การเมืองไทยสมัยนี้ มีโอกาสเป็นแบบนั้นนะครับ

คุณเสรี คุณมิ่งขวัญ คุณธนากร คนใดคนหนึ่ง อาจเป็นผู้รวบรวมเสียงให้ได้มาก ๆ

คือ ไปชวนเพื่อไทย ปชป. มาร่วมกับตัวเอง สนับสนุนตัวเองเป็นนายก

ทั้ง ๆ ที่พรรคตัวเองได้เสียงน้อยกว่า

เพราะถ้าจะให้ พท.หรือ ปชป.มารวมกันเอง

แล้วเลือกพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ฝันไปเถอะครับ

และถ้า 2 พรรคใหญ่ไม่รวมกัน เสียงก็อาจสู่พรรคลุงไม่ได้ ลุงก็เอาไปกิน

ทางที่ดีที่สุดคือ เอาคนกลางมา (เสรี มิ่งขวัญ ธนากร) จัดตั้งรัฐบาล

มาร์คก็ไม่ต้องยกมือให้หน่อย หน่อยก็ไม่ต้องยกมือให้มาร์ค

แต่ยกมือให้ คนกลาง (เสรี มิ่งขวัญ ธนากร) เป็นคนจัดตั้งรัฐบาล

สมัยท่านคึกฤทธิ์ เป็นนายก ก็เป็นนายกที่มี สส.ในมือไม่กี่เสียงครับ

ผมว่ามันก็ดีนะครับ ใครได้เสียงข้างมากก็มีสิทธิจัดตั้งรัฐบาล

เพราะถ้าพรรคชนะแต่เป็นเสียงข้างน้อย เวลาทำอะไรจะยากมากเลยครับ

ยกตัวอย่างลุงตู่ละกัน สมมติพรรคแกเสียงข้างน้อย แต่แกได้เป็นนายก เวลาจะเสนอเรื่องอะไรยังไงก็ไม่ผ่านครับ

มันจะทำงานลำบากครับ

อย่าลืมว่าพรรคไหนได้ไม่ถึง 30 เก้าอี้ แคนดิเดตนายกของพรรคนั้นเป็นโมฆะนะครับ

ถ้ารายชื่อตามที่ท่านว่า ก็มีแค่ธนาธรคนเดียวที่มีลุ้นครับ

แต่ถ้ารวมเสียงกันหลายๆพรรค ละมาจัดตั้งรัฐบาล
มันก็จะมีปัญหาตรงต้องแบ่งเค้กเยอะแหละครับ
พอแบ่งเยอะๆหลายกลุ่ม มันก็กลายเป็นไม่มีอำนาจต่อรองเขา
ถ้าพวกแตกแถวเมื่อไหร่ ตัวนำทีมก็เกม

มันก็ถูกของแก แต่ตามมารยาททางการเมืองยังไม่ควรพูดเฟ้ย

25 หรือ 30 ครับ ผมก็ลืม ๆ

30 ครับ

เสรี กับ มิ่งขวัญ ได้ 5 เก้าอี้ก็หรูแล้วครับ

ส่วนธนาธรเห็นแกตั้งเป้าไว้ 60 แต่คิดว่าน่าจะจบที่ 40+- นะครับ ก็ถือว่า Success มากๆแล้วครับ รอบที่แล้วชูวิทย์กระแสก็น้องๆธนาธรได้ไปล้านกว่าคะแนนเองมั้งครับ

คิดๆดูหาทางออกในการบริหารประเทศแบบพอดียากมากเลยนะครับ รวมเสียงได้เยอะก็ต้องมาจัดการผลประโยชน์ให้ทุกพรรคพอใจสั่งการได้ไม่เต็มที่กลัวจะแตกแถวจากเรา หากได้คะแนนเสียงเยอะเพียงพอเพื่อจัดตั้งรัฐบาลก็จะกลายเป็นทำงานง่ายจนยากแก่การตรวจสอบอีก แนวทางควรจะเป็นยังไงถึงจะเหมาะดีครับ

คิดว่าควรครับ และ ถูกด้วย นโยบายคิดเหมือนกันก็จับมือกัน

ถ้าเห็นต่างก็จับกันไม่ได้ ถ้า พท. ได้ที่ 2 จะจับกับที่ 3 ก็ไม่ผิด

ฉันท์ใดฉันท์นั้น ถ้า ปชป กับ พปชร จับมือกันก็ถูกต้อง

และควร

อยากถามกลับมากกว่าว่า ผมนึกไม่ออกว่าทำไมไม่ควร และทำไมถึงไม่มีผิดถูก

ปล. เสียงข้างมากแต่ไม่ได้มากเพียงพอนี้ ครับ

- อันนี้คือตามหลักประชาธิปไตยเลยครับถือเสียงข้างมากเป็นหลัก เช่น พรรคที่ได้ที่ 2/3/4 หลักการหรือนโยบายเค้าเหมือนกันและไม่ตรงกับพรรคที่ได้เสียงอันดับ1 เค้าก็มีสิทธิ์ที่จะจับกันเอง และถ้ารวมกันได้มากกว่าก็ถือว่าเป็นเสียงส่วนใหญ่

- ส่วนเรื่องพรรคที่ได้เสียงมาเป็นอันดับหนึ่งควรได้เป็นแกนนำอันนี้เป็นแค่มารยาททางการเมืองนะครับ

25 ครับ 5% ของทั้งหมดครับ

http://www.thansettakij.com/content/391749

ส่วนตัวคิดว่าจบแบบนี้นะ คงวางหมากไว้เรียบร้อยละ

พทและแก๊ง 40%
ปชป 20%
อนาคตใหม่ 15%
พปชรและแก๊ง 10%
เสรี เศดกิจ ชาติต่างๆ ภูมใจไทย และอื่นๆ พวกนี้คนละ 1-5%


แต่การจับมือ ดูยังไง พปชร เล่นมุข good cop bad copอยุ่ชัดๆ
ดูไงก้จะดันมาร์คเปนนายก แล้วเอาตู่กับป้อมลงแบบสวยๆไปใช้เงินที่หามาได้หลักพันล้านสบายๆ

เล่นมุขให้ไอตู่ดูโคตรแย่เพื่อจะให้ถอยแล้วมาร์คทำเปนคนดีไม่เอาตู่แล้วบอกว่า พปชร ไม่สืบทอดแล้ว แต่เอาจริงเบื้องหลังต้องมีอยุ่แล้วละ อ้วนพลีเลยทีนี้ไม่ต้องออกหน้า ให้ ปชป ออกหน้าให้

เอา พชปร กับ สว250ไปช่วยดัน ถ้าตามที่คิด 2พรรครวมกันได้ 30% ของ 500คน = 150 + 250 สว = 400

แต่ประเด็นมันอยุ่ตรงที่ในรัฐสภาถ้า สส ไม่เกินครึ่งจะทำงานลำบากมาก อันนี้ต้องดูว่าจะทำยังไงเพราะมี สส แค่ 150จาก 500เอง อย่างมากคงดึงได้จากสองสามพรรคหลักๆ

ลุงมิ่งอาจจะไปถ้าได้คุมกระทรวงเศดกิจ พวกพรรคชาติต่างๆ ภูมิใจไทย ไปอย่างง่ายอยุ่ละ รวมๆอาจจะได้ 10% ของ สส ก้ 50 คน เท่ากับว่ามี 200 สส ที่เหลือเอาเงินกับอำนาจฟาด สส จากพวกเพื่อไทย อนาคตใหม่ เสรีรวมไทย ที่ตัวเองเปิดช่องไว้ให้ย้ายพรรคได้หลังเลือกตั้ง โกยๆมาอีก50คนให้ครบ250

แต่ข้อแม้คือถ้า พชปร ช่วยกันดัน ปชป แล้ว ปชปต้องไม่เชคบิลย้อนหลัง ปล่อยให้เรื่องที่ผ่านมาผ่านไป เงินที่ได้ไปแล้วไม่ไปตามยึด พอเลือกตั้งรอบหน้าอีก4ปี คนไทยก้ลืมหมดละ ไม่มีใครไปนั่งเชคบิลแล้ว

ผ่านไป4ปีกระแสต่อต้านทหารคงลดลงอย่างเห็นได้ชัด สรุปงบก้ได้เหมือนเดิมแหละ รอมีรัฐประหารอีกรอบได้เลยหลังจากนี้10ปี เพราะอีก4ปีเลือกตั้งยังไงถ้าเอาสวออกไป เพื่อไทยได้เปนนายกแน่นอน แล้วผ่านไปอีกซัก 4-8ปี ทหารก้ทนไม่ไหว ปชปก้ทนไม่ไหว ปั่นให้มีการนองเลือดอีก วนไป

น่าจะ winwin all สำหรับ ปชป พชปร ซึ่งโคตรน่าเกลียดเลย 55555

ปล มารคอาจจะร่วงถ้าไม่ได้ถึง100เสียง แต่ไม่มีประโยชหรอก เพราะปชปดันใครมาก้ได้

อันนี้เสริม เพื่อไทยรุ้อยุ่แล้วรอบนี้สุ้ไม่ไหวเอาชัชชาติลงไปเกบเวล คือตอนนี้กระแสในเนตชัชชาติมาแรงมาก ส่วนตัวถ้าชนกันผมว่าคนชอบชัชชาติมากกว่าธราธรนะ

แต่กระแสทั่วประเทศชาวบ้านไม่รุ้จัก เพราะชัชชาติไม่ขยันสร้างดราม่า ไม่มีวาทะกรรมออกสื่อ พรรคเลยจะดันไปให้เปนผู็ว่ากทมเอาชื่อเสียง ซึ่งถ้าลงผุ้ว่ากทม ผมว่าชัชชาติได้นะ แล้วเพื่อไทยจะใช้ชัชชาตินี่ละเปนหัวหน้าพรรคยาวๆเลย

เป้นแบบนี้แหละ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

เค้าจะไม่ชิงตั้งก่อน มารยาทคือให้พรรคที่ได้เสียงมากที่สุดมีโอกาสได้ชักชวนก่อน

ถ้าตั้งไม่ได้ พรรคอื่นถึงจะตั้ง

ทุกระบบมีข้อเสียหมดและ ผมว่าสำคัญที่คนครับ

ลองคิดดูถ้าเปลี่ยนจากลุงป็นนายกสิงค์โปร หรือนักการเมืองมากจากพวกสแกนดิเนเวียน

ระบบไหนก็ดีครับ