ให้อารมณ์กัปตันเดินมาฉะลูกทีม
แกรี่ไม่กล้าหือกะลูกพี่หรอก

ตำนานเถียงกันสนุกดีและยิ่งเป็นตำนานที่เป็นยูไนเต็ด 100% ด้วยยิ่งน่าฟังไปอีก

ยุคเฟอกี้นักเตะมุ่งมั่นทุ่มเทดีจริงๆ

มาๆๆ มาเป็นมือขวา มือซ้าย โซลชาเลย

รับรองสนุกแน่ๆๆ

เต็มที่ของนักเตะชุดนี้ ยังไงก็ต้องต่างจากยุคคีนอยู่แล้ว

รู้สึกว่ารอยคีนเวลาคุมทีมคงคล้ายๆมู แรกๆจะดี พอทีมไม่ไหวก็เละ แถมกึ๋นสู้มูไม่ได้เลยไม่ประสบความสำเร็จ

อยากลุ้นแชมป์ทุกปี ต้องเริ่มที่คุณภาพนักเตะ
ถ้าฝีเท้าด้อยคุณภาพ วิ่งแทบตายก็ยังครองบอลไม่ได้

เด็กปั้นสโมสรแต่ละคน เป็นได้แค่ตัวสำรองชั้นดี (ยกเว้นแรซฟอร์ด)
หรือเอาไว้โรเตชั่นลงเล่นในเกมตบเด็ก

ภาพคือสุดตีน คีนมองบน

อ่านบทละเหมือนเตรียมกันมา รับส่งอย่างดี

คีน บอกได้แค่เนี้ยคือดี

แกรี่ ก็ย้ำจริงว่านี้ดีสุดของเขาละ

เหมือนลากมาตบกลางแยกไฟแดง แล้วถ่ายคลิปลงโชว์ทั้งโลก

มาเป็นพี่ว๊ากคงไหว
แต่เป็นมือขวาผมกลัวทีมจะแตกเอา

อ่านดูก็ด่าทั้งคู่น่ะแหละ ไม่ได้มีใครชมเลย แกรี่เหมือนจะแย้งคืน แต่จริงๆคือด่าเสริมด้วยซ้ำ

ผมก็รู้สึกเหมือนที่คีนพูดนะ คือมันต้องดีและดีขึ้นทุกๆนัด เมื่อไหร่ที่คุณคิดว่าแค่นี้ดีพอแล้ว มันก็เหมือนน้ำที่เต็มแก้วแล้ว มันจะหยุด และจะไม่พัฒนาต่อแล้ว

ถ้ามองว่าทีมชุดนี้ได้แค่นี้ ก็ไม่ต้องหวังแชมป์หรอก
ปีหน้าก็เปลี่ยนยกทีมเหอะ
เพราะยังไงก็ต้องสู้กับซิตี้ทีมเดิม

คีน จะไม่ได้เป็นมือขวาครับ แต่จะเป็น กัปตันของ ผจก. ทีมอีกที

โซลชาก็น่าจะเหมือน แกรี่ ไม่น่าเถียงชนะลูกพี่ 555



ที่อยากให้หาให้ได้ คือ กัปตันแบบ รอยคีนมากกว่า คนที่เกลียดการพ่ายแพ้ มากกว่าอะไรทั้งหมด และฟอร์มการเล่นคงเส้นคงวา เป็นตัวอย่างให้ลูกทีมได้

ทีมลูกพี่คีน ถ้าลูกพี่ยังอยู่ในทีม นักเตะชุดนี้คงโดนตบเรียงตัว

ยูไนเต็ดควรพอใจกับฟอร์มการเล่นแค่นี้แล้ว ??

ผมยังจำได้สมัยยุคคลาส 92 ขึ้นมาใหม่ๆ เจอยูเว่โคตรทีมยุโรปยุคนั้น ความแตกต่างของฝีเท้ามันต่างกว่านี้เยอะ แต่นักเตะชุดนั้นวิ่งอย่างกับแดกยาบ้า ยูเว่ถึงชนะก็เหนื่อย นักเตะซิตี้กับนักเตะยูไนเต็ด ฝีเท้ามันต่างกันขนาดแกรี่บอกรึเปล่า ผมว่าไม่ใช่ สเตอริ่ง ซาเน่ กุนโดกัน เบอร์นันโด้ ซิลวา แฟนันดินโญ่ ซินเชนโก้ พวกนี้ฟอร์มดีกว่าผมไม่เถียง แต่จะบอกว่าความสามารถคนละระดับกับนักเตะที่ผีมีอยู่ตอนนี้รึเปล่า ผมว่าไม่ใช่

เหนด้วยกะทั้งสองคนแหละ
แกรี่พยายามบอกว่า นักเตะมันทำได้แค่นี้แหละ

แต่คีนเด็ดกว่าคือ ไม่ว่าความสามารถแค่ไหน เมิงใส่เสื้อนี่แล้วต้องทำให้ได้ ไม่ใช่แค่พยายาม

"ถ้าผู้เล่นทำเต็มที่แล้วล่ะก็ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิ่งมีปัญหาหนักกว่าที่ผมคิดเลย และตอนนี้ผมคิดว่าพวกเขาก็มีปัญหาหนักอยู่แล้ว"

เนวิลล์พยายามจะเถียงว่าลูกทีมของโซลชาร์พยายามจะวิ่งไล่จากจังหวะเฟร็ดทำพลาดแต่คีนก็รีบบอกว่า "โอ้ แกรี่ แกรี่ ก็แค่สองหลาเพื่อน ฉันการันตีเลยว่าถ้านายทำแบบนี้นะ นายคิดว่าเราจะสวดนายไหม? แน่นอนนายโดนแน่"

"มันแค่แค่สองหลาเอง อย่างน้อยก็ประมาณนั้น พวกเขาปล่อยให้โดนยิง คุณต้องไล่ตามเหมือนกับว่าชีวิตแขวนอยู่กับมันสิ"

คือ ถ้ามีอย่างสองคนนี้ในทีม แม่ม ต้องดีแน่ๆ

แกรี่พยายามจะบอกว่า มันเข็นไม่ขึ้นแล้วมันมาได้สุดแค่นี้แหละมันเล่นกัน 100%แล้ว

แต่คีนกำลังจะบอกว่า ที่นี่เค้าเล่นกัน 200% ไอ้ความพยายามที่เห็นมันยังไปต่อได้อีก ถ้าคิดว่าทำได้แค่ 100%ก็คิดใหม่ซะแล้วทำให้ได้ 200% ถ้าชนะไม่ได้ก็ยอมตายในสนามซะอย่ากลับมาให้เพื่อนๆด่า ให้แฟนบอลเค้าด่าว่าไม่ทุ่มเท

แสดงให้เห็นได้ชัดเลยว่า ทั้งสองคนถูกสอนให้คิดมาอีกแบบนึง ซึ่งไม่มีในนักเตะชุดนี้

นั่นคือ ความดันทุรังให้มันดีเกินความคาดหมาย ทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองเก่งขึ้นจนเพื่อนๆสามารถพึ่งพาได้และยกระดับตัวเอง ยกระดับเพื่อน ยกระดับทีมให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆไม่ให้อยู่กับที่

ผมยิ่งกลับไปคิดเลยว่า สมัยตอนที่ป๋าคุมแคร์ริงตันเค้าปลูกฝังความคิดยังไง ฝึกซ้อมกันยังไงให้ทุกคนยอมเหนื่อยตายคาสนามแบบนั้น วิ่งไม่มีหมดสู้ไม่มีถอดใจ ความคิดแบบนั้นมันสุดยอดมากๆ ต้องมีทั้งระเบียบ วินัย พรสวรรค์และพรแสวง และทีมเวิร์คที่สุดยอดถึงจะทำได้

นับถือตำนานทั้งสองคนเลยครับ เค้าคงผ่านร้อนผ่านหนาวในยุคป๋ามาจนกล้าด่าได้เต็มปากเต็มคำเลยล่ะว่า นักเตะชุดนี้ยังพยายามไม่มากพอ ซึ่งแฟนบอลอย่างผมก็เห็นด้วยครับ