ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Jan 2011
ตอบ: 1606
ที่อยู่: Kingslanding
โพสเมื่อ: Mon Jan 07, 2019 16:08
[แทคติก] เป๊ปเอาชนะทีมที่ไม่เคยแพ้ได้อย่างไร ?


เกมระหว่างแมนซิตี้และลิเวอร์พูลน่าจะเป็นเกมที่แฟนบอลและโดยเฉพาะนักวิเคราะห์ฟุตบอลตั้งตารอคอย ไม่ใช่แค่เพราะมันเป็นการพบกันระหว่างจ่าฝูงและรองจ่าฝูง แต่เป็นการดวลกันอีกครั้งของสองกุนซือระดับท็อป โดยโจทย์สำคัญของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าคือ จะเอาชนะทีมที่ยังไม่เคยแพ้ในฤดูกาลนี้ได้อย่างไร ?

ท้าวความกลับไปฤดูกาลที่แล้วจะเห็นว่าหลายครั้งที่ลูกทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าต้องเจอกับความยากลำบากในการรับมือกับเกมสวนกลับของลิเวอร์พูล ทำให้เราในฤดูกาลนี้เราได้เห็นเขาปรับวิธีการเล่นเพื่อรับมือกับแทคติกของเจอร์เกน คล็อปป์โดยเฉพาะในการพบกันครั้งแรกของฤดูกาลนี้ นี่จึงเป็นเกมที่น่าสนใจมากในทางแทคติกว่าผู้จัดการทีมทั้งของทีมจะงัดกลยุทธ์อะไรออกมาให้เราได้ชมกันอีก

ลิเวอร์พูลเข้าสู่เกมด้วยสถานการณ์ที่ได้เปรียบบนตารางคะแนน ชัยชนะจะทำให้พวกเขานำห่าง 10 คะแนน โดยเหลือเกมกับทีมท็อปซิกซ์แค่สามเกมเท่านั้น ขณะที่แมนซิตี้ไม่มีเป้าหมายอื่นนอกจากเก็บสามคะแนนเพื่อกลับสู่เส้นทางการลุ้นแชมป์


บนกระดานทั้งสองทีมออกสตาร์ทด้วยแทคติก 4-3-3 เหมือนกัน แต่ในรายละเอียดนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เป๊ปใช้ปีกซ้ายที่ถนัดเท้าซ้าย ปีกขวาที่ถนัดเท้าขวา และส่วนที่สำคัญที่สุดคือการยืนตำแหน่ง สังเกตทั้งซาเน่และสเตอร์ลิ่งยืนแทบจะชิดขอบสนามตลอดเวลา ซึ่งการจัดวางตำแหน่งเพื่อใช้ความกว้างของสนามให้เกิดประโยชน์สูงสุดคือการดึงแนวรับของลิเวอร์พูลให้ฉีกออกจากกัน



เมื่อเกิดช่องว่างระหว่างเซ็นเตอร์และฟูลแบ็ค ก็จะเป็นหน้าที่ของสองมิดฟิลด์ทั้งซิลบา และแบร์ดาโน ซิลวาในการสอดเข้าไปโจมตีพื้นที่ที่เปิดกว้าง จากรูปสังเกตจังหวะที่สเตอร์ลิ่งได้บอล โรเบิร์ตสันต้องขยับออกจากไลน์เพื่อป้องกัน ขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดพื้นที่ให้แบร์นาโด ซิลวาสอดเข้าในเขตโทษได้ จะเห็นว่าเกมเริ่มมาไม่ถึงสองนาที แทคติกของเป๊ปก็เริ่มแผลงฤทธิ์ให้เห็นแล้ว



นอกจาก combination ระหว่างมิดฟิลด์และตัวริมเส้น คีย์แมนคนสำคัญอีกคนก็คืออเกวโร่ ตลอดทั้งเกมเราจะไม่เห็นเขาปักหลักค้ำอยู่ในแดนหน้า แต่จะขยับลงมารับบอล และยืนเหลื่อมมาทางฮาล์ฟสเปซด้านซ้าย เพื่อช่วยซาเน่และซิลบาในการโจมตีอาร์โนลด์และลอฟเรน



จากกราฟฟิคจะเห็นว่าเกมรุกของซิตี้นั้นเบ้ซ้ายชัดเจนโดยเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ของเกมรุกมาจากการขึ้นทางด้านซ้าย ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นแทคติกของเป๊ป ที่จะทดสอบให้เราได้เห็นว่าเกมรับของลิเวอร์พูลไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น และเป็นอีกครั้งที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่าไม่ทำให้เราผิดหวัง หลังจากที่ทั้งสองประตูของแมนซิตี้มาจากการโจมตีทางฝั่งซ้ายทั้งสองประตู



สิ่งที่สำคัญไม่แพ้การเข้าทำในพื้นที่สุดท้ายก็คือการขึ้นเกมบุก ทางฝั่งลิเวอร์พูลค่อนข้างชัดเจนเมื่อคล็อปป์ตัดสินใจใช้สามมิดฟิลด์ที่เล่นเกมรับได้ดีทั้งเฮนเดอร์สัน มิลเนอร์ และไวจ์นัลดุม
ทีมของเจอร์เกน คล็อปป์ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในทีมที่เพรสซิ่งได้ดีที่สุดในยุโรป และได้พิสูจน์ให้เห็นกับหลายต่อหลายทีมที่พยายามจะลำเลียงบอลผ่านแดนกลางของเขาพวกมาแล้ว โจทย์สำคัญจึงอยู่ตรงนี้ว่า จะเอาชนะแดนกลางของลิเวอร์พูลอย่างไร?

จากภาพจะเห็นแนวป้องกันของลิเวอร์พูลทั้งสามประสานแดนหน้า และสามมิดฟิลด์ในแดนกลาง สังเกตการยืนตำแหน่งของทั้งสองแนวจะใกล้กันมาก และนักเตะแต่ละคนในแนวเดียวกันก็จะยืนใกล้ๆกันเพื่อให้สามารถเข้าประชิดตัวและแย่งบอลกลับมาได้ไว

ย้อนกลับไปที่การยืนตำแหน่งของตัวรุกของแมนซิตี้ เป๊ปวางปีกสองข้างไว้แทบจะชิดริมเส้น เพื่อถ่างแผงแบ็คโฟร์ของลิเวอร์พูลอย่างที่กล่า่วไปข้างต้น แต่นอกจากนี้การยืนกว้างๆเช่นนี้ยังมีประโยชน์ในการรับบอลจากแดนกลาง/หลังที่จะพยายามจ่ายออกข้าง ทำให้แนวเพรสซิ่งของลิเวอร์พูลแทบจะไม่มีประโยชน์

จากภาพเป็นจังหวะที่กอมปานีจ่ายบอลขึ้นหน้า อเกวโร่ลงมาล้วงบอลทางด้านซ้าย สังเกตมิลเนอร์ที่อยู่ห่างเกินกว่าจะตัดบอลจังหวะนี้ได้ จะเห็นว่าการจ่ายบอลเพียงครั้งเดียว ลูกทีมของเป๊ปสามารถตัดแนวเพรสซิ่งลิเวอร์พูลหกคนในแดนหน้าและกลางออกจากการป้องกันจังหวะนี้ได้เลย



ภาพจังหวะต่อเนื่องจากจังหวะข้างต้น หลังจากบอลสามารถทะลุแนวเพรสซิ่งของลิเวอร์พูลมาได้ ก็เข้าสู่กระบวนการเข้าทำในพื้นที่สุดท้ายอย่างที่กล่าวไปตอนต้น ซาเน่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวเอาชนะอาร์โนลด์มาได้ ดึงลอฟเรนให้ออกจากแผงแบ็คโฟร์ เปิดพื้นที่ให้ อเกวโร่และซิลบาเข้าสู่พื้นที่อันตรายได้



จังหวะคล้ายๆกัน กอมปานีจ่ายบอลผ่านแนวเพรสซิ่งของลิเวอร์พูลอย่างง่ายดาย แต่คราวนี้เป็นซาเน่ลงมารับบอล สังเกตไวจ์นัลดุมที่อยู่ห่างเกินกว่าจะตัดบอลได้ อาร์โนลด์จึงต้องขยับออกจากไลน์มาเพื่อตามประกบซาเน่



จังหวะต่อเนื่อง ซาเน่ทำชิ่งวันทูกับลาปอร์ต สังเกตอาร์โนลด์ที่หลุดตำแหน่งไปอย่างง่ายดายปล่อยให้ซาเน่อยู่ด้านหลังพร้อมกับเปิดพื้นที่ขนาดใหญ่ ส่งผลให้ลอฟเรนต่องขยับออกจากไลน์มาอีกคนเพื่อเตรียมรับมือกับทั้งซาเน่และซิลบาที่ไร้ตัวประกบ


จังหวะต่อเนื่อง ซาเน่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวเอาชนะลอฟเรนได้อย่างไม่ยากเย็น สังเกตพื้นที่รับผิดชอบของทั้งอาร์โนลด์และลอฟเรนที่เปิดกว้างให้ซิลบาและอเกวโร่สามารถขยับไปเล่นได้สบายๆ จะเห็นว่าตั้งแต่กระบวนการขึ้นบอล การเข้าทำในพื้นที่สุดท้าย ลิเวอร์พูลแทบไม่สามารถป้องกันได้เลย และในที่สุดก็นำมาซึ่งประตูขึ้นนำ 1-0 หลังจากแมนซิตี้พยายามเจาะทางขวาของลิเวอร์พูลในลักษณะนี้อยู่หลายครั้ง



แม้กระทั่งในครึ่งหลังลิเวอร์พูลก็ยังไม่สามารถหาทางป้องกันการขึ้นบอลจากหลังของแมนซิตี้ได้ จังหวะนี้ดานิโล่สามารถส่งบอลผ่านแดนกลางของลิเวอร์พูลได้โดยง่ายอีกครั้ง บวกกับความผิดพลาดในการประกบตัวของโรเบิร์ตสันทำให้สเตอร์ลิ่งสามารถรับบอลไปเล่นได้ สังเกตอเกวโร่ที่ยังไม่ลดละในการถ่างออกมาทางซ้ายเพื่อกดดันอาร์โนลด์และลอฟเรน และซาเน่ที่ยืนไร้ตัวประกบ


สเตอร์ลิ่งใช้ความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงตัดเข้าในเพื่อดึงตัวประกบ อเกวโร่วิ่งตัดเข้าในทันทีเพื่อดึงอาร์โนลด์ให้หลุดตำแหน่งและเป็นการเปิดพื้นที่ให้ซาเน่เข้าสู่กรอบเขตโทษโดยไร้การประกบและลงโทษลิเวอร์พูลได้สำเร็จ

ในส่วนของแมนซิตี้จะเห็นว่าในทางแทคติกนี่เป็นอีกครั้งที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่าพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าทำไมเขาถึงเป็นผู้จัดการทีมระดับท็อป ขณะเดียวกันก็เป็นการตอกกลับกูรูทั้งหลายที่กล้าตัดชื่อของเขาและแมนซิตี้ออกจากการลุ้นแชมป์ตั้งแต่คริสต์มาส ต่อไปจะขอกล่าวถึงแท็คติกของทางฝั่งเจอร์เกน คล็อปป์



ถึงแม้ทั้งสองทีมจะจัดแผนการเล่นเริ่มต้นด้วยระบบ 4-3-3 เหมือนกันแต่ในทางแท็คติกแนวทางการเล่นของทั้งสองทีมนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ขณะที่เป๊ปให้ตัวริมเส้นของเขาทั้งสองฝั่งปักหลักอยู่ริมเส้น คล็อปป์ใช้การเคลื่อนที่ของผู้เล่นริมเส้นทั้งสองฝั่งตัดเข้าใน เพื่อโจมตีพื้นที่บริเวณฮาล์ฟสเปซและขณะเดียวกันก็ใช้แบ็คทั้งสองข้างเติมเกมสูงขึ้นมาใช้พื้นที่ด้านข่างที่ว่างลง

จากภาพจะเห็นว่าจังหวะที่มาเน่ได้บอลบริเวณริมเส้นทางด้านซ้าย เขาไม่ลังเลที่จะตัดเข้าในทันที เช่นเดียวกันซาล่าที่พยามโจมตีพื้นที่ฮาล์ฟสเปซระหว่างกอมปานีและลาปอร์ต ซึ่งขณะเดียวกันก็เป็นการดึงลาปอร์ตให้หลุดตำแหน่ง และเปิดพื้นที่ให้อาร์โนลด์เติมขึ้นมาทางด้านขวา



ข้อแตกต่างกับทีมของเป๊ปคือ ขณะที่ทางแมนซิตี้สามารถทะลุแดนกลางของลิเวอร์พูลได้หลายต่อหลายครั้ง จังหวะข้างต้นแทบจะเป็นครั้งเดียวในเกมนี้ที่แท็คติกการใช้ตัวริมเส้นตัดเข้าในของคล็อปป์ได้ผล

ซาล่าได้บอลบริเวณกลางสนามและสามารถพลิกผ่านแฟร์นันดิญโย่ ทำชิ่ง1-2กับฟีร์มิโน่ ก่อนที่จะจ่ายให้มาเน่หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ก็นับว่าเป็นโชคร้ายของลิเวอร์พูลที่พวกเขาขาดโชคไปแค่ 11 มิลลิเมตรเท่านั้นก่อนที่บอลจะข้ามเส้นไปเต็มลูก



หลังจากพยายามอยู่หลายต่อหลายครั้งแท็คติกของเจอร์เกน คล็อปป์ที่ให้แบ็คสองข้างเข้าทำเกมบุกจากบริเวณริมเส้นก็เป็นผล ครึ่งหลังไวจ์นัลดุมที่ถูกขยับมายืนเป็นปีกซ้ายยังคงเล่นตามแท็คติกเดิม เขาวิ่งตัดเข้าในเพื่อดึงดานิโล่ให้หลุดตำแหน่ง เปิดพื้นที่ให้โรเบิร์ตสันเข้ารับบอลจากอาร์โนลด์ทางริมเส้นด้านซ้าย ก่อนจะตวัดเข้ากลางให้ฟีร์มิโน่ที่ไร้การประสบทำประตูตีไข่แตก

บทสรุป

จริงอยู่ที่ฟุตบอลมีอะไรมากกว่าแทคติก หาก 11 มิลลิเมตรของลิเวอร์พูลข้ามเส้นไปก่อน หากซาเน่ยิงเบี่ยงออกไป 11 มิลลิเมตรบอลอาจจะชนเหลี่ยมเสานอก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแทคติกทำให้ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬาที่ใช้กำลัง แต่ต้องมีมันสมองที่เฉียบคมด้วย

และวันนี้ผู้จัดการทีมทั้งของทีมก็ได้แสดงให้เราเห็นว่าการวางแทคติกดีที่สำคัญขนาดไหน แทคติกของทั้งสองฝั่งถือว่าประสบความสำเร็จ แทคติกของคล็อปป์สามารถเจาะแนวรับซิตี้ได้ และแทคติกเป๊ปก็สามารถเจาะแนวรับลิเวอร์พูลได้เช่นกัน แต่เป็นลูกทีมของเป๊ปที่เด็ดขาดในพื้นที่สุดท้ายมากกว่า

นี่คือหนึ่งในเกมที่มีประเด็นทางแทคติกที่น่าสนใจให้วิเคราะห์มากที่สุดเกมหนึ่งของฤดูกาล และความสำคัญของมันก็คือเทปบันทึกเกมนี้จะถูกเปิดซ้ำๆโดยคู่แข่งของลิเวอร์พูลในทุกๆเกมที่เหลือของฤดูกาลอย่างไม่ต้องสงสัย จึงเรียกได้ว่ามันอาจจะเป็นต้นแบบของการชนะทีมที่ไม่เคยแพ้อย่างลิเวอร์พูลให้ทีมอื่นๆทำตาม หรือนำไปพัฒนาให้แยบยลยิ่งขึ้น โจทย์สำคัญจึงตกไปอยู่กับเจอร์เกน คล็อปป์อีกครั้งว่า หากมีทีมที่มีศักยภาพจะเล่นแบบแมนซิตี้วันนี้อีก อาจจะเป็นแมนยู สเปอรส์ หรือแม้แต่เชลซี เขาจะมีวิธีการรับมืออย่างไร เป็นเรื่องที่เราต้องติดตามกันต่อไป
*********************************************************************************

ต้องขอโทษที่เขียนย้อนหลังหลายวันหน่อย พอดีผมพึ่งมีเวลามานั่งดูย้อนหลังอีกรอบ
มีอะไรติชมหรืออยากแสดงความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติมเผื่อผมพลาดประเด็นอะไรไป เชิญได้เต็มที่เลยครับ

แก้ไขล่าสุดโดย ไร้สาระ เมื่อ Sat May 18, 2019 15:41, ทั้งหมด 2 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status: ผมรักในแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Apr 2006
ตอบ: 9138
ที่อยู่: เธียเตอร์ออฟดรีม
โพสเมื่อ: Mon Jan 07, 2019 16:10
[RE: [แทคติก] เป๊ปเอาชนะทีมที่ไม่เคยแพ้ได้อย่างไร ?]
ท่านเป็นโค้ชหรือเปล่าครับ วิเคราะห์ดีจริง ๆ

ถ้าไม่ได้เป็นโค้ช น่าจะไปทำเกียวกับทีมงานฟุตบอลนะครับ ผมว่ารุ่งแน่ ๆ

2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
[
ออนไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 8619
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jan 07, 2019 16:16
[RE: [แทคติก] เป๊ปเอาชนะทีมที่ไม่เคยแพ้ได้อย่างไร ?]
ไว้มาอ่านว่างๆ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 20500
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Mon Jan 07, 2019 16:24
ถูกแบนแล้ว
[RE: [แทคติก] เป๊ปเอาชนะทีมที่ไม่เคยแพ้ได้อย่างไร ?]
ลูก 2 ดูดีๆ มันไม่ใช่โรเบิตสันที่ประกบผิด

แต่เป็นทั้งทีมที่ตั้งไลน์เช็คล้ำหน้าผิด ส่วนคนที่ห้อยต่ำอยู่ก็... ไม่ต้องพูดชื่อเนาะ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 May 2009
ตอบ: 2273
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jan 07, 2019 16:25
[RE: [แทคติก] เป๊ปเอาชนะทีมที่ไม่เคยแพ้ได้อย่างไร ?]
เป็ปเล่นคล้ายเหมือนที่เคยมีคนเอามาตั้งกระทู้ที่มีบอลโดนตอนนั้นเเฟนหงส์บอก VVD จะเก็บกินไปๆมา เป็ป เล่นย้อยศร หงส์ ตัดข้ามไลน์เเดนกลางด้วยลูกยาวเล้วเอากองกลางมาเก็บตกบอลที่ล้นออกมาเกมนั้นกลาง เรือ ครองบอลน้อยมากได้บอลเเล้วปล่อยไปข้างหน้าเลยกลางหงส์ก็เดี้ยงไปโดยปริยายเพราะมีเเต่พวกถึกๆแต่ไม่มีบอลให้ไล่เพรสดีที่ อลิสัน เซฟลูกเดี่ยวๆกับ กุน ได้ไม่งั้นมีไหล
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 6050
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jan 07, 2019 16:31
[RE: [แทคติก] เป๊ปเอาชนะทีมที่ไม่เคยแพ้ได้อย่างไร ?]
เขียนดีครับเห็นภาพชัดเจน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 4133
ที่อยู่: กลางสนาม
โพสเมื่อ: Mon Jan 07, 2019 16:38
[RE: [แทคติก] เป๊ปเอาชนะทีมที่ไม่เคยแพ้ได้อย่างไร ?]
mos009ptt พิมพ์ว่า:
ท่านเป็นโค้ชหรือเปล่าครับ วิเคราะห์ดีจริง ๆ

ถ้าไม่ได้เป็นโค้ช น่าจะไปทำเกียวกับทีมงานฟุตบอลนะครับ ผมว่ารุ่งแน่ ๆ

 


รุ่งเรือง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน




ออฟไลน์
Plz
ผู้จัดการทีมชาติ
Status: 大丈夫
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Oct 2013
ตอบ: 51672
ที่อยู่: Barca | Bayern | City
โพสเมื่อ: Mon Jan 07, 2019 16:39
[RE: [แทคติก] เป๊ปเอาชนะทีมที่ไม่เคยแพ้ได้อย่างไร ?]
ตอนอยู่บาซ่าก็ทิ้งหน้าซ้ายไว้ตลอดนะ ถ้าจำกันได้ก็คลิปที่อองรีพูดนั้นแหละ จะทิ้งหน้าฝังซ้ายไว้ เพื่อดึงตัวประกบด้วย แล้วก็ใช้พื้นที่ว่างให้เป็นประโยชน์ด้วย

ยุค บีญ่า เมส เปโดรนั้นแหละ เห็นผลที่สุดแล้วมั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status: ผมรักในแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Apr 2006
ตอบ: 9138
ที่อยู่: เธียเตอร์ออฟดรีม
โพสเมื่อ: Mon Jan 07, 2019 16:39
[RE: [แทคติก] เป๊ปเอาชนะทีมที่ไม่เคยแพ้ได้อย่างไร ?]
Kris Pinto พิมพ์ว่า:
mos009ptt พิมพ์ว่า:
ท่านเป็นโค้ชหรือเปล่าครับ วิเคราะห์ดีจริง ๆ

ถ้าไม่ได้เป็นโค้ช น่าจะไปทำเกียวกับทีมงานฟุตบอลนะครับ ผมว่ารุ่งแน่ ๆ

 


รุ่งเรือง  


รุ่งริ้งง

Spoil
รุ่งโรจน์ สิท่าน

 
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
[
ออฟไลน์
แข้งดัทช์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Sep 2010
ตอบ: 4333
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jan 07, 2019 16:39
[RE: [แทคติก] เป๊ปเอาชนะทีมที่ไม่เคยแพ้ได้อย่างไร ?]
แต่บอกเลยว่านัดนี้แมนซิใช้พลังอย่างเยอะ กลางกับหน้าวิ่งเพรสบ้าคลั่งมาก ใช้คำว่า Overload ก็ได้ เล่นแบบนี้ทุกนัดไม่ได้แน่นอน เล่นแบบนี้ไม่แปลกที่กลางกับหน้าจะเจ็บบ่อย ถ้าเจอกันช่วง UCL น่าสนใจว่าจะใส่กันเต็มขนาดนี้มั้ย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Sep 2009
ตอบ: 20499
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jan 07, 2019 16:45
[RE: [แทคติก] เป๊ปเอาชนะทีมที่ไม่เคยแพ้ได้อย่างไร ?]
เขียนดีครับ

แต่เอาจริงผมว่าแทคติกสูสีทั้งคู่เลย ทั้งเป๊ปและคล็อป
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Jan 2011
ตอบ: 1606
ที่อยู่: Kingslanding
โพสเมื่อ: Mon Jan 07, 2019 16:46
[RE: [แทคติก] เป๊ปเอาชนะทีมที่ไม่เคยแพ้ได้อย่างไร ?]
MiLDiiZ พิมพ์ว่า:
 

นั่นสิครับ ผมก็ดูจังหวะนี้อยู่นานเหมือนกัน เดาใจไม่ออกว่าโรเบิร์ตสันแกตั้งใจจะเช็คล้ำหน้ารึเปล่า เพราะตอนแรกดูอีกสามคนอยู่ในไลน์เดียวกันมีแกเหลื่อมขึ้นไปคนเดียว
แต่อีกสามคนก็ดูไม่ได้มีทีท่าว่าจะดันขึ้น ที่แน่ๆคงเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด/ไม่ได้สื่อสาร คงต้องรับผิดชอบกันทั้งแผงนั่นล่ะครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 1177
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jan 07, 2019 16:52
[RE: [แทคติก] เป๊ปเอาชนะทีมที่ไม่เคยแพ้ได้อย่างไร ?]
ใครก็ได้ ช่วยส่งลิงก์ให้โซลชา ซารี พอช ทีครับ


เอามาฝากกันอีกคลิป เผื่อใครชอบดูคลิปพวกวิเคราะห์แทกติก
แก้ไขล่าสุดโดย นายฮ้อยเคน เมื่อ Mon Jan 07, 2019 16:55, ทั้งหมด 1 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Jul 2008
ตอบ: 10603
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jan 07, 2019 17:00
[RE: [แทคติก] เป๊ปเอาชนะทีมที่ไม่เคยแพ้ได้อย่างไร ?]
ผมเห็นด้วยเลยว่าแท็กติคสุดยอด วิเคราะดีจริง ทุกการวิ่งแม่งมีความหมาย ถึงทุกอย่างจะต้องมีเรื่องดวงด้วย

แต่พอมาดูมาดริดตอนนี้วิ่งสเปะสปะไปหมด จะหาคนจ่ายใกล้มารับบอลยังดูยากเลย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 342
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jan 07, 2019 17:02
[RE: [แทคติก] เป๊ปเอาชนะทีมที่ไม่เคยแพ้ได้อย่างไร ?]
ส่วนตัวผมมองว่า เป๊บใช้หน้าสามคน บวกกับ บอลไดเรคมาแก้ปัญหานะ ตรงนี้ต้องยอมรับลิเวอร์พูลกองกลางเพรส ไวมากแย่งบอลเก่ง แถมหลังชัวร์ จะไปบวกสู้กลางสนามชนะยาก มาก ต้องใช้ให้กองหลังโยนบอลข้ามกองกลางไปทางปีกซ้ายขวาแทน ตลอดทั้งเกม วัดกันที่ปีกกะแบคเลยว่าใครจะทำได้ดีกว่ากัน
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel