(บทความสั้น)ปิร์โล่ x บุสเก็ต :Deep Lying Midfielder อัจฉริยะหรือแค่อาแปะ?
https://www.youtube.com/embed/2mCUYQQH2dQ&t=2s
ในยุคของฟุตบอลสมัยใหม่ที่เล่นกันดุดันรวดเร็วกว่าเดิม กระแสการเล่นเพรสซิ่งก็มีมากขึ้น ทำให้กองกลางที่ยืนไลน1-2เริ่มจะเล่นลำบาก ตำแหน่งDeep Lying Midfielder หรือกองกลางที่ยืนต่ำหรือเพลย์เมคกอร์ตัวยืนต่ำเพื่อทำเกมจึงกำเนิดขึ้นมา นักเตะตำแหน่งนี้จะยืนอยู่หน้าไลนของกองหลังและยืนตัวสุดท้ายในแผงกองกลาง เพื่อช่วยต่อบอลจากหลังไปหน้า
2นักเตะชื่อดังที่ทางTifo Football ยกตัวอย่างมาคือ Andrea Pirlo และ Sergio Busquets แม้ในหน้ากระดาษ2คนนี้จะยืนตำแหน่งเดียวกัน ไลนเดียวกัน หน้าที่คล้ายๆกัน แตก็มีจุดที่แตกต่างพอสมควร แน่นอนว่ามีระบบของทีมและแทคติคเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะตำแหน่งนี้เป็นเรื่องของแทคติคเกินครึ่ง
ทั้ง2คนจะยืนประจำตำแหน่งในระบบ 4-3-3เป็นหลัก อาจจะมีระบบอื่นบ้างเช่น 4-4-2ไดม่อน 3-5-2 หรือ 3-4-3
หน้าที่หลักๆของทั้ง2คนนี้คือ ปกป้องแผงหลัง สกรีนบอลที่จะบุกมาให้ได้มากที่สุด ในส่วนของการโจมตีก็จะทำหน้าที่ช่วยขึ้นบอล แจกจ่ายบอล เปลี่นรับเป็นรุก หรือแก้เพรสซิ่ง
ปิร์โล่นั้นไม่ได้เริ่มต้นอาชีพการค้าแข้งด้วยตำแหน่งโดยตรง เมื่อครั้งยังเยาว์วัย พ่อหนุ่มจากอิตาลีรายนี้เริ่มเล่นด้วยตำแหน่งกลางรุก(am)มาก่อน ก่อนจะค่อยๆถอยต่ำลงจากที่กลางตัวเชื่อมเกม(cm) และมาจบที่กลางรับตัวห้อยต่ำ(cdm)
แม้จะได้ชื่อว่ากลางรับแต่อย่าเข้าใจผิดเพราะสิ่งที่ปิร์โล่ถนัดจริงๆไม่ใช่เกมรับแต่เป็นการปั้นเกมจากการยืนห้อยต่ำต่างหาก
เพื่อชดเชยด้านการเล่นเกมรับ โค้ชที่ปิร์โล่เคยร่วมงานด้วยจึงมักจะเพิ่มกลางสไตล์ดุดัน วิ่งสู้ฟัดอีกคนลงไปทำหน้าที่ช่วยปัดกวาดและช่วยไล่บอลนอกโซนที่ปิร์โล่ไม่ได้รับผิดชอบ เช่น เดรอสซี่ กัตตูโซ่ และวิดัล แม้ปิร์โล่จะมีความสามารถในด้านเกมรับพอสมควร เช่นการตัดบอล(ด้วยทักษะการอ่านกระแสเกม)และการแทงทะลุช่องหรือโยนยาวเพื่อเล่นเกมสวนกลับ แต่จะสังเกตได้ว่าภาระหน้าที่ในด้านการเล่นเกมรับจะตกอยู่ที่กองกลางอีกคนเป็นหลัก
หันมาที่นักเตะอย่างบุสเก็ตที่ออกสตาร์ทด้วยตำแหน่งกลางรับตัวห้อยต่ำตั้งแต่ต้น(เล่น double pivotในช่วงติดทีมใหม่ๆโดยมีชาบี้เป็นคนช่วยประคอง) เด็กหนุ่มจากคาตาลันเป็นนักสกรีนบอลโดยธรรมชาติด้วยความช่วยเหลือจากระบบทีมส่วนนึง
แม้จะขาดพละกำลังหรือความดุดันแต่บุสเก็ตจะมีภาระในด้านเกมรับมากกว่ากองกลางคนอื่นในทีมที่เคยร่วมงานด้วยในช่วงแรกเช่น ชาบี้และอิเนียสต้า ทั้งการสกรีนบอลที่เป็นพรสวรรค์ของเจ้าตัว แย่งโหม่งจากลูกกลางอากาศที่อาศัยความได้เปรียบจากส่วนสูง หรือถอยไปยืนเป็น false cbตัวที่3ในบางช่วง
พูดถึงเรื่องของกองกลางแต่ไม่พูดถึงการจ่ายบอลก็กระไรอยู่ ขึ้นชื่อว่านักเตะรดับโลก ทักษะการจ่ายบอลของทั้งปิร์โล่และบุสเก็ตนั้นอยู่ในระดับท็อปทั้งคู่ แต่ในด้านมิติและสไตล์การจ่ายนั้นก็มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร
ปิร์โล่ดูจะชื่นชอบให้มีพื้นที่ในระดับนึงเพื่อออกบอล อย่างเช่นการจ่ายบอลให้แบ็คฝั่งใดฝั่งนึงแล้วรับบอลกลับมาทำต่อ ก่อนที่จะพาบอลขึ้นหน้าไปปั้นเกม ระยะการจ่ายไม่ใช่ปัญหาสั้นหรือยาวปิร์โล่ทำได้หมด ภาพที่เห็นจนชินตาคงหนีไม่พันปิร์โล่รับบอลจากแผงหลังก่อนแทงยาวไปให้กับปีกเพื่อจู่โจมพื้นที่สุดท้าย บางคนก็เรียกนักเตะสไตล์นี้ว่า"ควอเตอร์แบ็ค"(จขกท.ไม่มีความรู้เกี่ยวกับอเมริกันฟุตบอลเลย สมาชิกท่านได้ที่รู้จะเสริมตรงนี้ก็ได้นะ) แม้จะเล่นในที่แคบๆได้ แต่ปิร์โล่ต้องการเวลาและพื้นที่ใช้อาวุธชั้นยอดอย่างวิชั่นที่เน้าตัวมีให้เกิดประโยชน์ที่สุด
ในส่วนของบุสเก็ตมีทักษะและทริคเพื่อเก็บบอลดึงจังหวะได้ดีตามพิมพ์นิยมของเด็กจากลามาเซีย เช่นเดียวกับการออกบอลยาวหรือโยนข้ามฝั่ง อย่างไรก็ดีจุดเด่นของเจ้าตัวกลับอยู่ที่การรับบอลมาทำในขณะที่โดนเพรสซิ่ง(pressure reliever) ด้วยการชิ่งสั้นๆ1-2จังหวะกับเพื่อนร่วมทีม ช่วยให้ทีมมีเวลาในการจัดกระบวนทัพใหม่ได้
ทั้งปิร์โล่และบุสเก็ตต่างก็มีสไตล์การเล่นที่สอดรับกับระบบของทีมตัวเองอย่างลงตัวด้วยคุณภาพและทักษะ
ในฝั่งของยักษ์ใหญ่จากคาตาลันจะเน้นครองบอล ครองบอล และครองบอล ดังเช่นที่ปรัชญาของสโมสรได้ระบุไว้"ในเกมฟุตบอล มีลูกบอลได้แค่ลูกเดียวในสนาม และมันต้องเป็นของเรา" บุสเก็ตที่เก็บบอลได้ เสียบอลยาก และออกบอลดีจึงเป็นนักเตะที่ทีมต้องมี
ฝั่งทีมใหญ่จากอิตาลีทั้งมิลานและยูเว่จะใช้ลูกจ่ายของปิร์โล่เพื่อbypassแผงกลางและหลังของอีกฝั่งเป็นหลักเพื่อสร้างโอกาสในการจู่โจมในขณะที่คู่ต่อสู้ไม่ทันตั้งตัว(off guard)
หากจะพูดในอีกแง่นึง ทั้งคู่ต่างก็เป็นยอดนักเตะที่มีทักษะดี ฝีเท้าจัดจ้าน สามารถจะอ่านกระแสของเกมได้ดีเยี่ยม รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นรอบๆตัว เพื่อนร่วมทีมอยู่จุดใดบ้าง ขณะเดียวกันก็รู้ตำแหน่งของคู่ต่อสู้ ตรงไหนบ้างที่มีพื้นที่ให้ใช้สอย หรือการใช้ร่ายกายปกป้องบอลตามสไตล์กองกลางตัวรับ ทั้งคู่คือหนึ่งในสุดยอดนักเตะที่สร้างคำจำกัดความให้กับตำแหน่ง"กลางรับสมัยใหม่"
อันเดรีย ปิร์โล่ได้ชื่อว่าเรจิสต้าที่เก่งกาจที่สุด ส่วนเซอร์จิโอ บุสเก็ตก็ได้ชื่อว่า pivotที่สมบูรณ์แบบที่สุดเช่นกัน
ปล.ไม่รู้จะเรียกว่าบทความดีมั้ยเพราะหลักๆก็ถอดใจความสำคัญจากตัววิดีโอเป็นหลัก แต่นึกอะไรได้ก็ใส่เพิ่มเข้าไป
ปล2.ถ้าฟังอังกฤษไม่ออกไม่เป็นไรให้อ่านตามที่ผมเขียนบรรยายเอาเพราะไทมมิ่งก็เลื่อนไปตามวิดีโอนั่นแหละ
ปล3.ว่าจะเขียนเรื่องคูตี้ไหงออกมาเป็น2คนนี้ได้ไงไม่รู้
เหมือนยูทูบจะไม่ขึ้น?