พรีวิวคาราบาวคัพ! แชมป์เพื่อขวัญกำลังใจไล่ล่าพรีเมียร์ลีก vs แชมป์เพื่อเซฟตัวเอง
ฤดูกาลนี้แมนซิตี้ยิงไปแล้ว 127 ประตูรวมทุกรายการ มากที่สุดในบรรดาทีมจากยุโรป วันอาทิตย์นีเชลซีจะหยุดเกมรุกอันดุดันของแมนซิตี้ได้ยังไง
เชลซีโดนถล่ม 6-0 ในพรีเมียร์ลีกเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายทีมโดนแมนซิตี้ยิงถล่มไปหลายทีม ล่าสุดก็นิวพอร์ต และชาลเก้ต่างก็โดนยิงไป 3 ประตู
ย้อนกลับไปอีกก็ฮัดเดอร์ฟิลด์ คาร์ดิฟฟ์ เบิร์นลีย์ เซาแธมป์ตัน เวสต์ แฮม ยังไม่นับ ร็อตเธอแฮม เบอร์ตันอีก
1 ใน 5 ของประตูทั้งหมดมาจากการยิงของ Aguero (24 ประตู) และก็เป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมในตอนนี้ ทิ้งห่างอันดับสองอย่าง Jesus ที่ทำไปแล้ว 16 ประตู
และปีนี้ถึงแม้ De Bruyne จะเจ็บ เพิ่งจะลงเล่นได้เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่เกมรุกก็ยังมีปีกสองข้างอย่าง Sterling, Sane และ Mahrez มาทดแทนจอมแอสซิสต์ที่เจ็บจนแทบไม่ได้ลงเล่น
ภาพด้านล่างแสดงให้เห็นถึงการยืนตำแหน่งโดยเฉลี่ย Fernandinho (25) จะปักหลักป้องกันเกมตรงกลาง และมี Sane (19) อยู่พื้นที่ด้านบนสุด สร้างโอกาสเข้าทำฝั่งซ้าย
เป๊ปสั่งให้เน้นขึ้นเกมฝั่งซ้ายในเกมล่าสุดที่เจอเชลซี โดย 52% เป็นการเล่นบนพื้นที่ฝั่งซ้าย
จุดที่อันตรายของแมนซิตี้คือ เมื่อพวกเขาสามารถพาบอลไปอยู่ในพื้นที่ครอสซิ่งได้ ไม่ว่าจะฝั่งซ้ายหรือขวา ภาพด้านล่างแสดงให้เห็นถึงพื้นที่แอสซิสต์ (เฉพาะพรีเมียร์ลีก) สีแดงแอสซิสต์จากพื้นที่ด้านข้าง (ส่วนมากมาจากปีกซ้าย-ขวา) จึงสรุปได้ว่าซิตี้จะมีรูปแบบเข้าทำโดยใช้พื้นที่ด้านกว้าง cut-back ให้กองหน้าหรือกองกลางสอดขึ้นมายิง
แมนซิตี้มักจะให้นักเตะวิ่งสอดขึ้นมาในกรอบ 6 หลา เพื่อให้ได้เปรียบในเรืองจำนวนบริเวณหน้าประตู และเพื่อจะสร้างพื้นที่และโอกาสในการ cut-back จึงเป็นที่มาของการยิงประตูถล่มทลายในแต่ละนัด โดยเฉพาะในกรอบ 6 หลา
แมนซิตี้มักจะใช้การครองบอลมากกว่าคู่แข่ง เพื่อเป็นฝ่ายควบคุมเกมให้เป็นไปตามแผน หรือจะเรียกว่านวดไปเรื่อย ๆ จนได้ประตูก็ไม่ผิด ซึ่งจากภาพด้านล่าง สถิติก็แสดงให้เห็นว่าแมนซิตี้ได้ประตูในช่วงท้ายของเกมมากที่สุด ซึ่งถ้าเชลซีคิดจะยื้อไปจนท้ายเกมก็อาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่ ๆ
นอกจากนี้ยังมีสถิติว่าแมนซิตี้มีการครองบอลที่เหนือกว่าคู่แข่งทุกทีมในพรีเมียร์ลีก ไม่ว่าจะเป็นการครองบอลในแนวกว้างของสนาม ครองบอลในแนวลึกของสนาม ครองบอลนานกว่าคู่แข่ง ระยะทางในการจ่ายบอล พูดง่าย ๆ ว่าทุก ๆ สถิติเกี่ยวกับการครองบอล แมนซิตี้เหนือกว่าทุกทีมในพรีเมียร์ลีก
Sarri ได้บทเรียนมากมายหลังจากเกมที่แพ้แมนซิตี้เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่จะถูกจับตามองเป็นพิเศษคือ การจัด formation และรูปแบบการเล่นที่ควรจะเปลี่ยนแปลง เพือรับมือกับแมนซิตี้
ในเกมที่แมนซิตี้เปิดบ้านรับเชลซี Zinchenko พาบอลเข้าไปในพื้นที่ด้านข้างของกรอบ 6 หลาเพื่อสร้างโอกาส และ cut-back จากด้านซ้ายมาให้ Sterling แปจ่อ ๆ เข้าไปเป็นประตูที่ 6 ของเกม
Full-back ของเชลซีจะต้องตาม Sterling และ Sane และปิดเกมริมเส้น เพื่อให้ซิตี้เล่นได้แค่บริเวณกลางสนาม ในขณะเดียวก็ให้ Kante ยืนเป็นกองกลางตัวรับ ย้ำว่ากองกลางตัวรับ ยืนต่ำสุดหน้ากองหลัง (ส่วน Jorginho จะยืนคู่เป็นตัวออกบอลหรือไม่ก็แล้วแต่) ในแบบที่เคยเล่นให้เลสเตอร์และเชลซีในยุค Conte สิ่งนี้น่าจะทำให้กองกลางของซิตี้ขึ้นเกมได้ลำบากกว่าที่จะใช้ Jorginho ยืนคนเดียวแน่นอน
แมนซิตี้จะเล่นโดยมีกองกลางเป็นตัวถ่ายบอลไปมาจนเกิดช่อง ซึ่งหนึ่งในกองกลางที่ว่านั้น จะใช้ full-back หุบเข้ามาช่วย Fernandinho
ด้วยเหตุนี้เชลซีจะต้องให้ Hazard และ Pedro ขึ้นไปกดดัน และขึง full-back ของแมนซิตี้ไว้ไม่ให้เล่นได้ง่าย ๆ และเปิดช่องให้ Higuain มีพื้นที่มากพอในการเข้าไปสร้างโอกาสยิงให้ได้มากที่สุด
Sarri จะสามารถแก้แค้นและคว้าถ้วยใบแรกในฐานะกุนซือเชลซีได้หรือไม่ หรือจะโดนแมนซิตี้ตอกย้ำชัยชนะอีกหน วันอาทิตย์นี้ ห้าทุ่มครึ่ง (ต่อจากเกมแดงเดือด) รู้กัน
แปลจากบทความต่างประเทศมาอีกที ผิดพลาดตรงไหน เชิญพูดคุยแนะนำได้เต็มที่ครับ
ส่วนตัวผมเชลซีก็คือเชลซี เกม 6-0 เป็นแค่อุบัติเหตุในเกมฟุตบอล ยังไงวันอาทิตย์นี้ไม่ง่ายแน่นอน ยิ่งมีข่าวว่าจะปลดถ้าไม่ได้ถ้วยนี้แล้ว ยิ่งจะทำให้เชลซีวิ่งสู้ฟัดแน่นอน สุขใดเล่าเท่าวันอาทิตย์นี้ มีบอลคู่ใหญ่ให้ดูต่อกัน PPTV ถ่ายทอดสดทั้งสองคู่ด้วยนะเออ