ไม่อยากบวชเหมือนกัน แต่แม่อยากให้บวชก็เลยตามใจแม่แค่นั้นแหละ

ผมไม่บวช แต่บ้านผมไม่ได้อะไรนะ แล้วแต่เลย เพราะพ่อผมก็ไม่่่่่่บวชเหมือนกัน

แต่น้องผมบวชนะ มันอยากลอง พ่อแม่ก็ตามใจ

ผมเรียนจบบอกกับพ่อแม่ว่าจะบวชเอง
เหตุผลคืออยากจะทำอะไรให้พ่อแม่บ้าง ผมกับพ่อไม่ค่อยถูกกันเท่าไหรจึงอยากให้พ่ออโหสิกรรม ดูแกปลื้มใจตอนพิธีปลงผมนาคกับถวายจีวร พ่อเดินยกของมาส่งถึงกุฏิ มารับไปฉันข้าวที่บ้าน หลังจากนั้นไม่กี่ปีพ่อก็เสีย ผมจึงรู้สึกว่าอย่างน้อยๆเราก็ได้ทำสิ่งเล็กๆให้พ่อได้ภูมิใจ

อีกอย่างตอนนั้น24ใกล้เบญจเพศพอดีเลยบวชก่อนแล้วก็ไม่เคยเจออุบัติเหตุอะไรเลย

เหมือนที่ทอปคอมเม้นต์บอกมาครับ ปล่อยวางอย่ายึดมั่นถือมั่นเรื่องประเพณีอะไรที่ไม่ชอบ
ถือซะว่าทำเพื่อพ่อแม่ผู้มีพระคุณเป็นสิ่งเล็กน้อยๆก็แล้วกัน

ปัจจุบันผมเป็นเอทิสกลายๆและไม่ชอบพวกพระเลวๆในข่าวมาก

ผมครับ ไม่ชอบศาสนา ไม่อยากบวช ไม่ชอบพิธี ไม่ชอบพระ

แต่บวชไปแล้ว เพราะแม่ขอ ก็เลยบวชไป 1 เดือนเป็นวัดป่า ไปจังช่วงเค้าออกธุดงอีก
ไม่มีพระคนไหนอยุ่วัดเลย เลยต้องออกเหมือนกัน

ได้อะไรเยอะมาก ชีวิตครั้งนึงได้เดินวันละ 30 โล ขึ้นเขาลงเขา นอนในป่าหนาวจับใจ

ผมโคตรเกลียดศาสนาเลย แต่ผมโคตรประทับใจการบวชเลย

ถ้ามือถือไมค์ ไฟส่องหน้า ท่ามกลางคนเป็นแสนคน เรื่องที่ผมจะเล่าก็คือเรื่องตอนบวชนี่แหละ

ทำไมพ่อแม่ต้องปราบปลื้มกับการที่ลูกบวชด้วย ผผมอยู่บ้านเลี้ยงพ่อแม่ดีกว่า ไม่ค่อยอินกับศาสนาด้วย แค่ไม่ทำเลวก้พอแล้ว

เพิ่งไปให้มาเมื่ออังคารที่แล้ว
ให้เสร็จ น้องๆ พาไปกินข้าวต้มต่อด้วย

สำหรับผมนะครับ ไม่อยากทำ อย่าทำเลยครับ
ถ้าเต็มใจและจริงใจถึงค่อยทำ

ผมคนนึงที่เคยคิดอยากบวชมาสองสามรอบ แต่แม่บอกอย่าเพิ่งเลยทุกรอบ แม่บอกคนจะดีไม่ดีอยู่ที่ใจ ผมเลยยังไม่เคยได้บวชพระเลยครับ

เคยได้อ่านที่นึง เขาบอกว่า วัด มาจากแปลว่าวัดใจกับกิเลส ถึงตัวไม่ได้อยู่ที่’วัด’ แต่ใจก็อยู่ให้’วัด’ได้เสมอๆ ครับ

ผมบวชเพื่อให้ท่านมีความสุขนะ ผมคิดแค่นี้เรื่องพิธีการผมเฉยๆ แล้วแต่ทางบ้านสะดวกแบบไหนได้หมด ไม่มีปัญหา ตอนบวชก็เดินไปบิญฑบาต ที่บ้านทุกเช้า แค่นี้ผมก็มีความสุขละ หลังบวชของทุกอย่างที่ผมได้มา ผมยกให้วัดหมด ใส่ชุดขาวที่เอาไปเปลี่ยนกลับมาเท่านั้น ท่านอย่าไปคิดมากเลยครับ ทำเพื่อคนที่รักเรา คิดย้อนกลับไปก็จะมีความสุขเองครับ ผมบวช 14 วันครับ

ผมครับ เบื้้องต้นไม่ได้เป็นคนเคร่งศาสนาอะไร

ถึงจะเข้าวัดไปทำบุญเรื่อยๆก็เถอะ

เคยคิดไว้ว่าจะไม่บวชแน่ๆ เพราะค่อนข้างไม่ชอบกฏระเบียบ

พ่อแม่ ก็ไม่ได้บังคับนะ วันนึงนั่งคุุยเรื่อยเปื่อยกัับยายแกบอกว่าอยากเห็นผมบวช

ยายผมตอนนัั้้นก็เริ่มแก่มากแล้ว ขี้หลงขี้ลืม ผมจะทำหููทวนลมก็ทำได้นะ

แต่มาคิดๆดู มันก็ไม่ได้ลำบากอะไรเลย

วันรุ่งขึ้นผมไปบอกพ่อแม่เลยว่าอยากบวช

ไม่นับคุณตา ที่เสียไปตั้งแต่ผมยังเล็ก

ณ ตอนนั้น ปู่ ย่า ยาย ผมยังอยู่กันครบ

ผมอยากบวชให้เร็วที่สุดเลย อยากทำให้ตอนที่พวกท่านยังอยู่นี่แหละ

เรื่องงานตอนนั้นผมเพิ่งย้ายงานใหม่มาไม่กี่เดือนเอง

ผมยอมใช้ลาพักร้อน+ลากิจ เกือบหมดเลย

จากนั้นก็ไม่มีอะไรฝึกท่องบทสวดแค่นั้น

วันงานนีี่ คนมาแบบมืดฟ้ามัวดินเยอะกว่าที่ผมคิดไว้มาก

หลายคนผมเพิ่งมารู้หลังสึกว่า มาเพราะอยากเกาะชายผ้าเหลือง

เพราะลูกหลานไม่มีใครบวชให้

ได้ยินแล้วแอบเศร้าไม่น้อยเลย

ถ้าผมไม่บวช พ่อแม่ ปู่ ย่า ยาย ผมต้องไปเกาะชายผ้าเหลืองคนอื่นแทน

ผมคงโกรธตัวเองไปตลอดชีวิิต

วันที่บวช แล้วหันกลับไปมอง พ่อแม่ ปู่ ย่า ยาย บางคนถึงกับน้ำตาซึมเลย

แค่รับรู้ว่า พวกท่านมีความสุุขมากก็คุ้มมากแล้วครับ

ผมสามสิบปลายละนะ ยังไม่เคยบวชสักครั้ง ไม่เคยคิดเลย ทางบ้านก็ไม่ว่าอะไร ไม่ใช่กลัวว่าบวชไปแล้วจะมีใครเปลี่ยนเป็นอื่นระหว่างบวชอะไรครับ แต่ไม่ไหวอ่ะ ผมท่องจำไม่ได้ อยู่วัดก็ไม่ใช่ทาง เคยไปงานบวชเพื่อนแล้วก็ดูๆ ประเพณี พิธีกรรม ก็ได้แต่ปลงตัวเอง ทำไม่ได้แน่ๆ ดึกๆมาก็หิว นอนที่ไหนไม่ได้เท่านอนบ้าน ยังคิดเลยว่าถ้าจะต้องบวชหน้าไฟจะไหวมั้ย กลัวโกนหัวแล้วผมจะไม่ขึ้น ทุกวันนี้ผมก็ร่วงๆอีก หลอนจริงๆ

ผมก็ไม่อิน แทบจะไม่เข้าวัดด้วยแต่ วันที่ผมออกจากโบสถ์​พร้อมกับห่มผ้าเหลือง แล้วเห็นคนที่เราเรียกว่าแม่ดีใจจนน้ำตาแทบไหล ผมรู้เลยว่าผมบวชเพื่ออะไร

วัดชลประทานรังสฤษฎิ์ 3000 บาทแนะนำครีบ

บวชวัดป่าสิครับ สายธรรมยุติผมก็กำลังคิดจะบวช ไม่มีพิธีทางโลกให้ยุ่งยาก เคร่งปฏิบัติแต่ทางธรรม

ยอกพ่อแม่จัดงานใหญ่ผมไม่บวช สำหรับผมพวกท่านยอมครับ

ผม เพราะไม่ได้นับถือศาสนาอะไร

ดีว่าแม่ผมก็ไม่ได้เคร่ง ผมบอกแกถ้าบวชไม่มีใครดูแลไม่รู้ด้วยนะ ผมลูกคนเดียว