ควันหลงหลังศึกลูกหนังชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 ยังมีประเด็นให้แฟนบอลไทยตามขยี้มากมาย หลัง "ช้างศึก" ทำผลงานได้สุดบู่พ่ายแพ้ 2 เกมรวด ต่อ เวียดนาม และ อินเดีย ชนิดยิงประตูไม่ได้แม้แต่ตุงเดียว

วันนี้ SSBallthai จะขอผ่าประเด็นหาสาเหตุที่ทำให้ "ช้างศึก" ล้มเหลวไม่เป็นท่าในศึก คิงส์ คัพ ที่ผ่านมา

#เวลาเก็บตัวอันน้อยนิด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเก็บตัวฝึกซ้อมอันน้อยนิดเพียง 5 วัน ก่อนการแข่งขันมันไม่เพียงพอแน่นอน ซึ่งกว่าที่นักเตะจะรวมตัวกันครบก็แทบจะลงแข่งขันกันแล้ว ทำให้เวลาการฝึกซ้อมและเข้าใจแท็คติคมีน้อยเกินไป ผลงานจึงเป็นอย่างที่เห็น

#ขาดคีย์แมนหลัก

ก่อนการแข่งขันนักเตะตัวเก่งอย่าง เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ดันเจ็บ ส่วน ธีรศิลป์ แดงดา ก็ไม่สมบูรณ์ ส่วนนักเตะฟอร์มแรงทั้ง บดินทร์ ผาลา ก็มาเจ็บเพิ่มอีก ส่วนนักเตะฟอร์มดีที่ อย่าง นิติพงษ์ เสลานนท์ และ ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่ไม่ถูกเรียกตัวไปติดนั้น อันนี้ต้องลองไปถามเจ้าตัวเองว่าทำไมเก็บกระเป๋าเตรียมเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมกับทีมชาติแล้ว ไฉนกลับเปลี่ยนใจ กลายเป็น พิชา อุทรา และสุรชาติ สารีพิมพ์ ต้องถูกเรียกตัวไปทดแทน รวมไปถึง สรรวัชญ์ เดชมิตร กองกลางที่ถอนตัวออกไปอีกคน ส่งผลให้ประสิทธิ์ภาพในเกมรุกถดถอยลงไป


#นักเตะอีโก้สูง

ถือเป็นเรื่องที่เป็นมาทุกยุคทุกสมัยจริงๆ สำหรับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเอาโค้ชต่างชาติ หรือโค้ชไทย ล่าสุดก็ไม่ปาน มีเสียงกระซิบจากเหล่านักเตะและสต๊าฟฟ์โค้ชในทีมว่าหนึ่งในนักเตะซีเนียร์ของทีมออกอาการไม่เอาโค้ช และ อยากเล่นตำแหน่งที่ตัวเองอยากเล่น ทั้งที่แท้จริงแล้วตำแหน่งนี้ก็ไม่ใช่ตำแหน่งที่ตัวเองถนัด ฟังแล้วหากเป็นจริงก็ปวดหัวแทนกุนซือใหญ่ที่ต้องเจอนักเตะที่คิดว่าตัวเองเก่งจนไม่ต้องฟังคำสั่งจากโค้ช

#โค้ชบารมีไม่ถึง

ถัดจากข้อบนก็ต้องมาลงที่ตัวเฮดโค้ชบ้าง แม้ "โค้ชโต่ย" และ "โค้ชโชค" จะจับคู่ทำผลงานอร่อยเหาะในฟุตบอลเอเชียน คัพ และพาทีม "ช้างศึก" บุกกระทืบ จีน ถึงบ้าน แต่เวลาผ่านไปไม่นานกลับโดน เวียดนาม และ อินเดีย บุกตบถึงบ้าน รวมไปถึงการแก้เกมพลาด ทั้งการไม่ยอมส่งนักเตะประสบการณ์สูง อาทิ สุรชาติ สารีพิมพ์ หรือ อดิศักดิ์ ไกรษร ที่มีความรอบจัดมากกว่า ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา หรือ ศุภชัย ใจเด็ด ลงสนาม ตรงนี้โค้ชก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบ

#ขาดจุดรวมใจ

"ช้างศึกคิงส์คัพ" ชุดนี้ไม่มีนักเตะที่ทรงอิทธิพล คอยเป็นพี่ใหญ่กระตุ้นทีมทั้งในห้องแต่งตัวและในสนามเลย ในอดีตเรามีนักเตะเหล่านี้เยอะแยะไปหมด ทั้ง สินทวีชัย หทัยรัตนกุล หรือ ดัสกร ทองเหลา ซึ่งการมีนักเตะระดับซีเนียร์สูงมันเหมือนสะพานที่เชื่อมต่อนักเตะกับโค้ชให้ทำงานกันง่ายขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยให้ทีมประสบความสำเร็จ

เมื่อเห็นถึงปัญหาก็อยากฝากให้ผู้เกี่ยวข้องนำไปทบทวน เพื่อพา "ช้างศึก" กลับมาคึกคักอีกครั้งในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ในเดือนกันยายน ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งเวทีให้เรียกศรัทธาแฟนบอลให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกหน

ห่วยแตกทุกชุดกันเองไม่ต้องมาแก้ตัว ตอนจะแข่งปากดีกันทุกคน

#นักเตะอีโก้สูง

ถือเป็นเรื่องที่เป็นมาทุกยุคทุกสมัยจริงๆ สำหรับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเอาโค้ชต่างชาติ หรือโค้ชไทย ล่าสุดก็ไม่ปาน มีเสียงกระซิบจากเหล่านักเตะและสต๊าฟฟ์โค้ชในทีมว่าหนึ่งในนักเตะซีเนียร์ของทีมออกอาการไม่เอาโค้ช และ อยากเล่นตำแหน่งที่ตัวเองอยากเล่น ทั้งที่แท้จริงแล้วตำแหน่งนี้ก็ไม่ใช่ตำแหน่งที่ตัวเองถนัด ฟังแล้วหากเป็นจริงก็ปวดหัวแทนกุนซือใหญ่ที่ต้องเจอนักเตะที่คิดว่าตัวเองเก่งจนไม่ต้องฟังคำสั่งจากโค้ช


ไม่ว่าจะกี่ปี....ก็เจอแบบนี้แทบทุกชุด

ปัญหา คือ ในสโมสรไทยลีก มักไม่ใช่กองหน้าคนไทย เน้นต่างชาติเกือบทุกทีม

นักเตะขาดการพัฒนา ซึ่งมาจากทีมงานและโค้ชในทีมที่ไม่สามารถพัฒนานักเตะได้

ยังยึดนักเตะบางคนมากเกินไปทั้งที่ฟอร์มไม่ดี..เอามาลงตัวจริง

ดาวรุ่งดีๆไม่ค่อยได้รับโอกาสมากนัก...

สุดท้ายคือ สมาคมห่วยแตกมากๆครับ ทีเลือกทีมงาน หรือ การจัดสรรเวลา ระหว่างทีมชาติกับสโมสร ไม่ได้ ...

- นักเตะฟอร์มดีที่ อย่าง นิติพงษ์ เสลานนท์ และ ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่ไม่ถูกเรียกตัวไปติด
- ทั้งการไม่ยอมส่งนักเตะประสบการณ์สูง อดิศักดิ์ ไกรษร ที่มีความรอบจัดมากกว่า

ดูขัดๆกันนิดหน่อย อดิศักดิ์ ฟอร์มก็ไม่ดีเลย

คิดว่าตัวเองเก่ง

ผมเจาะให้ก็ได้ โค้ชมือไม่ถึง นักเตะเล่นแอ็คเกินไป

จุดที่ขอแย้งคือ นักเตะอีโก้สูง ทุกยุคทุกสมัย

ยุคซิโก้คุม เค้าคุมอยู่หมด ทั้งการเล่นในสนาม การเล่นเพื่อทีม
แต่ก็มีแฟนบอลชอบดิสเครดิต ซิโก้

โทษนะครับ นักเตะไทยนะไม่ใช่ญึ่ปุ่น ที่ปุบปับคุณจะให้ไปบอลโลกหรือไปสู้กับ Topten ASIA แบบสูสีง่ายๆ

ซิโก้เค้าก็วางรากฐานไว้แล้วว่า 8 ปีให้นักเตะเกิดการพัฒนา มีการวางวิสัยทัศน์ต่างๆนาๆ
แต่พอเจอนายกสมาคมบ้าการเมืองในสมาคม เจอคนคอยยุแหย่ อย่าง เฮง ที่บอกว่าใครมาคุมชุดนี้ก็ได้แชมป์

ที่ 1 อาเซียนหรอ??? โดนทีมอื่นตบลงตำแหน่งหลายครั้งมั้ยล่ะ

ถถถถถ

#เวลาเก็บตัวอันน้อยนิด
- ข้ออ้างของทุกยุคสมัย คล้ายกับว่าเวลาทีมชาติอื่นเตะเขาเตรียมทีม 3-4 เดือนในรายการต่างๆ

#ขาดคีย์แมนหลัก
- อันนี้มีส่วน

##นักเตะอีโก้สูง
- นอกจากอีโก้สูงแล้ว หากมีชื่อเสียงขึ้นมาหน่อยยังมีบางคนขี้แอ๊คด้วย

#โค้ชบารมีไม่ถึง
- ถึงหรือเปล่าไม่ทราบแน่ชัด ต้องให้เฟอร์กี้มาคุมหรืออย่างไร จึงจะเรียกว่าบารมีถึง
แต่ที่ชัดเจนสุดๆเลยคือ ระบบการเล่นเป็นทีม ประเทศไทยห่วยแตกมาก

#ขาดจุดรวมใจ
- อันนี้มีส่วน

ผมสรุปให้เลย ต้นตอมาจาก สมาคมบอลไทยนั้นแหละ เป็นผู้เลือกโค้ชเข้ามาก็รับผิดชอบด้วย

ส่วนโค้ชที่เลือกบารมีไม่ถึง โค้ชโต่ยชอบปั่นเด็กมากกว่า ไม่ใช่คนที่จะทำให้นักเตะมีวินัยได้

ไม่ค่อยเขี้ยว ประสบการณ์ก็น้อยมาก นักเตะเวียดนามทักษะไม่ได้ดีกว่าไทย แต่โค้ชเขาดีไง

เล่นกันเป็นทีม มีวินัย นักเตะไทยส่วนใหญ่จะหน้าเดิมๆ แต่กลับเล่นมั่วมาก อิโก้จัดหลายตัว

อย่าไปโทษสโมสรเลย เรื่องไม่ปั้นกองหน้า แต่เขาก็ปั้นตำแหน่งอื่นให้ แต่ไม่เลือกมาติดอยู่ดี

สำหรับผมแล้ว มันล้มเหลวตั้งแต่นายกสมาคมบอลไทยเลยนะ เลือกคนไม่ค่อยเป็น ในเรื่องฟุตบอล

ตอนที่ซิโก้คุมก็ทำมาให้ดูแล้ว การเล่นแบบบอลพื่นมีประสิทธิภาพแค่ไหน สู้ทีมอาเซียนสบายๆ

มามองดูปัจุบันคืออะไร เล่นอะไรกัน ระบบอะไร แผนอะไร ไม่มีอะไรเลย ผมไม่ได้บอกว่าซิโก้

คุมดี ข้อเสียก็เยอะเหมือนกัน ชอบเลือกลูกรักตลอดแม้ฟอร์มจะห่วยแตก และก็เกมรับหลวมมาก

แต่ช่วงหลังๆก่อนจะโดนเด้งออก ไม่เล่นบอลพื่น ตรงนี้ผมก็ไม่เข้าใจ เล่นบอลมั่วพอกันเลย

ไม่รู้ว่าช่วงนั้นใครเป็นคนวางระบบเล่นบอลจังหวะเดียว เล่นบอลพื่นทั้งเกมเลย น่าดูมากๆ

เล่นง่ายๆแต่มีประสิทธิภาพ ช่วยกันวิ่ง ช่วยกันเคลื่อนที่ทุกคน

ข้ออ้างบาน งานไม่ทำ

เกี่ยวกับความต่อเนื่องมากกว่า ตอนยุคซิโก้ไทยเป็นเจ้าอาเซียนเจอใครก็ตบเรียบ แต่สมาคมกลับเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาไทยต้องไปสู่ระดับโลกทั้งที่พื้นฐานยังไม่นิ่งเลย แล้วก็ไปเริ่มวิธีการเล่นใหม่ พอไม่รอดก็เปลี่ยนวิธีอีก เริ่มใหม่ ๆ ๆ จนเวียดนามที่ค่อย ๆ ตามหลังเราอย่างช้า ๆ เดินนำไปแล้ว แต่เราก็ยังต้องเริ่มใหม่อีกเรื่อย ๆ

ผมว่ามันล้มเหลวมาพักใหญ่ๆแล้วนะ

นายกสมาคมฟุตบอลหูไม่ค่อยดีครับ พูดให้ปากฉีกก็ไม่ได้ยินหรอก

ถ้ามีเจอย่างน้อยๆก็ไม่น่าแพ้เวียดอะ