วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมฯ เผยสมาคมฯ กำลังพัฒนาฟุตบอลมาอย่างถูกทาง วอนแฟนบอลอดทนรอผลผลิต

วันที่ 26 เมษายน 2562 เวลา 16.00 น. ณ ห้อง The Library Room โรงแรม โนโวเทล สยามสแควร์ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้มอบประกาศนียบัตรให้ ประธานฝ่ายเทคนิค และตัวแทน จากประเทศสมาชิก จำนวน 11 ประเทศ ที่เข้าร่วมสัมมนาเรื่องการอบรมผู้ฝึกสอน และการพัฒนาเยาวชน

โดยประธานฝ่ายเทคนิคฯ และตัวแทน จากประเทศสมาชิก จำนวน 11 ประเทศ ที่เข้าร่วมสัมมนา ได้แก่ วิทยา เลาหกุล, ดร. จตุพร ประมลบาล และ มร.ฆูเลียน มาริน บาซาโล จากไทย, มร.อาเบ็ด โมฮาเหม็ด อลานซารี จากบาห์เรน , มร. คาซูโนริ โอฮาระ จาก กัมพูชา, มร. ดาเนอร์ วินโด จากอินโดนิเซีย, มร. ยาซูฮิโกะ คิมูระ และ มร. ทาคาชิ เซคิซูกะ จากญี่ปุ่น

มร. คิม พัง กอน จากเกาหลีใต้, มร. ปีเตอร์ เด รู จากมาเลเซีย, มร. เอริค อับราม จากเมียนมา, มร. โฆเซ อริสตัน คาสลิบ จากฟิลิปปินส์, มร. กาสปาร์ ควินตา ดา ซิลวา จากติมอร์-เลสเต และ มร. มิเชล ซาบลอน จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

หลังจากการสัมมานา วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมฯ กล่าวว่า "การสัมมนาครั้งนี้เป็นการให้ความรู้กับผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค โดยมีการร่วมกันออกความคิดเห็นและแลกความความรู้ ซึ่งสิ่งที่ได้คือการวางแผนงานด้านเทคนิค สมาคมฯ ต้องรู้ว่ากำลังทำอะไร ตอนนี้เราอยู่ตรงไหน และจะพัฒนาฟุตบอลยังไง ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมฯ มีการวางระบบโครงสร้างฟุตบอลตามหลักสากล ทั้งการให้ความสำคัญของฟุตบอลระดับรากหญ้า, การให้ความรู้และพัฒนาโค้ช และให้ความสำคัญกับการจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง"

"เมื่อวางรากฐานอย่างเป็นระบบ จากนั้นก็จะมีการวางแผนในระยะสั้นและระยะยาวว่าจะต้องพัฒนาฟุตบอลไทยไปในทิศทางไหน ซึ่งการพัฒนาฟุตบอลเหล่านี้ต้องใช้เวลาอย่างน้อยที่สุดคือ 8-10 ปี ผมอยากให้แฟนบอลเข้าใจว่าการพัฒนาฟุตบอลในส่วนนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลงานของทีมชาติไทย มันคนละส่วนกัน ตรงนี้มันเป็นเรื่องอนาคตครับ ผมคิดว่าถ้าทุกอย่างมีการพัฒนาอย่างถูกต้องและมีแบบแผนอย่างนี้ฟุตบอลไทยเราจะมีความยั่งยืนครับ"

สำหรับการสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา โดยเน้นไปที่หัวข้อ การพัฒนาเยาวชนในอคาเดมีและโค้ช, การส่งต่อเยาวชนสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ,การพัฒนาเยาวชนในทีมชาติ, การทำงานร่วมระหว่างเลขาธิการสมาคมฯ และประธานเทคนิค และการจัดการทางด้านข้อมูล เป็นต้น

ตอนนี้ผมรออผลผลิต u15 อย่างเดียวเลย

เป็นตัวชี้วัด ความสำเร็จของสมาคมชุดนี้อย่างแท้จริง

เพราะได้โตมาพร้อมกับโค้ชและระบบการเล่น ที่มีมาตราฐาน

ตอนนี้ผมคิดว่าเรามาถูกทางแล้ว ขอให้แฟนบอล ใจเย็น รอดูน้องๆ เติบโตกันดีกว่า

มันคงจะดี ถ้าเฮงซังหรือ สมาคมฯ มีการชี้แจงตัวชี้วัดหน่อย ว่า 8-10 ปีที่ว่า
ในปีที่ 1 ปีที่ 2 มันมีตัวอะไรชี้วัดว่า เรามาถูกทางแล้ว
เช่น ในอีก 2 ปี ชุด U-15 ต้องเป็นแชมป์ A
ในอีก 5 ปี ไทยลีคจะต้องมีลีคเยาวชนที่มีมาตรฐาน

ถ้าบอกว่า ให้รอหน่อยๆ โดยที่ไม่บอกอะไรพวกนี้ บอกตามตรงเลยว่า แฟนบอลอย่างผมหวั่นใจจริงๆ

หรือจริงๆอะไรพวกนี้ มีอธิบายอยู่แล้ว แต่ผมหาอ่านไม่เจอเอง ก็ต้องขออภัยด้วยครับ

เรื่องปกติครับ เบลเยี่ยมยุคทองใช้เวลา15ปีแก้โครงสร้างใหม่กว่าจะถึงตอนนี้

แชมป์นี่เบลเยี่ยมชุดเด็กยันตอนนี้ยังไม่เคยได้เลยนะเต็มที่ก็ที่3 ที่4

แก้เรื่องการฝึกซ้อม วินัย วิทยาศาสตร์การกีฬา ทัศนคติ ความฟิต

ระยะยาวมันก็ดีขึ้นเองแหละครับ ตอนนี้ขยายโค้ชให้มีคุณภาพมีสอนเด็กก่อน

ค่อยสร้างพื้นฐานอื่นเพิ่มเรื่อยๆ ปลูกต้นไม้ไม่ใช่ถั่วเขียวก็แบบนี้แหละ
รอมันโตแข็งแกร่งของมันเอง บางคนอยากได้แบบปลูกปุ๊ปได้ถั่วงอกกิน

ส่วนประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา อะไรที่มันดีๆก็เอามาใช้กันด้วยนะครับ

อยากให้เฮงไปทบทวนตัวเองหน่อย หลอกได้แต่เด็กๆที่เกิดไม่ทันและหว้าเฮงเอย ตอนกลับจากเจแปนเคยพูดว่าไง ขอโอกาสทำทีมชาติ บอกจะทำให้ทีมชาติเป็นไงเฮงเอย แก่จนหลงลืมหมดแล้วมั่ง

วางรากฐานระยะยาวก็ดีนะครับ แต่ที่ผมกลัวคือวินัยของเด็กไทยมีน้อยมาก พอโตขึ้นก็เปลียน

ดูได้จากชุดต่างๆในอดีต พอโตขึ้นวินัยก็หายไปด้วย ไม่ค่อยวิ่ง ไม่ค่อยพัฒนาเท่าที่ควร

ติดหญิง ติดเหล้า ติดเพื่อน พูดง่ายๆคือ ไม่ค่อยมีความเป็นมืออาชีพที่จะไต่ระดับไปลีกใหญ่

การพัฒนาแบบความคิดผมคือพัฒนาสโมสร T1 และ T2 ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น กระจายนักเตะ

ไปเล่นลีกใหญ่ๆให้มากขึ้น ไม่ใช่มีแค่ 3-4 คน อย่างน้อยๆต้อง 10+คน ถึงจะพัฒนาเด็กๆได้

เพราะการเรียนรู้กับนักเตะเก่งๆโดยตรงจะไวกว่า เช่น เจ้าเจ จะเห็นว่าพัฒนาผีเท้าเร็วขึ้นมาก

แต่อย่าเลือกเล่นสโมสรที่ใหญ่เกินไป เพราะการไม่ได้ลงสนามจะทำให้ไม่พัฒนาเลย

10 ปีก่อนก็พูดแบบนี้ อีก 10 ปีข้างหน้าก็คงพูดแบบเดียวกัน

นึกว่าคู่กรรม ต้องฟังซ้ำเป็น 8-10 รอบ

ยังไม่วาย มีคนมาเเขวะเฮงซังอีก

นี่เเหละน๊า ที่เค้าว่า
ทำดีแล้วโดนด่า #ดีกว่าไม่ทำ..แล้วด่าคน

คือ ไม่ทำอะไรหรอกคนพวกนี้ จ้องเเต่ด่าอย่างเดียว
ไม่ดูหรอกว่า ระหว่างทางที่กำลังทำนะ มันยากหรือง่าย
มีเเต่สกิลปาก ด่าอย่างเดียว ให้ทำนะ ไม่ทำหรอก

ป๋าเฮง ขอ 8-10 ปี
แล้วอยู่ในวงการบอลมากี่ปีละ
รากฐานที่วางมามีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ปล่อยให้คนรุ่นใหม่ บอลสมัยใหม่เขาทำเถอะนะ

แล้วที่ผ่านๆมานี่ทำอะไรอยู่ ยังไม่วางรากฐานกันอีกเหรอ เห็นวางกันมากี่ปีแล้ว พอล้มเหลวก็บอกต้องวางรากฐานอีก เอาจริงๆนะ ฟุตบอลไทยจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีคุณ

ได้ยินตั้งแต่ผมยังเด็กๆ

เดี๋ยวๆ เฮงกะสมาคมเพิ่งมามีอำนาจได้ 2 ปี
เพิ่งจัดอบรมสร้างบุคลการ เพิ่งมีเอคโคโน่มาดูแลเยาวชน
บางคนพูดเหมือนมีอำนาจมาเป็น 10 ปี
เข้าใจอะไรผิดป่าว
ยุคที่มันไม่พัฒนาคือยุคสมาคมชุดบังยี
ยุคสมยศนี่มีแนวทางพัฒนากว่าแต่ก่อนเยอะมากแล้วนะ ยังมีคนแซะแบบนี้อีกหรอ