ที่ตกลงกันอยู่ไม่น่าใช่เรื่องเงิน น่าจะเป็นอำนาจในตัดสินใจมากก่วา

ริโอ หัวหน้าฝ่ายบริหาร

เบอร์บาตอฟ เอฟร่า ผู้อำนวยการเทคนิค
 

ถ้า ริโอ ไม่เหมาะสมก็ไม่รู้จะหาใครแล้ว

แกเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลไม่กี่คนที่มีหัวเชิงธุรกิจทำอะไรก็รุ่งตั้งแต่ยังวัยรุ่นสมัยค้าแข้งอยู่ ช่อง FIVE ก็เป็นของแก คอนเนคชั่นแกก็เยอะ ติดต่อกับนักฟุตบอลมากหน้าหลายตาจะระดับโลกแค่ไหนแกก็ติดต่อมาถ่ายรายการแกหมดละ

สมัยเป็นนักฟุตบอลดีกรีธรรมดาที่ไหนก็กองหลังระดับโลก แทบจะเรียกได้ว่าเคยติดหนึ่งในทำเนียบกองหลังที่ดีที่สุดในโลกในยุคแกด้วย เรียกได้ว่าแทบไม่มีใครไม่รู้จัก ริโอ เฟอร์ดินานด์ แชมป์ แชมเปี้ยนลีก ก็เคยได้ บอกเล่าประสบการความหอมหวานในการคว้าแชมป์(ที่สำคัญเป็นกัปตันรับถ้วยมาชูเองกับมือ) บอกความรู้สึกเหล่านี้กับนักเตะที่จะเซ็นได้ว่ามันรู้สึกยังไง อยากมาร่วมสร้างความรู้สึกนั้นขึ้นมาใหม่กับโปรเจคของเราที่ ยูไนเต็ด มั้ย ส่วนเรื่องประวัติศาสตร์วัฒนธรรมสโมสรแกเข้าถึงแก่นความเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด บอกเล่าถึงจิตวิญญาณได้ดีไม่แพ้ใคร เคยเห็นคลิปนึงแกเคยเข้าไปพูดปลุกใจเด็กเยาวชนในห้องแต่งตัวอยู่ ฟังแล้วอบอุ่น บอกว่า ยูไนเต็ด มีความหมายยังไง

ส่วนเรื่องหัวจิตหัวใจไม่ต้องสืบเรื่องความแข็งแกร่ง ไม่รวมที่แกทำอะไรก็รุ่งนะในด้านธุรกิจ แต่เป็นการที่แกเสียคนรัก เสียคนในครอบครัวไปตั้งกี่ครั้ง แล้วตอนนี้ยังเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว ผมเชื่อว่าแกรับมือกับปัญหาที่ถาโถมเข้ามาในหลากหลายรูปแบบได้ดียิ่งกว่าใคร ๆ แล้วแต่ก่อน ก่อนแกมาเป็นนักฟุตบอลเส้นทางก็ไม่ได้ง่าย ๆ สู้มาเยอะ แล้วก็ไม่ใช่พวกหัว Conservative หัวโบราณ เรื่องความหัวคิดสมัยใหม่ไม่ต้องพูดถึง แกเป็นนักฟุตบอลจำพวกบุคคลที่บุกเบิกการใช้โซเชี่ยลในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ ที่สำคัญเอาโซเชียลมาใช้ได้เกิดประโยชน์จนต่อยอดมาเป็นธุรกิจได้จนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่เปิดโซเชียลแอคเคาท์มาเต้นแร้งเต้นกา หรือแค่โปรโมทสินค้าจากสปอนเซอร์แบบไร้ความครีเอทีฟ เหมือนนักฟุตบอลบางคนในสมัยนี้

ลองไปดูคลิปเก่า ๆ สมันแกถักผมทรงเดรดล็อค ตอนที่ถ่ายกับพวก เบ็คแฮม, แกรี่ เนวิลล์, สโคลล์ ฯลฯ แกจะฉายแววความมีหัวคิดด้านธุรกิจ ไอเดียสร้างสรรค์ ๆ ต่างๆ ผ่านคำพูดของแกสื่อออกมาให้เห็นระหว่างที่คุยเล่นกับเพื่อนอยู่เป็นระยะ ๆ เรียกได้ว่าแกทำตัวดูเป็นผู้ใหญ่ที่เพื่อนรักได้ในเวลาเดียวกัน

ซึ่งด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ผมว่า ริโอ เหมาะสมและควรค่ากับหน้าที่นี้ที่สุดแล้วครับ  

ถ้า ริโอ ไม่เหมาะสมก็ไม่รู้จะหาใครแล้ว

แกเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลไม่กี่คนที่มีหัวเชิงธุรกิจทำอะไรก็รุ่งตั้งแต่ยังวัยรุ่นสมัยค้าแข้งอยู่ ช่อง FIVE ก็เป็นของแก คอนเนคชั่นแกก็เยอะ ติดต่อกับนักฟุตบอลมากหน้าหลายตาจะระดับโลกแค่ไหนแกก็ติดต่อมาถ่ายรายการแกหมดละ

สมัยเป็นนักฟุตบอลดีกรีธรรมดาที่ไหนก็กองหลังระดับโลก แทบจะเรียกได้ว่าเคยติดหนึ่งในทำเนียบกองหลังที่ดีที่สุดในโลกในยุคแกด้วย เรียกได้ว่าแทบไม่มีใครไม่รู้จัก ริโอ เฟอร์ดินานด์ แชมป์ แชมเปี้ยนลีก ก็เคยได้ บอกเล่าประสบการความหอมหวานในการคว้าแชมป์(ที่สำคัญเป็นกัปตันรับถ้วยมาชูเองกับมือ) บอกความรู้สึกเหล่านี้กับนักเตะที่จะเซ็นได้ว่ามันรู้สึกยังไง อยากมาร่วมสร้างความรู้สึกนั้นขึ้นมาใหม่กับโปรเจคของเราที่ ยูไนเต็ด มั้ย ส่วนเรื่องประวัติศาสตร์วัฒนธรรมสโมสรแกเข้าถึงแก่นความเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด บอกเล่าถึงจิตวิญญาณได้ดีไม่แพ้ใคร เคยเห็นคลิปนึงแกเคยเข้าไปพูดปลุกใจเด็กเยาวชนในห้องแต่งตัวอยู่ ฟังแล้วอบอุ่น บอกว่า ยูไนเต็ด มีความหมายยังไง

ส่วนเรื่องหัวจิตหัวใจไม่ต้องสืบเรื่องความแข็งแกร่ง ไม่รวมที่แกทำอะไรก็รุ่งนะในด้านธุรกิจ แต่เป็นการที่แกเสียคนรัก เสียคนในครอบครัวไปตั้งกี่ครั้ง แล้วตอนนี้ยังเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว ผมเชื่อว่าแกรับมือกับปัญหาที่ถาโถมเข้ามาในหลากหลายรูปแบบได้ดียิ่งกว่าใคร ๆ แล้วแต่ก่อน ก่อนแกมาเป็นนักฟุตบอลเส้นทางก็ไม่ได้ง่าย ๆ สู้มาเยอะ แล้วก็ไม่ใช่พวกหัว Conservative หัวโบราณ เรื่องความหัวคิดสมัยใหม่ไม่ต้องพูดถึง แกเป็นนักฟุตบอลจำพวกบุคคลที่บุกเบิกการใช้โซเชี่ยลในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ ที่สำคัญเอาโซเชียลมาใช้ได้เกิดประโยชน์จนต่อยอดมาเป็นธุรกิจได้จนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่เปิดโซเชียลแอคเคาท์มาเต้นแร้งเต้นกา หรือแค่โปรโมทสินค้าจากสปอนเซอร์แบบไร้ความครีเอทีฟ เหมือนนักฟุตบอลบางคนในสมัยนี้

ลองไปดูคลิปเก่า ๆ สมันแกถักผมทรงเดรดล็อค ตอนที่ถ่ายกับพวก เบ็คแฮม, แกรี่ เนวิลล์, สโคลล์ ฯลฯ แกจะฉายแววความมีหัวคิดด้านธุรกิจ ไอเดียสร้างสรรค์ ๆ ต่างๆ ผ่านคำพูดของแกสื่อออกมาให้เห็นระหว่างที่คุยเล่นกับเพื่อนอยู่เป็นระยะ ๆ เรียกได้ว่าแกทำตัวดูเป็นผู้ใหญ่ที่เพื่อนรักได้ในเวลาเดียวกัน

ซึ่งด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ผมว่า ริโอ เหมาะสมและควรค่ากับหน้าที่นี้ที่สุดแล้วครับ  

ทำไมรู้สึกว่าพี่เอ๊ดแม่งจะจับริโอเป็นแพะตลาดรอบนี้เลย