BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jan 2010
ตอบ: 94
ที่อยู่: The Past/The Love/The Memoires
โพสเมื่อ: Wed Feb 13, 2019 22:59
[REVIEW] Bring Me the Horizon - amo (2019)


Bring Me the Horizon - amo (2019)

หลังจากได้พักวงและห่างหายจากการทำเพลงไปชั่วครู่ใหญ่ๆ หลายคนที่ติดตามBring Me the Horizonมาตั้งแต่แรกหรือเพิ่งจะมารู้จักพวกเขาจาก วีรเวร วีรกรรมทั้งหลายแหล่ Oliver Sykesได้ก่อเอาไว้ ก็ได้ถามหาถึงผลงานใหม่ที่ถึงเวลาอันควรจะได้ปล่อยแล้ว

เป็นเวลากว่า4ปีหลังจากThat's the Spiritที่ออกมาตั้งแต่ปี2015นั่นเลยนับว่าทิ้งช่วงได้นานที่สุด
ทางวงก็ได้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ Live at the Royal Albert Hallซึ่งเป็นอีกที่ๆหลายวงดนตรีใฝ่ฝันว่าจะได้เล่นสักครั้ง รวมไปถึงการได้ขึ้นไปเป็นแขกรับ
เชิญใน Linkin Park & Friends Celebrate Life in Honor of Chester Bennington อันนี้ถือเป็นคลื่นพายุลูกใหญ่หลายลูกที่ได้ถาโถมเข้ามา
ทดสอบพวกเขาอีกครั้ง

และนี่ก็คือการเผชิญหน้ากับโลกอีกครั้งหนึ่ง

amoคือการทดลองนำอะไรหลายอย่างที่พวกเขาเอาแต่ใจและเอาใจใส่ที่จะนำเสนอ
ทั้งวง ออเครสตร้า,เปียนโน,เครื่องสาย,กีตาร์อะคูสติค,การร้องRap,บีทบอกซ์,รวมไปถึงเสียงประสานของเด็ก

โดย Oliver SykesและJordan Fishยังคุมหน้าที่ Producerเช่นเคยและทั้งหมดทั้งมวลนี้
เกิดจากความตั้งใจของพวกเขาเองล้วนๆ ที่พวกเขาสรรหาเข้ามาเพื่อทดลองอะไรใหม่ๆและมั่นใจได้เลยว่าพวกเขาจะไม่สูญเสียตนเองไป

หลังจากที่Jordan Fishเข้ามามีบทบาทในวงตั้งแต่ปี2012เป็นต้นมา แนวเพลงวงก็ได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล

จากDeathcore,Metal coreที่พวกเขายึดถือในกาลก่อน ผลัดเปลี่ยนElectronic rock,Alternative rockในแนวดนตรีที่เขาอยากทดลอง
ซึ่งก็ได้ผล พวกเขาได้มีหลายเพลงที่เปิดเข้าสู่คลื่นวิทยุทั้งหลายที่ รวมทั้งได้แฟนเพลงวัยรุ่นเข้ามาพอสมควร

amo คือ คำว่ารักที่เราหลายคนรู้จักกันดี และแน่นอนเพลงหลายเพลงในอัลบัมย่อมพูดถึงความรักในหลายแง่มุม ทั้งดีและร้าย

แต่แน่นอนถ้าจะพูดถึงเรื่องเดียวเป็นส้นตรงยาวๆก็ไม่ใช่BMTHพวกเขายังคงพูดถึงเรื่องของสังคม,ชีวิตในอุดมคติม,การละเมิดรวมไปถึงความคิดทางด้านอเทวนิยมแบบที่วงวางตัวมาตลอดเช่นเคย (โดยรวมผู้เขียนว่าเป็นการสบถก่นด่ามากกว่าการบอกรักซะอีก)

ด้วยเพลงทั้ง13เพลงที่เป็นLucky Numbers มีความยาวกว่า51.54นาทีเรียกว่าได้ยาวแทบจะที่สุดเท่าที่วงเคยทำมา
ขอแนะนำให้ฟังตั้งแต่เพลงแรกเรียงมาถึงเพลงสุดท้ายโดยไม่สุ่มและข้ามแทรค เพราะหลายเพลงในอัลบัมมีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจและมีการต่อเรื่องราวอันเป็นอีกลูกเล่นนึงที่เราไม่ควรมองข้าม

เรามาพูดถึงเพลงต่างๆในอัลบัมกันเลยครับ

6
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ


Sleeping With Sirens - Let Love Bleed Red
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jan 2010
ตอบ: 94
ที่อยู่: The Past/The Love/The Memoires
โพสเมื่อ: Wed Feb 13, 2019 22:59
[RE: [REVIEW] Bring Me the Horizon - amo (2019)]
Track by Track

1.i apologise if you feel something
ในผลงาน6ชุดที่พวกเขาสร้างสรรค์ขึ้นมา ไม่มีอัลบัมไหนที่มีเพลงIntroก่อนเข้าสู่เพลงในอัลบัม

นี่คือครั้งแรกเลยที่วงได้นำเพลงIntroมาเปิดตัวและเพลงนี้มีความยาวกว่า2นาที

เสียงElectronic Synthesizer ที่มาควบคู่กับเสียงร้องแปลกๆหู ที่เล่าเรื่องถึงความรักที่เสมือนเป็นคุกจองจำหัวใจ
และนำพาเราเข้าไปสู่...........

2.MANTRA
SingleและMVแรกหลังจากที่ห่างหายไปกว่า 3ปี ที่ออกมาในปลายปี2018

ริฟฟ์กีตาร์แบบที่เราคุ้นเคยในช่วงอัลบัมหลังๆของพวกเขา ทำให้เราตื่นตัวกับเพลงทั้งหมดของอัลบัม
เพลงนี้เป็นเพลง Rock,Metalไม่กี่เพลงอัลบัมที่พวกเราจะได้ฟังและโดดกัน

MANTRA พูดถึงลัทธิ หรือทางแยกของการใช้ชีวิตคู่เมื่อเราได้สับสนและกำลังเริ่มรู้ตัวในสถานะที่ใช้ร่วมกัน
มันเป็นเรื่องยากที่จะจบความสัมพันธ์นั้นๆ และเป็นเรื่องใหญ่พอๆกับการเข้าและลาออกจากลัทธิเลย

แรงบันดาลใจของเพลงนี้ได้มาจาก หนังเรื่องโปรดของพวกเขา Wild Wild Countryครับ

3.nihilist blues

แขกรับเชิญคนแรกในอัลบัมนี้ Grimesศิลปินเดี่ยวสาวที่มีดนตรี Synth pop,art popเป็นอาวุธ

และเพลงที่3นี้ก็คืองานชิ้นแรกที่พวกเขาได้ร่วมกันสร้างก็มาในรูปแบบ edm,techno อย่างที่พวกเขาไม่ได้ทำมาก่อน

nihilist blues คืออีกความท้ามทายที่พวกเขาคุ้มค่าที่จะเสี่ยง ด้วยการเรียบเรียงที่แทบจะไม่หลงเหลือเงาของตัวเองอยู่เลย

ผสมผสานไปกับดนตรี Electronic ที่โครตเจ๋ง และเสียงร้องของ Grimesในการเพลงก็โครตจะเข้ากับเพลงนี้ยิ่งนัก

Bring Me the Horizonเสนอตัวเองว่าเป็นพวกแหกคอกทางด้านความเชื่อและศาสนา และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาได้อธิบายถึงความคิดอันสุดโต่ง
ให้แฟนๆได้ฟัง

nihilism ลัทธินัตถิกทิฏฐิ,ความคิดแบบสุญนิยมหรือปรัชยาแห่งคำว่า ช่างแม่ง ถ้าจะนับจริงๆถือว่าเป็นความอิสระทางด้านจิตวิณญาณของปัจเจก บุคคล
เราทุกคนมีสิทธิ์คิดและถือครองคติและอคติของตัวเองได้

ทุกอย่างกำหนดที่ตัวเราเอง

4.in the dark
เธอเห็นสิ่งใดเล่า ในความมืดมิดจิตใจฉัน

เพลงนี้มีไลน์กีตาร์พริ้วๆแปลกหูที่เราไม่เคยได้ยินในบทเพลงของเขา พร้อมทั้งเสียงคีย์บอร์ดที่ผสานรองพื้นได้ดี

เป็นอีกเพลงที่เล่าถึงความสัมพันธ์ของความรัก ที่จบลงไปอย่างไม่สวย

แน่นอนว่าพูดถึงอดีตภรรยาอย่าง Hannah Snowdon ด้วยท่อนและเนื้อเพลงที่เจ็บแสบหลายวรรค
ดังเช่น

Guess my fairytale has a few plot holes
Well, I'm looking on the bright side now
Tryna figure out somehow
(None of this is real, no)

เทพนิยายของฉันคงจะบกพร่อง
ตัวฉันต้องมองโลกใหม่ด้วยตานี้
เลิกเสแสร้งได้แล้วอย่าได้มี
อะไรที่หลอกลวงกันอีกต่อไป

5.wonderful life
Singleที่2ในอัลบัม ที่หลายๆคนชอบรวมทั้งผู้เขียนด้วย

นับได้ว่าเป็นเพลงที่หนักที่สุดในอัลบัมได้เลย ยิ่งได้ Dani Filthตัวแรงแห่ง Cradle of Filthมาร้องด้วยยิ่งทำให้ทวีคูณความยุ่งเหยิงไปอีกเท่าตัว

Oliverเขียนเพลงนี้เสร็จในเวลาอันสั้น อาจจะเป็นเพราะได้ระบายความอัดอั้นทั้งหมดในใจออกมา ถึงความ "มากเกินไป" ที่เขาได้รับในชีวิต

ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ในที่นี้อาจไม่ได้พูดถึงชีวิตที่ประสพความสำเร็จ มีชื่อเสียง มั่งคั่งเงินทอง แต่อาจกล่าวถึงชีวิตที่ไร้ตัวตนสำรับทุกคน

การจากไปโดยที่ยังมีชีวิตอยู่ และใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในที่ๆไม่มีใครรู้จัก อาจเป็นหนทางสุดท้ายที่จะสังเวยชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งชีวิต

หรือเพียงแค่ฝันตื่นหนึ่งก็เพียงพอแล้ว

6. ouch
Electronic, House Music ได้ประเคนใส่โสตประสาทอย่างจัดเต็ม

อยากให้เพลงนี้เป็นมากกว่า Interludeที่คั่นอารมณ์ระหว่างเพลง
เพราะเนื้อหาในเพลงยังคงเป็นการพูดถึงเรื่องเดิมๆ จากอดีตดวงใจของOliverนั่นแหละ

และเพลงนี้คือเค้าโครงเริ่มต้นของ......

7.medicine
Singleที่3 ที่หลายคนฮือฮากัน(อีกแล้ว)
แต่สำรับผู้เขียนบอกได้เต็มปากได้เลยว่าชอบเพลงนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟังและเป็นเพลงที่ชอบที่สุดในอัลบัม

อดนึกถึง Drownที่เป็นเพลงที่ชอบที่สุดในอัลบัมที่แล้วไม่ได้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง
เพลงนี้เป็นเพลงRockที่มีเสียงกีตาร์,เบสและกลองอันเป็นพื้นฐานของเพลงRockทั่วๆไป
และมีเมโลดี ท่อนฮุคสวยๆ ท่อนร้องประสานเท่ห์ๆครบเครื่องในการเล่นสดทุกประการ

แน่นอนว่าไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่จะพูดถึง ภรรยาเก่าแต่คิดว่านี่คือเพลงที่เจ็บที่สุดในการสาดเสียเทเสีย ปรุงยาออกมาและจับกรอกปากไปให้แก่คนที่
เคยได้ป้อนหยูกยาให้นาคราก่อน

เธอควรจะได้รับรู้รสชาติ
ยาที่ฉันเข็ดขยาดเกินทนไหว
ขอโทษที่ตัดสินใจพูดออกไป
เธอคงได้รับรู้ความเจ็บสักที

8.sugar, honey, ice & tea
ริฟฟ์กีตาร์มันส์ๆทำให้หวนนึกถึงหลายเพลงในอัลบัม That's the Spirit และท่อนกีตาร์โซโล่ด้วยเอฟเฟกต์แปลกๆผสานไปกับท่อนว้ากของOliverที่หลายคนถามหา

ถ้าจะพูดถึงสังคมและจะด่าคนที่อยู่ในสังคม ความเหลวแหลกของด้านมืดในใจมนุษย์
เพลงนี้เหมาะมากสำรับทำการนี้ โดยถ้านำตัวย่อของ sugar,honey,ice,teaมาจะเป็นคำว่า
SHIT !

9.why you gotta kick me when I’m down?
Hip hopแบบชัดเจน เต็มๆเท้าราวกับจะเหยียบย่ำความยึดติดและความชอบของแฟนๆรุ่นเก่าให้เละลงไปอีก

เป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่Oliverได้ ประเคนRapออกมาในเพลง ถ้าจะบอกว่าเพลงนี้คือเพลง สบถด่าก็ได้เพราะนี่แหละคือการพูดจากันแบบกุ๊ยๆ
ของOliverกับผู้คนที่เข้ามาสอใส่เกือกกับชีวิตของพวกเขามากเกินไป

เพลงนี้ค่อนข้างหยาบคายและมีความกวนแต่ก็ยังดีที่พวกเขาไส่เสียงร้องประสานของเด็กเข้าไปยิ่งทำให้เจ็บจี๊ดเข้าไปอีก (เหมือนโดนเด็กหลอกด่า?)

โดยกลุ่มเด็กๆที่มาร้องประสานในเพลงนี้ได้มาจากกลุ่มChoir NoirและBrightwalton Primary School Choir ครับ

10. fresh bruises
Interlude อีกชิ้นที่ถ้าจะนับก็คือเพลงที่3เข้าไปแล้ว (ไม่เคยเห็นอัลบัมRockวงไหนมีInterludeเยอะเท่านี้)

เพลงElectronic ที่ชวนให้ขยับกันพอประมาณแบบ Lo-fi Electronic, Avant-garde

โดยเนื้อเพลงทั้งหมดของเพลงมีทั้งหมด2ประโยคถ้วนนั่นก็คือ

Don’t you try to fuck with me

Don’t you hide your love

ซึ่งแน่นอนว่าเป็นประโยคที่ Oliverกล่าวกับAlissa นั่นแหละ
เป็นการปรับอารมณ์ก่อนที่เราจะไปหวานกับ..........

11. mother tongue
ดนตรีRockคือดนตรีที่จริงใจที่สุด เมื่อผสานกับเพลงรัก ทำให้เกิดเพลงรักที่จริงใจที่สุด

นี่อาจไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทำเพลงรักออกมา หลังจากที่เคยทำ Follow YouในThat's the Spiritมาแล้ว
แต่เพลงนี้มีความหวานหยดย้อยกว่าเพลงที่ผ่านมาหลายเท่า

ปฏิเสธไม่ได้ว่า1ในแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดเพลงนี้ขึ้นมาคือ Alissa Salls คนรักของOliverนั่นเอง

โดย mother tongue นี่มีความหมายก็คือภาษาแม่ของเราที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เราเติบโตนั่นเอง และอาจมีผลต่อความคิด ความเข้าใจ การใช้ชีวิตและวัฒนธรรมต่างๆที่ติดตัวมากับAlissaจนได้มาพบกับOliver และก่อให้เกิดเพลงรักที่หลายๆคนชอบในอัลบัมนี้ขึ้นมาครับ

เพลงนี้คือหัวใจหลักของอัลบัมamoจริงๆครับ

12.heavy metal
เบสที่เป็นเสียงจากSamplingในเพลงผสานกับริฟฟ์กีตาร์ในต้นเพลงควบคู่ไปกับเสียงซินธิไซเซอร์กวนๆโสดประสาทโดยรวมแล้วก็ได้เพลงกวนๆมาเพลงหนึ่ง

ความกวนประสาทนั้นมาตั้งแต่ชื่อเพลงแล้ว ด้วยเครื่องดนตรีที่เป็นElectronicขัดกับชื่อเพลงยิ่งนัก
เพลงนี้ทำมาเพื่อสับขาหลอกแฟนๆเพลงที่โหยหาดนตรีหนักข้อในแบบที่พวกเค้าเคยเป็น
และอาจจะผิดหวังคอตกไปพอๆกัน

เพลงนี้ได้ร่วมงานกับ RahzelอดีตสมาชิกจากThe Rootsมาช่วยRapและBeat Boxในเพลงที่ไม่มีใครคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นในเพลงของพวกเขา
โดยรวมแล้วทำได้ออกมาเท่ห์และน่าสนใจเกินคาดครับ

13. i don’t know what to say
ความอลังการของเปียนโน,ออเครสตร้าเครื่องสายแบบเต็มวงผนวกกับกีตาร์อะคูสติคและความเป็น Bring Me the Horizon

ทำให้เกิดอีกเพลงที่จะเป็นอีก1หลักไมล์ของพวกเขาในอนาคต

โดยเพลงนี้แต่งขึ้นมาจากเพื่อนของพวกเขาที่ชื่อAidan ที่จากไปด้วยโลกมะเร็ง โดยความรู้สึกผิดและละอายเกิดมาจากสภาวะหน้าที่การงานใน
ช่วงนั้นที่ไม่ได้อยู่เคียงข้างและบอกลากับเพื่อนเขาเป็นครั้งสุดท้าย และเพลงนี้คือการเอาคำพูดนับล้านที่อยู่ในหัวเค้าเขียนออกมาเพื่อนสื่อถึงเพื่อน
ว่าเขาควรจะพูดอะไรเป็นครั้งสุดท้าย

amo ถือเป็นอีกก้าวที่โครตจะเสี่ยงแต่ก็คุ้มค่ากับหลายอย่างที่ได้รับ

พวกเขาเติบโตขึ้นจากความเสี่ยงที่ถาโถมเข้ามาในทุกๆที่ดนตรีของพวกเขาไปถึง

โดยความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจทำให้หลายๆคนที่เคยติดตามพวกเขามาตั้งแต่แรกโบกมือลาเลิกติดตามกันไป

เชื่อเถอะว่าในทุกๆครั้งที่ความเปลี่ยนแปลงได้ก้าวเข้ามาสู่ชีวิตนักดนตรี อาจจะมีการสูญเสียเพื่อนร่วมทางไปบ้าง

แต่มั่นใจเสียเถอะว่าในขณะที่พวกเขาได้สูญเสียพวกเขาจะได้รับผู้ร่วมทางกลุ่มใหม่ๆเข้ามาทดแทน
ดั่งที่คนที่พวกเขาและอีกหลายคนเคารพได้เคยกล่าวเอาไว้นั่นเอง


6
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


Sleeping With Sirens - Let Love Bleed Red
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jan 2010
ตอบ: 94
ที่อยู่: The Past/The Love/The Memoires
โพสเมื่อ: Wed Feb 13, 2019 22:59
[RE: [REVIEW] Bring Me the Horizon - amo (2019)]
เปิดเพจแล้วนะครับ ยังไงติดตามผลงานเขียนของผมที่
https://www.facebook.com/neighbormusicreview/


นะครับ ขอบคุณมากแล้วเจอกัน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


Sleeping With Sirens - Let Love Bleed Red
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 1346
ที่อยู่: Cobham
โพสเมื่อ: Thu Feb 14, 2019 01:17
[RE: [REVIEW] Bring Me the Horizon - amo (2019)]
ผมชอบนะ ถือว่าเป็นการบำบัดเสียงโอลิไปในตัวกับบั้มนี้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
chelsea fc & leeds united

ออฟไลน์
PGM
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 10078
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 14, 2019 03:30
[REVIEW] Bring Me the Horizon - amo (2019)
ชอบเป็นบางเพลง อันไหนยังเน้นร็อคอยู่จะถูกปากถูกคอหน่อย แต่อันไหนที่อิเล็กโทรจ๋าเลยอันนี้จะไม่ชอบ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2093
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 14, 2019 08:24
[RE: [REVIEW] Bring Me the Horizon - amo (2019)]
- พอวงเปลี่ยนแนว ผมกลับกลายเป็นไม่ชอบเพลงหนักๆของวงแทนแฮะ อย่าง MANTRA, Wonderful Life นี่ผมว่าริฟท์มันหนืดๆ หน่วงๆ ฟังแล้วอึดอัด
- Wonderful Life นี่ผมกลับมองว่าใช้ Dani Filth ได้เสียของมากนะ คือพอเห็นชื่อตอนแรกยอมรับว่าคาดหวังไว้เยอะ
- ตอนนี้ใช้ Mother Tongue เป็น ringtone ชอบมาก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status: Flying Dead
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Apr 2006
ตอบ: 1601
ที่อยู่: ทะเลสีฟ้า
โพสเมื่อ: Thu Feb 14, 2019 09:03
[RE: [REVIEW] Bring Me the Horizon - amo (2019)]
พึ่งรู้ว่า sugar honey ice tea หมายถึง shit
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
อบรมขอไลเซนส์
Status: Now or Never
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Dec 2014
ตอบ: 14885
ที่อยู่: Emirates Hospital
โพสเมื่อ: Thu Feb 14, 2019 10:26
[RE][REVIEW] Bring Me the Horizon - amo (2019)
รุ้สึกแปลกๆ ยังโอเคกะ MANTRA อยุ่
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ARS x BVB x MTUTD x CELTICS x PATRIOTS

"ONCE A GOONER ALWAYS A GOONER"
"DO YOUR JOB"
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Jan 2007
ตอบ: 320
ที่อยู่: บางใหญ่
โพสเมื่อ: Thu Feb 14, 2019 10:57
[RE: [REVIEW] Bring Me the Horizon - amo (2019)]
ขอบคุณครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โลกนี้อะไรกันนักกันหนาเดี๋ยวก็ตายห่ากันหมดแล้ว



ออนไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Nov 2010
ตอบ: 20464
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 14, 2019 13:24
[RE: [REVIEW] Bring Me the Horizon - amo (2019)]
ผมชอบนะอัลบั้มนี้แต่ก็คิดถึงเพลงแบบในอัลบั้มที่มีเพลง shadow moses เหมือนกัน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน





ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel