คือเอาจริงๆผมเห็นทุกครั้งที่บอลแพ้นักเตะกลับได้รับคำชมว่าทำเต็มที่แล้ว โค๊ชนั่นแหละผิดอย่างนั้นอย่างนี้ สำหรับผมๆว่ามันโคตรไม่ยุติธรรม หลายๆครั้ง(ไม่สิ) ใช้คำว่าทุกครั้งในนามทีมชาติผมมักจะเห็นถึงความไม่เป็นมืออาชีพ และความด้อยพัฒนาทางความคิดของนักเตะทีมชาติหลายๆคน ที่มักจะคิดอยู่เสมอว่ากรูนี่แหละเก่ง กรูนี่แหละเทพ หรือแม้กระทั่งเล่นให้ทีมชาติไม่ได้เงินจะทุ่มเทเต็ม 100 ไปทำไม? ทำไมผมถึงพูดแบบนี้นั่นก็เพราะกับทีมชาติไทยชุดหลัง ผมไม่เห็นถึง passion หรือไทยๆก็คือ อารมณ์ร่วมในเกมส์ เลยแม้แต่นิดเดียว
ในขนาดที่กองเชียๆกันอย่างสุดเสียงและบ้าคลั่ง อยากที่จะเห็นการคัมแบคกลับมาชนะหรือแม้แต่เพียงเสมอของทีมชาติไทยที่ทุกคนเกิดมา แต่สิ่งที่แฟนบอลอย่างผมเห็นคือใจที่ไม่รู้ว่าเหลือถึง 10% รึเปล่ากับการก้มหน้ารับชะตากรรมทั้งๆที่โอกาสและเวลามันยังมีให้สู้.

อันที่จริงผมไม่ได้อยากจะยกเวียดนามมาเปรียบเทียบแต่เวียดนามคงเป็นตัวอย่างที่สามารถเปรียบเทียบได้เห็นภาพมากที่สุด
1.นักเตะเวียดนามกับไทยรูปร่างไม่ได้ต่างกัน กลับกันไทยรูปร่างดีกว่าด้วยซ้ำ
2.นักเตะทั้งเราและเขาความสามารถไม่ได้ต่างกันกลับกันผมมองว่าไทยยังขี่อยู่ด้วยซ้ำ
แต่ประเด็นหลักที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงนั่นคือเมื่อเขาสวมยูนิฟอมทีมชาติใจและความทุ่มเทที่อยากจะทำเพื่อชาติมันเกิน 100% ถึงใครจะบอกว่าเขาได้โค๊ชที่เก่ง ใช่ข้อนี้ผมไม่เถียง แต่ผมอยากจะถามกลับไปว่าตลิดเวลาหลายปีที่ผ่านมาเราไม่มีโค๊ชที่เก่งเลยหรอ หรือเพียงเพราะปัญหาเรื่องทัศนะคติ และ ความไม่เป็นมืออาชีพของนักเตะไทยกันแน่.

ปล1.สำหรับคนที่บอกว่าอยากได้โค๊ชเกาหลี ญี่ปุ่นผมว่าสมาคมจัดให้ได้ไม่ยาก แต่แน่ใจแล้วหรอว่านักเตะเทวดาของทีมชาติเราจะรับกับกฏระเบียบของมืออาชีพได้
ปล2.ที่ผมพูดมาทั้งหมดถึงจะยาวหน่อยแต่ก็อยากให้ลองอ่านกันดูว่าจริงๆแล้วเราสมควรจะโทษโค๊ชหลายๆคนได้เต็มปากแบบ 100% ว่าใช่พวกเขานั่นแหละคือคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมดทุกสิ่งอย่าง.

อะไรของคุณนักเตะเขาก็สู้กันสุดๆล่ะ รอบแรก 2 นัดนั้นไม่เห็นเหรอไง ถ้าจะตำหนิก็ตำหนิเป็นบางคนดีกว่าป่ะ มาบอกว่านักเตะไม่ทุ่มเทไม่เข้าเรื่องเลย โดมันวิ่งๆอยู่นั้นนี่คือไม่ทุ่มเท ???

อะไรของคุณนักเตะเขาก็สู้กันสุดๆล่ะ รอบแรก 2 นัดนั้นไม่เห็นเหรอไง ถ้าจะตำหนิก็ตำหนิเป็นบางคนดีกว่าป่ะ มาบอกว่านักเตะไม่ทุ่มเทไม่เข้าเรื่องเลย โดมันวิ่งๆอยู่นั้นนี่คือไม่ทุ่มเท ???

นัดที่เจอยูเออี

คุณเห็นเจไหม มันวิ่งสู้แบบยอมตายคาสนามเลยนะ ขนาดก่อนเกมมันเป็นไข้นะ

คุณเห็นโด เห็นอุ้ม เห็นนิวไหม

ผมว่าถ้าไม่นับนัดแรก ที่แพ้ สามนัดหลังรวมวันนี้ทุกคนสู้ตายแล้วนะ

วันนี้แพ้จีนก็แพ้แบบสู้ได้ ไม่ได้ห่างเลย

จุดเปลี่ยนคือลูกจ่ายของชนานันท์ ลูกเดียวจริงๆ

พอเจอลูกนั้นไปทีมช๊อตเลย

จีนนะครับ เค้าทุ่มงบไปเป็นหมื่นๆล้าน

และกุนซือเค้าคือลิปปี้ ไม่ใช่หมูๆ

ผมว่าผมใช้คำว่านักเตะหลายๆคนนะไม่ได้บอกว่าทุกคนถ้าคุณพูดถึงสองนัด แล้วรอบแรกมีสามนัดๆแรกคุณจะบอกว่านักเตะทุ่มเทเต็มที่ ? แล้วถ้าไม่มันเป็นเพราะอะไรเพราะไม่ชอบโค๊ช ? งั้นแปลการที่เราจะเห็นนักเตะทีมชาติทุ่มเทเต็ม 100 ก็ต่อเมื่อเขาได้โค๊ชคนที่เขาชอบงั้นหรอครับ

ผมเข้าใจที่คุณพูดนะ และถ้าตามที่คุณพูดมาว่ายกเว้นนัดแรกแล้วทำไมคำตอบมันไม่เป็นว่าทุ่มเททุกนัดหละครับ ถ้าเป็นเพราะไม่ชอบ ไม่พอใจโค๊ชเลยไม่เต็มที่ นั่นไม่ได้หมายถึงความไม่มืออาชีพหรอครับ

นั่นแหละคือสิ่งสำคัญที่สุด มืออาชีพ

คุณเคารพในอาชีพของคุณหรือยัง วันที่คุณเล่นให้สโมสร คุณได้เงินเดือนคุณทำเต็มที่ คุณเคารพในอาชีพของคุณ ที่เหลือผมไม่อยากเอ่ยถึง

คุณ​เห็นโด มิก้า ฐิติ​พันธ์​ วิ่งไหม​ เขาทุ่มเทขนาดนี้ยังจะไปว่าเขาอีก​ เราเต็มที่แล้วแต่ความสามารถ​เราได้แค่นี้​ แล้วก็ความผิดพลาด​ส่วนบุคคล​ เราก็ต้องยอมรับแล้วไปพัฒนา​ต่อ

"ผมมักจะเห็นถึงความไม่เป็นมืออาชีพ และความด้อยพัฒนาทางความคิดของนักเตะทีมชาติหลายๆคน ที่มักจะคิดอยู่เสมอว่ากรูนี่แหละเก่ง กรูนี่แหละเทพ หรือแม้กระทั่งเล่นให้ทีมชาติไม่ได้เงินจะทุ่มเทเต็ม 100 ไปทำไม?"

ยกตัวอย่างหน่อยได้ไหม ว่านักเตะหลายๆคนที่ท่านพูดถึงคือใครบ้าง? ขอหลักฐานด้วยนะครับ

ถ้า ยกตัวอย่าง บทสัมภาษณ์ ของ โด มา โดวิจารณ์ราเยวัชจริง
และเป็นการกระทำที่ไม่ควรอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า โด ลงไปในสนามแล้วไม่เต็มที่

1.ผมไม่ได้บอกว่าทุกคนไม่ทุ่มเท 2.ผมไม่ได้บอกว่าผมไม่ยอมรับและทีมชาติไทยเป็นทีมที่แพ้ไม่ได้ 3.ถ้าคุณมองว่าความสามารถเราได้แค่นี้งั้นผมขอถามกลับเวียดนามเขาความสามารถดีกว่าเรามากเลยหรอครับ 4.ย้อนกลับไปอ่านอีกซักครั้งผมไม่เคยบอกว่าเราอ่อน และ ดูถูกความสามารถนักเตะตัวเอง แต่ที่ผมพูดถึงคือความเป็นมืออาชีพของนักเตะเรามันมากพออย่างที่ควรจะเป็นรึยัง.

ไม่ต้องยกอื่นไกล เกมส์กับ อินเดีย เทียบกับนัดอื่นนี้ชัดเจนมากเลยว่า นักเตะไทยหลายคนมีการเตะไล่โค้ช ไม่เว้นแม้แต่ โด๋ ในนัดนั้นด้วย

แล้วทัศคติแบบนี้ ผมยังคิดไม่ออกเลย จะเอาโค้ชเกาหลี โค้ชญี่ปุ่น นักเตะเราจะทนกับกฏระเบียบเข้มงวดได้สักกี่น้ำ ชะรอยจะเป็นแบบราเยวัชอีกสิครับ

ส่วนตัวผมนะ ผมอยากให้จ้างโค้ชเกาหลี โค้ชญี่ปุ่น มาสักที พวกสมาคมจะได้ตาสว่างวาบๆ ในเรื่องนี้เสียที อยากเปลี่ยนให้ยืนตำแหน่งเป๊ะ เพรสซิ่งมีระบบใช่ไหม เดี๋ยวดูได้เลยเมื่อถึงทัวร์จริงอย่างบอลโลก รอบคัดเลือก ครั้งที่สอง

งั้นผมขออนุญาติยกตัวอย่างโดยไม่เอ่ยชื่อละกันนะครับ ส่วนหลักฐานผมคงไม่สามารถมีให้ได้เอาเป็นว่าผมเคยติดต่อกับคนทำงานภายในชุดนี้ตั้งแต่ที่ราเยวัชเข้ามารับงานช่วงแรก 1.นักเตะกองกลางที่กำลังจะได้ไปเล่นต่างแดนเป็นครั้งแรกที่มักจะหนีแคมป์ออกไปเที่ยว และกลับมาถึงแคมป์เช้าและต้องบอกทีมแพทย์ว่าตัวเองป่วยเพราะร่างกายไม่สามารถจะทำการฝึกซ้อมได้ 2.นักเตะกองกลางสายติสที่บาดเจ็บจนต้องถอนตัวกลับประเทศที่ออกไปกับนักเตะจากข้อที่ 1 และประสบปัญหาเดียวกัน 3.นักเตะกองกลาง อเมสซิ่ง ไทยแลนด์ที่ครั้งนึงป่วยเป็นหวัดแต่ต้องการจะบินกลับประเทศก่อน ทั้งๆที่ทีมงานโค๊ชขอให้อยู่และบอกว่าทีมแพทย์พร้อมทุกอย่าง แต่ก็ยังยืนกรานจะกลับเพราะจะได้กลับมาฉลองวันเกิดกับแฟนสาว
ปล.ถ้าถามหาหลักฐานภาพถ่ายหรือคลิปเสียงการสนธนาผมคงไม่มีให้ครับ และโปรดใช้วิจารณยานส่วนตัวของท่านเอง
ปล2.นี่เป็นส่วนนึงที่ผมพูดถึงความไม่เป็นมืออาชีพ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะลงไปเล่นทุ่มเทแต่ผมคิดว่าท่านคงไม่ปฏิเสทว่าเรื่องแบบนี้มันทำให้บรรยากาศในทีมเป็นไปในทิศทางไหน และ มืออาชีพเขาทำแบบนี้กันหรือไม่

คนอื่นว่าไงไม่รู้นะ แต่ผมเห็นด้วยกับคุณ

ก็แล้วมันจริงไหมล่ะครับ ทำไมราเยวัชคุมถึงไม่วิ่งเป็นม้าแบบนี้ คำตอบมันก็มีอยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร แมนยูฯตอนมูคุมไม่เห็นมันเล่นดีแบบนี้เลย ยอมรับไปเลยแบบแมนๆว่าโค้ชมันทำให้นักเตะหมดความเชื่อมั่นคือเรื่องจริง ต้องมาดูด้วยว่าทำไมโค้ชถึงซื้อใจนักเตะไม่ได้ มันก็เหมือนลูกน้องไม่ให้ใจหัวหน้า ถ้าหัวหน้างานสร้างความเชื่อมั่นให้ไม่ได้ รู้ว่าทำแบบนี้แล้วมันห่วยแต่ก็ยังฝืนให้ทำ ใครเขาจะอยากทำ อารมณ์มันก็ประมาณนี้ งั้นทีมที่เปลี่ยนโค้ชเพราะผลงานแย่ ก็แปลว่านักเตะทีมนั้นคือนักเตะที่ไม่มืออาชีพเหรอ

ก่อนอื่นผมกดแผล่บให้คุณนะสำหรับความเห็นนี้

แต่ ข้อ1 ถ้ามันหนีเที่ยวจริง แล้วเล่นได้ขนาดนั้น วิ่งขึ้นสุดลงสุด แล้วยังยิงประตูได้ด้วย

ก็ให้มันไปเที่ยวเถอะครับ

ข้อ 2 กองกลางสายติส บุสเกตจีนแดง รึเปล่าครับ

ถ้าคนนี้ก็คงมาได้แค่นี้จริงๆ ตั้งแต่หายเจ็บกลับมา

สำหรับผมโค๊ชคือโค๊ชหน้าที่ของเขาคือเป็นหัวเรือใหญ่ในการนำทัพออกศึก หน้าที่ของนักเตะคือทำตามที่แม่ทัพสั่งถ้ามันจะตายก็คือการตายในหน้าที่ ไม่ใช่กบฏ งั้นถ้าตามที่คุณพูดนั่นหมายความว่าทีมจะต้องเปลี่ยนโค๊ชไปเรื่อยๆเมื่อวันดีคืนดีนักเตะก็ไม่เชื่อมั่นในโค๊ชขี้นมา และ อีกอย่างที่คุณบอกเมื่อหัวหน้าสร้างความเชื่อมั่นไม่ได้ลูกน้องก็ไม่อยากทำ แต่ในความเป็นจริงลูกน้องรึเปล่าที่ลืมไปว่าหน้าที่ของตัวเองคืออะไรตอนยื่นใบสมัครงานคุณยื่นความสามารถด้านไหน และลืมไปอีกรึเปล่าว่าคุณรู้แต่แรกว่าต้องทำงานกับหัวหน้าคนนี้