วยสกอร์ขาดลอย 4-0 เปิดฉากฤดูกาลใหม่ด้วย 3 คะแนนเต็มตามบิ๊กซิ๊ก แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, ท็อตแน่ม ฮ็อทเปอร์ และ อาร์เซน่อล
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด Starting Formation : 4-2-3-1 1.ดาบิด เด เคอา 29.อารอน วาน-บิสซาก้า 2.วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ 5.แฮร์รี่ แม็กไกวร์ 23.ลุค ชอว์ 39.สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ 6.ปอล ป็อกบา 15.อันเดรียส เปเรเร่า 14.เจสซี่ ลินการ์ด 10.มาร์คัส แรชฟอร์ด 9.อองโตนี่ มาร์กซิยาล
ตัวสำรอง 22.เซร์คิโอ โรเมโร่ 18.แอชลี่ย์ ยัง 38.อักเซล ทวนเซเบ้ 31.เนมานย่า มาติช 8.ฆวน มาต้า 21.แดเนียล เจมส์ 26.เมสัน กรีนวู้ด
ผู้จัดการทีม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
เชลซี Starting Formation : 4-2-3-1 1.เกปา อาร์รีซาบาลาก้า 28.เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า 4.อันเดรส คริสเตนเซ่น 15.คูร์ท ซูม่า 33.เอเมอร์สัน 5.จอร์จินโญ่ 17.มัตเตโอ โควาซิช 11.เปโดร โรดริเกซ 19.เมสัน เมาน์ท 8.รอส บาร์คลี่ย์ 9.แทมมี่ อบราฮัม
ตัวสำรอง 13.วิลลี่ กาบาเยโร่ 3.มาร์กอส อลอนโซ่ 29.ฟีคาโย่ โทโมรี่ 7.เอ็นโกโล่ ก็องเต้ 16.เคเนดี้ 22.คริสเตียน พูลิซิช 18.โอลิวิเยร์ ชิรูด์
ผู้จัดการทีม แฟร้งค์ แลมพาร์ด