นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Apr 2006
ตอบ: 967
ที่อยู่: Ratchayothin
โพสเมื่อ: Sun Jan 20, 2019 13:29
บทสรุป มิโลวาน ราเยวัช กับทีมชาติไทย
สิ่งทำให้ราเยวัชชะตาขาดคือเลือกเล่นเกมรุกในแบบที่ตัวเองไม่ถนัด
หลังจากสมาคมออกมาชี้แจงว่าการปลดราเยวัชมาจากข้อตกลงที่ทำกันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ผมกับถึงบางอ้อ กับสิ่งที่เห็นทั้งหมดในเกมส์กับอินเดีย
ภาพก่อนเกมจะเริ่ม เป็นภาพที่ราเยวัชยืนสีหน้าอมทุกข์พลางหันไปพยักหน้ากับกลุ่มสตาฟฟ์อารมณ์ว่า "เอาวะ เป็นไงเป็นกัน" ยังอยู่ในหัวผมอยู่เลย
มันเหมือนปมมาคลี่ตอนจบว่า ทำไมราเยวัชถึงจัดเต็มตัวรุกถึง 5 ตัว มุ้ย กอล์ฟ อาร์ม แถมด้วยเจกับแคมป์ ซึ่งแผนนี้มันดูไม่ใช่ราเยวัชเอามาก ๆ (แต่ถูกใจสายเอ็นเตอร์เทนบางคน) อารมณ์เหมือนเปิดหน้าแลกแบบจะยิงให้ตายกันไปข้างนึง
Pressure ตรงนี้เดาไม่ยากว่ามันคือแรงบีบจากความล้มเหลวใน AFF ที่สมาคมน่าจะเตรียมรอเชือดด้วยเงื่อนไขที่ว่า "ถ้าไม่ชนะ เอ็งเก็บของกลับบ้านพร้อมรถบัสไปได้เลย" แล้วสภาพก็อย่างที่เห็น ลงไปโดน ซูนิล เชตรี ที่รับบทพระเอกบอลลีวู้ดพร้อมลูกน้อง ไล่ขย่มกองทัพบางระจันเละเทะแบบงงกันไปทั้งเอเชีย พร้อมทั้งการถอดเอาซุปตาร์ชาวไซย่าอย่าง เจ ชนาธิป ออกตั้งแต่กลางครึ่งหลังซะด้วย (พังแล้วมันต้องพังให้สุด)
อีกข้อนึงผมว่าจะไม่เขียนแต่อดไม่ได้ เพราะก็เป็นอีก 1 ข้อผิดพลาดของราเยวัชที่ดันทุรังใช้ ฉัตรชัย บุตรพรหม เฝ้าเสาต่อ ทั้งที่ตอน AFF ก็ไม่ได้สร้างความประทับใจอะไรให้เห็นเลย (มีดราม่าแถมมาด้วย) ทั้งที่ยังมีโกล์ประสบการณ์สูงจากเวที ACL อย่างศิวรักษ์นั่งตูดด้านเป็นตัวเลือกอีกทั้งคน
การปลดราเยวัชในวันรุ่งขึ้น เสียงแตกออกไปหลายทิศทาง แต่ที่แน่ ๆ ถ้า 2 เกมที่เหลือยังแพ้เละเทะต่อเนื่อง สมาคมโดนสื่อและโซเชียลอัดเละแน่นอน ว่าปลดกลางคันแบบนี้ใครเค้าทำกัน ทำไมไม่ปลดไปตั้งแต่หลัง AFF หรือ ทำไมไม่รอให้จบทัวร์นาเม้นก่อนแล้วค่อยเชือด แต่กลายเป็นว่าการตัดสินใจครั้งนี้ คือการพลิกทุกอย่าง พลิกโฉมระบบไทยแบบเดิม ๆ ถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่โหดเหี้ยมปลดโค้ชกลางทัวร์นาเม้น ซึ่งผมว่านี่คือหนึ่งในการทำงานในแนวทางใหม่ ๆ ที่คนไทยอยากเห็น และมันก็ส่งผลบวกเต็ม ๆ กับการเห็นทีมได้เข้ารอบน็อคเอ๊าท์ ในแบบที่ไม่ต้องมานั่งลุ้นปัสสาวะเหนียวกับการลุ้นผลอันดับ 3 จนถึงวินาทีสุดท้ายของรอบแรก
ทั้งนี้ทั้งนั้น ถึงแม้ว่าราเยวัชจะเอาชื่อมาทิ้งในแบบที่ไม่น่าจะมีทีมชาติไหนในเอเชียกล้าจ้างแกไปคุมอีกแล้ว แต่อย่างน้อยแกก็สร้างอะไรใหม่ๆ ให้กับทีมชาติในแบบฉบับแฟนบอลอย่างผมไม่เคยเห็นตลอดการดูบอลไทยมาเกือบ 30 ปี และตัวผมเองก็อยากให้โค้ชไทยที่เข้ามาทำทีมชาติรักษาตรงนี้เอาไว้
- การเล่นลูกตั้งเตะ
ถ้าเป็นแต่ก่อนโยนไปแทบไม่เคยได้ลุ้น แต่ยุคนี้กลายเป็นว่า เราเล่นลูกกลางอากาศได้ดีกว่าคู่แข่งที่ตัวใหญ่กว่าเสียอีก ตรงนี้สำคัญมากในการเล่นบอลทัวร์นาเม้นแบบนี้ แล้วมันเปลี่ยนความคิดที่ฝังหัวผมมาตลอดว่า ไทยไม่มีทางได้ประตูจากลูกเซตพีซและลูกโหม่งแน่นอนถ้าเล่นในระดับเอเชีย
- ระบบเกมรับ
ไทยเรามีระบบเกมรับที่ชัดเจน โดยเฉพาะการจัดการกับลูกกลางอากาศ คำว่าเราเสียเปรียบในการเล่นลูกกลางอากาศก็ได้ยินน้อยมาก และการมาร์คตัวผู้เล่นก็ดูมีความชัดเจนมากขึ้น การหลุดตำแหน่งในแผงหลังมีให้เห็นน้อยลง
- ปลุกทรัพยากรใหม่ ๆ ในทีมชาติ
การ scout เกมในลีก ให้เป็นตัวหลักของทีมชาติได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง พรรษา เหมวิบูลย์,เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, ศุภชัย ใจเด็ด และปลุกฟอร์มของ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่เหมือนจะไม่มีพื้นที่ในทีมชาติ ให้กลับมาเป็นร่างใหม่ที่กลายเป็นหัวใจของทีมไปแล้ว
- ถ่ายทอดวิชาให้โค้ชโต่ย
การได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับมืออาชีพระดับสากลเป็นระยะเวลาปีครึ่ง น่าจะได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก ๆ ทั้งแนวคิด ระบบการซ้อม แทคติกต่าง ๆ จากผลงาน 2 เกมล่าสุด ผมว่าแกก็น่าจะซึมซับเอาวิชาที่ได้มาย่อยให้เป็นสไตล์ของตัวเองได้ไม่ยาก แถมมีโค้ชโชคที่บุคลิกแกซื้อใจนักเตะได้ มีแววว่าน่าจะได้คุมทีมต่อยาวถึงคัดบอลโลกแน่ ๆ
ขอขอบคุณสำหรับท่านที่อ่านจนจบนะครับ เป็นคหสต. เล็ก ๆ จากแฟนบอลไทยคนนึง แน่นอนว่าต้องมีจุดที่เห็นไม่ตรงกับท่านอื่น ๆ แชร์มุมมองกันได้ครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Fredrik เมื่อ Sun Jan 20, 2019 13:32, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
Canto Canto