[RE: การที่เด็กสมัยนี้ฟังเลคเชอร์ยาวๆไม่ได้ เป็นความรับผิดชอบของคนสอนที่ต้องเปลี่ยนวิธีสอนเหรอ]
ยกตัวอย่างของผมตอนนี้่ละกัน
เทอมนี้ผมเรียน6ตัว ถ้าวิชาไหนมีเรียน3ชั่วโมง จะมีเรียนแค่1ครั้งต่อสัปดาห์ ถ้า2ชั่วโมงก็จะประมาณ2คาบต่อสัปดาห์
เชื่อมั้ยฮะ prof.หลายๆท่านในม.ผม หรืออาจารย์บางท่านที่ต้องสอน3ชั่วโมง ส่วนมากเกือบจะทุกคนสอนไม่เคยแต่3ชั่วโมงเลย 2ชม.ครึ่งยังมีน้อยมากๆ อาจจะเจอprof.บางท่านที่ยังไม่ได้ปรับตัวเข้าcultureเรา แกก็จะสอนเต็มที่เลย3ชั่วโมง แต่ส่วนมากแกก็จะปล่อยเลทตลอดฮะ
ผมว่ามันอยู่ที่cultureและความเข้าใจกันทั้ง2ฝ่ายฮะ
prof.หลายท่านในม.ผม มาปีแรกๆแกก็โดนประเมินไปในที่ไม่ดีนะ จนปีที่2 ปีที่3 แกต้องปรับวิธีการสอน ยกตัวอย่างท่านนึง แกมาปีแรก แกเน้นlecture สอนตามสไลด์ ละให้นิสิตจดตาม นิสิตคนไหนอู้งาน แกจะมีปากกาเลเซอร์ประจำตัวแก แกจะยิงไปที่คนอู้ แอบคุย แอบเล่นมือถือตลอด คือแกจะstrictในคลาส ออกจากคลาสมาแกก็เป็นคนเฮฮาตามสไตล์วัยรุ่นอเมริกัน แต่ผลลัพท์ตอนปิดเทอมคือ แกโดนcomplainจากนิสิตเยอะมาก จนหัวหน้าภาควิชาต้องเข้าไปคุย ปีต่อมาแกเปลื่ยนวิธีการสอนใหม่หมดเลย เปลื่ยนจากlectureเป็นclasswork เน้นทำกิจกรรมมากกว่านั่งฟัง นิสิตหลายคนรวมถึงผมก็enjoyอย่างดี แต่แกจะยังเข้มงวดเรื่องเวลาเข้าเรียนอยู่ ห้ามสายเกิน15นาทีไรงี้
อาจารย์ไทยหลายคนในม.ผมที่เคยเจอ ส่วนมากถ้ามีคลาส3ชม.แกจะสอนซัก2ชั่วโมงเป็นอย่างเยอะที่สุดฮะ เขาเข้าใจนิสิตว่า 3ชม.มันนานเกิน เรียนไปถ้าไม่มีresponseระหว่างกันก็ไม่สอนดีกว่า ยิ่งถ้าเป็นคลาสเช้า ตามตาราง8.30 แกยังเลื่อนให้เป็น9โมงเลย ด้วยความที่ม.ผมมันอยู่ในเมือง ย่านธุรกิจ รถติดทั้งวันฮะ ตอนเช้ายิ่งไม่ต้องพูดถึง แทบทุกคนบอกว่า เขาเห็นเข้าใจการต้องแหกขี้ตามาเรียนตอนเช้า แล้วยังต้องมาเจอรถติดอีก บางคนบ้านไกลอะไรอย่างงี้ด้วย
เคสสุดท้ายก็จะเป็นพวกprof.ที่ออกไปทางอีโก้นิดๆ ไม่ปรับให้เข้าตามculture prof.คนนี้แกสอน philosophy กับพวก Business English ฮะ ดีกรีจบphD. ทางด้าน philosophy พอแกได้สอน passionเรื่องนี้แกจะสูงมาก แล้วคลาสแกก็3ชั่วโมงทั้ง2วิชาซะด้วย อย่างเทอมนี้วิชาphilosophy ตามตาราง มหาลัยวางไว้ 14.30-17.30 เชื่อมั้ยฮะ มีนับครั้งได้ที่ปล่อยตรงหรือเลท5-10นาที ทุกวันจันทร์ผมได้กลับบ้าน6โมงตลอด
ส่วนวิธีการสอน อารมณ์แบบprof.ในหนังเลยฮะ พูดๆ จดไม่จดก็แล้วแต่(แต่ไม่มีสไลด์นะฮะ) ถ้าใครไม่อิน 10นาทีคือหลับไปเลย แต่เขาก็ไม่สนใจคนพวกนี้นะ แต่ด้วยความที่แกรอบรู้ไปซะทุกเรื่อง มันก็จะฉีกจากเนื้อหาไปบ้าง มันก็เป็นสาเหตุทำให้เลิกเลทตลอด
culture อย่างนึงของคนไทยในการเรียนคือ การยกมือถามเมื่อสงสัย หรือแม้แต่การ criticize ตัวคนสอนเอง ซึงคนไทยส่วนมากมักจะกล้าๆกลัวๆ ยิ่งเรียนวิชา philosophy สิ่งที่สำคัญคือการถกเถียง การใช้เหตุผล critical thinking ซึ่งพอในคลาส คนไม่กล้าทำกัน แกจะmadมากๆ ละมันก็ทำให้คลาสลากยาวจนเลยเวลาฮะ
ส่วนอีกวิชาที่แกสอนคือ Business English ตามตารางคือ แกสอน 9.00-12.00 ละก็ที่เกิดขึ้นจากวิชาที่แล้วฮะ เกือบจะเที่ยงครึ่งพึ่งจะปล่อย พอเหยียบเที่ยงละยังไม่มีท่าทีจะปล่อย นิสิตในคลาสก็ไม่มีอารมณ์ร่วมในคลาสแล้วฮะ
ยาวไปหน่อย แต่สรุปสั้นๆก็คือ มันอยู่ที่ความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนฮะ ปรับให้เข้ากันทั้ง2ฝ่าย ละจะเป็นการเรียนที่น่าเรียนยิ่งขึ้นครับ