ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ประกาศยุติการร่วมงานกับ เดวิด ว๊ากเนอร์ กุนซือคู่บุญด้วยความยินยอมทั้งสองฝ่าย

เทรนเนอร์วัย 47 ปีเข้ามาทำ 'เดอะ เทอร์เรียร์ส' ตั้งแต่พฤศจิกายน 2015 ใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่งก็นำทีมเลื่อนชั้นจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ

ฤดูกาลที่แล้ว ฮัดเดอร์สฟิลด์ โลดแล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีกอีกครั้งในรอบ 45 ปีและ ว๊ากเนอร์ ก็โชว์ฝีมือพาทีมจบอันดับ 16 รอดตกชั้นได้อย่างเหนือความคาดหมาย

กระนั้นพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ผ่านไป 22 นัด ฮัดเดอร์สฟิลด์ ย่ำแย่หนักมากมีแค่ 11 แต้มจมบ๊วยคะแนนห่างจากโซนปลอดภัยถึง 8 แต้ม

ล่าสุด ฮัดเดอร์ฟิลด์ ประกาศว่าสโมสรกับ ว๊ากเนอร์ ตกลงแยกทางกันหลังจากเจ้าตัวหารือกับบอร์ดบริหารอย่างละเอียดนำมาซึ่งบทสรุปในครั้งนี้

ดีน ฮอยล์ ประธานสโมสรกล่าวว่า "ก่อนอื่นผมขอขอบคุณเดวิดสำหรับความสำเร็จทั้งหมดของเขากับฮัดเดอร์สฟิลด์ตลอด 3 ปีครึ่ง"

"ภายใต้การนำของเขาเราบรรลุเป้าหมายต่างๆในสนามซึ่งก้าวข้ามความทรงจำทั้งหมดในยุคโมเดิร์นของเราและไปไกลยิ่งกว่าความคาดหวังอันเพ้อฝันของผมในฐานะประธานสโมสรและแฟนบอลคนนึง"

"ภายใต้การนำของเดวิดเราพาสโมสรนี้จบอันดับสูงสุดในรอบเกือบ 50 ปีและสร้างความทรงจำที่จะคงอยู่ตลอดไป"

"ความสำเร็จของเขาจะทำให้เขาอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ฮัดเดอร์สฟิลด์เคียงข้างผู้ยิ่งใหญ่อย่างเฮอร์เบิร์ต แชปแมนและมิค บักซ์ตันเหล่าตำนานผู้จัดการทีมซึ่งเปลี่ยนโฉมหน้าสโมสรแห่งนี้"

"อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ผมไม่คิดที่จะปลดเดวิดซีซั่นนี้เลย ต่อมาเดวิดซึ่งก็ยังเป็นคนที่ยอดเยี่ยมเหมือนเคยมาบอกกับเราตรงๆว่าเขาต้องพักจากความเคร่งเครียดในการคุมทีมฟุตบอล"

"เราหารือกันถึงการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันแต่เขาก็บอกเลยนะว่าจะทุ่มสุดตัวไปจนจบซีซั่นนี้แล้วค่อยแยกทางกันช่วงซัมเมอร์ก็ได้หากเราต้องการ"

"หลังจากปรึกษากันอยู่นานเรารู้สึกเหมือนกันหมดว่าให้เดวิดอยู่ต่อจนจบซีซั่นนี่แหละดีสุดแต่เรายังเปิดประเด็นไว้ตลอดจนมาตอนนี้เรารู้สึกเหมือนกันหมดว่าถึงเวลาต้องแยกทางกัน"

"ผมรู้ว่าความหมายอ้อมๆของคำว่า 'ยินยอมทั้งสองฝ่าย' สำหรับผู้จัดการทีมที่มักใช้กันก็คือไล่ออกนั่นแหละแต่ครั้งนี้คือการตัดสินใจร่วมกันอย่างแท้จริง"

"เดวิดรักสโมสรนี้อย่างจริงใจและก็เหมือนกับผมตรงที่ความเป็นห่วงอย่างแรกของเขาในการหารือกันของเราคือเพื่อให้สโมสรได้ในสิ่งที่ดีที่สุด"

"ผมขอบคุณเดวิดเท่าไหร่ก็ไม่พอสำหรับความสำเร็จจากเขา เขาและครอบครัวจะเป็นเพื่อนกับผมและฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ตลอดไป"

ฮอยล์ ทิ้งท้ายว่า "มันคือวันที่น่าเศร้าแต่เราต้องมองถึงอนาคต นี่แหละฟุตบอล สถานการณ์มันบีบด้วย"

"ผมขอให้มาร์ค ฮัดสันคุมทีมในเกมพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์นี้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไปก่อน เขารู้ดีที่สุดว่าเราเล่นอย่างไรและรู้จักนักเตะในทีมเขาจึงเหมาะสมกับงานนี้สุด พวกเราและทีมงานฝ่ายเทคนิคจะช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่ก่อนเกมนี้"

มาเป็นผู้ช่วยคล็อปจนจบฤดูกาลก่อนได้ไหม

รับสปอร์ตฮีโร่ไหมครับ ผู้จัดการทีมคนนี้เป็นถึงอดีตนักเตะทีมสำรองของฮัดเดอร์ฟิลเลยนะครับ

ผมชอบสโมสรนี้ ชอบสิ่งที่ชาวเมืองทำตอนทีมได้เลื่อนชั้น ชอบผู้จัดการทีม ชอบความอบอุ่น จึงไม่อยากให้สโมสรเล็กๆนี้ตกชั้นไปเลย

ถ้าอ่านเนื้อหาบทความของข่าวนี้ จะรู้ว่าจบกันด้วยดีจริงๆ เห็นตรงกันทั้งสองฝ่ายจริงๆ ไม่ใช่คำสวยหรูของคำว่าไล่ออก แต่ทั้งสองเห็นตรงกันว่าจะทำยังไงให้สโมสรแห่งนี้เกิดผลดีที่สุด

จะโดนบอลเปลี่ยนโค้ชป่ะเนี่ย

เดวิดอยู่จนจบ ซีซั่นครับแต่พักคุมเกมกับแมน ซิตี้ก่อน

นี่มุก คุณอ่านเข้าใจผิด หรือ ผมเข้าใจคุณผิดวะเนี่ย 55555 งง

โชคดีครับ พรีเมียร์มันโหดร้าย

เหะ รึผมเข้าใจผิด

ใช่ครับ เข้าใจผิดอย่างแรงด้วย 555 เขาปลดออกเลยครับ ไม่มีที่ไหนปลดออฟฟิเชี่ยลขนาดนี้ให้พักนัดนึงแล้วกลับมาคุมต่อหรอกครับ

ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ประกาศยุติการร่วมงานกับ เดวิด ว๊ากเนอร์ กุนซือคู่บุญด้วยความยินยอมทั้งสองฝ่าย

"ผมขอให้มาร์ค ฮัดสันคุมทีมในเกมพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์นี้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไปก่อน เขารู้ดีที่สุดว่าเราเล่นอย่างไรและรู้จักนักเตะในทีมเขาจึงเหมาะสมกับงานนี้สุด พวกเราและทีมงานฝ่ายเทคนิคจะช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่ก่อนเกมนี้"

"เราหารือกันถึงการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันแต่เขาก็บอกเลยนะว่าจะทุ่มสุดตัวไปจนจบซีซั่นนี้แล้วค่อยแยกทางกันช่วงซัมเมอร์ก็ได้หากเราต้องการ" อันนี้ว๊ากเนอร์แค่พูดครับ ถ้าเขาต้องการให้อยู่ก็คือจะอยู่

ผมว่าคุณน่าจะจับเอาสองย่อหน้าหลังสุดที่ผมไฮไลท์แล้วเข้าใจผิดแหละ อย่าซีเรียส ผมแค่อ่านของคุณแล้วแปลกใจ

ใจเย็นๆอ่านดีๆ...ตอนแรกกะแยกทางตอนจบฤดูกาล

แต่ตอนนี้แยกทางกันแล้ว...ทำความเข้าใจเสียใหม่

นักเตะนีไม่เสริมตัวดีๆเลย ก็งานยากของโค้ชอยู่แล้ว

โคตรแมนเลย รู้ว่าตัวเองคุมไม่ไหวแล้วก็ขอออกเองเลย ไม่รอให้สโมสรไล่หวังเงินค่าชดเชยเหมือนผู้จัดการคนอื่นๆ

เอาใจช่วยทีมนี้อยู่ แต่ดูท่าจะไม่ไหวจริงๆ