BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status: Hendo Hoegarden
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 May 2014
ตอบ: 8407
ที่อยู่: Anfield Road
โพสเมื่อ: Sat Dec 22, 2018 12:47
สายตาที่มองลงมาของ ดัลกลิช
พูดถึงตำนานหงส์ที่วงเวียนอยู่กับสโมสสร แฟนส่วนใหญ่ก็เห็น รัช บารนส์ ฟาวเลอร์ หรือ ดัลกลิช อยู่เสมอๆ

แต่คนที่คลุกคลีกับสโมสรมากที่สุด คงหนีไม่พ้นคิงเคนนี่ที่เคยคว้าแชมป์ในฐานะนักเตะ, โค้ชในยุคที่รุ่งเรือง (ผมเกิดไม่ทัน) และ โค้ชยุคลุ้นท๊อป 4

ประเด็น คือ ดัลกลิช แกเข้ามาดูแทบทุกนัดอยู่แล้ว และเวลาทำประตูได้ แกก็ดีใจเหมือนวัยรุ่นแบบนี้ตลอด ทำให้ผมอดคิดถึงเวลาที่ Sir Alex เข้ามาชมเกมในตอนที่วางมือไปแล้ว และมี Passion ไม่ต่างกัน

แต่เมื่อวานตอนจบเกมกับวูลฟ์ บรรดานักเตะ โค้ช จับมือคุยกัน ดีใจกัน แต่ผมไปเห็นอีกช็อตนึงที่ ดัลกลิช มองลงมาที่สนาม แล้วยิ้มเบาๆ พร้อมตบมือแบบช้าๆ




มันไม่ใช่การตบมือแบบตอนทำประตูได้ ตบมือแบบชนะในนาทีสุดท้าย หรือชนะเข้ารอบแชมเปี้ยนลีก แต่เป็นการปรบมือที่แสดงถึงความภูมิใจอันเปียมล้นของทีมงานทุกๆ คน และรู้สึกสดใสกับอนาคตของทีมมากๆ

(คือที่ผ่านมา แกก็ปรบมือดีใจมาตลอดอยู่แล้วนะ แต่มันเป็นอารมณ์ตอนยิงได้ไง ใครๆก็ทำกัน แต่ครั้งนี้ผมสัมผัสได้ถึงอารมณ์อะไรบางอย่าง หรือไม่ก็เพราะมันจะตี 5 แล้ว ผมคิดมากเกินไป 555)

ปล. คลิปเต็ม วินาทีที่ 33
https://www.facebook.com/ThailandLiverpoolFC/videos/577714389308717/
แก้ไขล่าสุดโดย Hoden เมื่อ Sat Dec 22, 2018 12:50, ทั้งหมด 9 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Jan 2011
ตอบ: 8689
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 22, 2018 13:22
Top Comment [RE]สายตาที่มองลงมาของ ดัลกลิช
ถ้าผมเป็นเซอร์เคนนี่ ผมก็คงรู้สึกเสียใจนิดๆที่เป็นจุดเริ่มต้นของยุคตกต่ำของลิเวอร์พูล ตลอดเวลา28ปีมานี่มันน่าจะเกาะติดในใจอยู่ตลอดเวลา แม้เคยกลับกอบกู้อีกครั้งช่วงสั้นๆก็ทำได้เพียง cocacola league cup ใบเล็กๆใบเดียว
ผมเริ่มดูบอลทันยุคเซอร์เคนนี่เป็นผู้เล่น ผู้จัดการทีม ยังจำความรู้สึกในวันที่ประกาสลาออกอย่างกระทันหันได้ ผมช็อกไปเลย สมันนั้นข่าวไม่มีให้เสพควดเร็วแบบนี้ จำได้ว่าทราบข่าวจากข่าวกีฬาช่อง7ตอน 20.15น (สมัยก่อนข่าวกีฬาจะมาช่วงนั้น) เซอร์เคนนี้คงไม่คิดฝันว่าการลาออกของตัวเองจะทำให้ลิเวอร์พูลห่างหายจากแชมป์ลีคสูงสุดไปนาน28ปี ขนาดนี้
ปล ปีนี้อาจจะเป็นปีสุดท้ายที่เซอร์เคนนี่จะต้องรอ ปมในใจจะได้หมดจางไปซักที
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
i mania
ออนไลน์
หัวหน้าแมวมอง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Jul 2009
ตอบ: 39810
ที่อยู่: Liverpool In Your Area!
โพสเมื่อ: Sat Dec 22, 2018 13:43
Top Comment [RE: สายตาที่มองลงมาของ ดัลกลิช]
เคยอ่านจากคอลัมน์นิตยสารลิเวอร์พูลรายเดือนเมื่อนานมาแล้ว

ว่าจุดเปลี่ยนของลิเวอร์พูลยุครุ่งเรืองคือ ปีฤดูกาล 1989/90

ที่ลุงเคนแกประกาศลาทีมแบบกะทันหัน ทำให้ยุคสมัยที่รุ่งเรืองของลิเวอร์พูล

ต้องล่มสลายลงพร้อมกับตำนานบูทรูมสตาฟท์อันลือลั่น(รอยอีแวนส์คือบูทรูมสตาฟท์

คนสุดท้ายที่ไม่สามารถพาทีมกลับมาบินสูงได้อีกเลย)ผมเริ่มตามเชียร์ลิเวอร์พูลหลังจากนั้นนานหลายปีดีดักนัก

พอได้มารู้ถึงสาเหตุความตกต่ำของสโมสรก็ได้แต่เสียดาย อารมณ์ที่ลุงเคนเคยลาทีมในสมัยนั้น

ก็คงฟีลเดียวกับเซอร์อเล็กซ์ลาแมนยูนั่นแหละ อิมแพคที่มีต่อทิศทางสโมสรพอๆกันเลย

ต่างกันตรงที่ลุงเคนแกลาแบบปุบปับ ไม่ทันตั้งตัว จนทีมเสียศูนย์ไปหมด ผมไม่เคยโทษลุงเคนนะ

เพียงแค่เสียดายเฉยๆ นึกไม่ออกว่าถ้าลุงแกไม่ทิ้งทีมไปกลางครัน ไม่แน่ยุค 90's

ยุคที่เปลี่ยนมาเป็นพรีเมียร์ลีคเต็มตัว ลิเวอร์พูลอาจจะมีแชมป์ลีคติดมือมาบ้าง สโมสรอาจไม่ต้อง

ผ่านความลุ่มๆดอนๆแบบที่ผ่านๆมาก็เป็นได้ ดูอย่างแมนยูประสบความสำเร็จในยุค 90's

ยุคที่ฟุตบอลพาณิชย์เบ่งบานสุดขีด ทำให้แมนยูกลายเป็นหนึ่งในทีมที่มั่งคั่งที่สุดในโลกไปเลย

ผมก็เสียดายโอกาสตรงนี้เหมือนกัน หวังว่าเด็กผีคงจะเข้าใจนะว่าเสียป๋าไปแล้วส่งผลกระทบต่อทีมแต่ไหน

แต่ก็อย่างว่านะ อดีตก็คืออดีตนั่นแหละ เพราะปัจจุบันนี้แนวโน้มทิศทางสโมสรที่ผมเชียร์มันดูแจ่มใสซะเหลือเกิน

สำหรับผม...แฟนลิเวอร์พูลที่เริ่มตามเชียร์มาตั้งแต่ยุครอยต่อของรอย อีแวนส์/เชราร์ อุลลิเย่ร์แล้ว

บอกได้เลยว่าลิเวอร์พูลยุคนี้มีความสมดุลมากที่สุดตั้งแต่เชียร์ทีมมาเลย เป็นครั้งแรกที่เห็นแนวรุกแนวรับมีความสมดุลขนาดนี้ YNWA
แก้ไขล่าสุดโดย Archawin5 เมื่อ Sat Dec 22, 2018 14:31, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Jan 2011
ตอบ: 18130
ที่อยู่: ดาวลูกไก่
โพสเมื่อ: Sat Dec 22, 2018 12:56
[RE: สายตาที่มองลงมาของ ดัลกลิช]
แกคงรู้สึกผิดที่ทิ้งทีมไป แล้วคนมาแทนทำทีมเละ จนแมนยู โด่งดังแทน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"Erised stra ehru oyt ube cafru oyt on wohsi"

ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 673
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 22, 2018 12:59
[RE: สายตาที่มองลงมาของ ดัลกลิช]
ดูลิเวอร์พลูตอนนี้เล่นแล้ว มันมีความสุขจริงๆ

มันแตกต่างกับเมื่อก่อนเยอะจริงๆ
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ความสุขคนเรามันต่างกัน
ออนไลน์
นักเตะตำบล
Status: เสียวไปวันๆ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1222
ที่อยู่: เก่งกาจชาตินักรบ
โพสเมื่อ: Sat Dec 22, 2018 13:11
[RE]สายตาที่มองลงมาของ ดัลกลิช
นึกว่าผมคิดคนเดียว
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ลูกยิงสลายมโน...อิอิ

ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Jan 2011
ตอบ: 8689
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 22, 2018 13:22
[RE]สายตาที่มองลงมาของ ดัลกลิช
ถ้าผมเป็นเซอร์เคนนี่ ผมก็คงรู้สึกเสียใจนิดๆที่เป็นจุดเริ่มต้นของยุคตกต่ำของลิเวอร์พูล ตลอดเวลา28ปีมานี่มันน่าจะเกาะติดในใจอยู่ตลอดเวลา แม้เคยกลับกอบกู้อีกครั้งช่วงสั้นๆก็ทำได้เพียง cocacola league cup ใบเล็กๆใบเดียว
ผมเริ่มดูบอลทันยุคเซอร์เคนนี่เป็นผู้เล่น ผู้จัดการทีม ยังจำความรู้สึกในวันที่ประกาสลาออกอย่างกระทันหันได้ ผมช็อกไปเลย สมันนั้นข่าวไม่มีให้เสพควดเร็วแบบนี้ จำได้ว่าทราบข่าวจากข่าวกีฬาช่อง7ตอน 20.15น (สมัยก่อนข่าวกีฬาจะมาช่วงนั้น) เซอร์เคนนี้คงไม่คิดฝันว่าการลาออกของตัวเองจะทำให้ลิเวอร์พูลห่างหายจากแชมป์ลีคสูงสุดไปนาน28ปี ขนาดนี้
ปล ปีนี้อาจจะเป็นปีสุดท้ายที่เซอร์เคนนี่จะต้องรอ ปมในใจจะได้หมดจางไปซักที
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
i mania
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Feb 2011
ตอบ: 2227
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 22, 2018 13:32
ถูกแบนแล้ว
[RE: สายตาที่มองลงมาของ ดัลกลิช]
ทำยังไงก็ได้ครับ ให้คล็อปอยู่กับทีมให้นานที่สุด เพราะเปลี่ยนคนบางทีมันต้องเริ่มกันใหม่
เดี๋ยวจะเป็นเหมือนแมนยูผม ไม่เหลือคราบไคลเก่าๆของทีมเดิมอยู่เลย
ต้องมานับหนึ่งกันใหม่ รู้งี้เอาคนในมาสานต่อน่าจะเนียนกว่านี้
อันนี้เหมือนให้สามกุนซือสามสไตล์ แต่ห่วยแตกทั้งหมดมาปู้ยี่ปู้ยำ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2016
ตอบ: 233
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 22, 2018 13:34
[RE: สายตาที่มองลงมาของ ดัลกลิช]
demo3339 พิมพ์ว่า:
ถ้าผมเป็นเซอร์เคนนี่ ผมก็คงรู้สึกเสียใจนิดๆที่เป็นจุดเริ่มต้นของยุคตกต่ำของลิเวอร์พูล ตลอดเวลา28ปีมานี่มันน่าจะเกาะติดในใจอยู่ตลอดเวลา แม้เคยกลับกอบกู้อีกครั้งช่วงสั้นๆก็ทำได้เพียง cocacola league cup ใบเล็กๆใบเดียว
ผมเริ่มดูบอลทันยุคเซอร์เคนนี่เป็นผู้เล่น ผู้จัดการทีม ยังจำความรู้สึกในวันที่ประกาสลาออกอย่างกระทันหันได้ ผมช็อกไปเลย สมันนั้นข่าวไม่มีให้เสพควดเร็วแบบนี้ จำได้ว่าทราบข่าวจากข่าวกีฬาช่อง7ตอน 20.15น (สมัยก่อนข่าวกีฬาจะมาช่วงนั้น) เซอร์เคนนี้คงไม่คิดฝันว่าการลาออกของตัวเองจะทำให้ลิเวอร์พูลห่างหายจากแชมป์ลีคสูงสุดไปนาน28ปี ขนาดนี้
ปล ปีนี้อาจจะเป็นปีสุดท้ายที่เซอร์เคนนี่จะต้องรอ ปมในใจจะได้หมดจางไปซักที  


เคยอ่านมาครับว่าแกบอกว่า หมดความท้าทาย บวกกับร่างกายที่ตอนนั้นไม่ค่อยดีเลยขอลาออก จริงไหมครับท่าน
แต่ตอนปีที่แกกลับมากู้สถานการณ์จากทีมของรอย ฮอตสัน ผมชอบมากนะ คือเล่นมันมากจริงๆ ยิ่งตอนปีที่แกคุมก็ยังเล่นมันนะ แต่ติดว่ายิงชนเสากับคานบ่อย บ่อยเกินไป มันเลยทำให้ไม่ได้แต้ม ส่วนตัวผมชอบนะ ยังเสียดาย ผลงานแกน่าจะดีกว่านั้น
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
หัวหน้าแมวมอง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Jul 2009
ตอบ: 39810
ที่อยู่: Liverpool In Your Area!
โพสเมื่อ: Sat Dec 22, 2018 13:43
[RE: สายตาที่มองลงมาของ ดัลกลิช]
เคยอ่านจากคอลัมน์นิตยสารลิเวอร์พูลรายเดือนเมื่อนานมาแล้ว

ว่าจุดเปลี่ยนของลิเวอร์พูลยุครุ่งเรืองคือ ปีฤดูกาล 1989/90

ที่ลุงเคนแกประกาศลาทีมแบบกะทันหัน ทำให้ยุคสมัยที่รุ่งเรืองของลิเวอร์พูล

ต้องล่มสลายลงพร้อมกับตำนานบูทรูมสตาฟท์อันลือลั่น(รอยอีแวนส์คือบูทรูมสตาฟท์

คนสุดท้ายที่ไม่สามารถพาทีมกลับมาบินสูงได้อีกเลย)ผมเริ่มตามเชียร์ลิเวอร์พูลหลังจากนั้นนานหลายปีดีดักนัก

พอได้มารู้ถึงสาเหตุความตกต่ำของสโมสรก็ได้แต่เสียดาย อารมณ์ที่ลุงเคนเคยลาทีมในสมัยนั้น

ก็คงฟีลเดียวกับเซอร์อเล็กซ์ลาแมนยูนั่นแหละ อิมแพคที่มีต่อทิศทางสโมสรพอๆกันเลย

ต่างกันตรงที่ลุงเคนแกลาแบบปุบปับ ไม่ทันตั้งตัว จนทีมเสียศูนย์ไปหมด ผมไม่เคยโทษลุงเคนนะ

เพียงแค่เสียดายเฉยๆ นึกไม่ออกว่าถ้าลุงแกไม่ทิ้งทีมไปกลางครัน ไม่แน่ยุค 90's

ยุคที่เปลี่ยนมาเป็นพรีเมียร์ลีคเต็มตัว ลิเวอร์พูลอาจจะมีแชมป์ลีคติดมือมาบ้าง สโมสรอาจไม่ต้อง

ผ่านความลุ่มๆดอนๆแบบที่ผ่านๆมาก็เป็นได้ ดูอย่างแมนยูประสบความสำเร็จในยุค 90's

ยุคที่ฟุตบอลพาณิชย์เบ่งบานสุดขีด ทำให้แมนยูกลายเป็นหนึ่งในทีมที่มั่งคั่งที่สุดในโลกไปเลย

ผมก็เสียดายโอกาสตรงนี้เหมือนกัน หวังว่าเด็กผีคงจะเข้าใจนะว่าเสียป๋าไปแล้วส่งผลกระทบต่อทีมแต่ไหน

แต่ก็อย่างว่านะ อดีตก็คืออดีตนั่นแหละ เพราะปัจจุบันนี้แนวโน้มทิศทางสโมสรที่ผมเชียร์มันดูแจ่มใสซะเหลือเกิน

สำหรับผม...แฟนลิเวอร์พูลที่เริ่มตามเชียร์มาตั้งแต่ยุครอยต่อของรอย อีแวนส์/เชราร์ อุลลิเย่ร์แล้ว

บอกได้เลยว่าลิเวอร์พูลยุคนี้มีความสมดุลมากที่สุดตั้งแต่เชียร์ทีมมาเลย เป็นครั้งแรกที่เห็นแนวรุกแนวรับมีความสมดุลขนาดนี้ YNWA
แก้ไขล่าสุดโดย Archawin5 เมื่อ Sat Dec 22, 2018 14:31, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status: -# PUNCH #-
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 17092
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 22, 2018 13:49
[RE: สายตาที่มองลงมาของ ดัลกลิช]
edguy พิมพ์ว่า:
ทำยังไงก็ได้ครับ ให้คล็อปอยู่กับทีมให้นานที่สุด เพราะเปลี่ยนคนบางทีมันต้องเริ่มกันใหม่
เดี๋ยวจะเป็นเหมือนแมนยูผม ไม่เหลือคราบไคลเก่าๆของทีมเดิมอยู่เลย
ต้องมานับหนึ่งกันใหม่ รู้งี้เอาคนในมาสานต่อน่าจะเนียนกว่านี้
อันนี้เหมือนให้สามกุนซือสามสไตล์ แต่ห่วยแตกทั้งหมดมาปู้ยี่ปู้ยำ
 

คลอปคงอยู่กับทีมไปเรื่อยๆอ่ะครับ อาจจะไม่นานมากแต่ก็ไม่ใช่เร็วๆนี้แน่นอน

ส่วนคนที่ตะมาสานงานต่อจากคลอปก็ถูกวางตัวไว้เรียบร้อยแล้วครับ




3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออนไลน์
ผู้จัดการทีมชาติ
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Oct 2005
ตอบ: 41994
ที่อยู่: Kanagawa, Japan
โพสเมื่อ: Sat Dec 22, 2018 13:56
[RE: สายตาที่มองลงมาของ ดัลกลิช]
MarshLemon พิมพ์ว่า:
demo3339 พิมพ์ว่า:
ถ้าผมเป็นเซอร์เคนนี่ ผมก็คงรู้สึกเสียใจนิดๆที่เป็นจุดเริ่มต้นของยุคตกต่ำของลิเวอร์พูล ตลอดเวลา28ปีมานี่มันน่าจะเกาะติดในใจอยู่ตลอดเวลา แม้เคยกลับกอบกู้อีกครั้งช่วงสั้นๆก็ทำได้เพียง cocacola league cup ใบเล็กๆใบเดียว
ผมเริ่มดูบอลทันยุคเซอร์เคนนี่เป็นผู้เล่น ผู้จัดการทีม ยังจำความรู้สึกในวันที่ประกาสลาออกอย่างกระทันหันได้ ผมช็อกไปเลย สมันนั้นข่าวไม่มีให้เสพควดเร็วแบบนี้ จำได้ว่าทราบข่าวจากข่าวกีฬาช่อง7ตอน 20.15น (สมัยก่อนข่าวกีฬาจะมาช่วงนั้น) เซอร์เคนนี้คงไม่คิดฝันว่าการลาออกของตัวเองจะทำให้ลิเวอร์พูลห่างหายจากแชมป์ลีคสูงสุดไปนาน28ปี ขนาดนี้
ปล ปีนี้อาจจะเป็นปีสุดท้ายที่เซอร์เคนนี่จะต้องรอ ปมในใจจะได้หมดจางไปซักที  


เคยอ่านมาครับว่าแกบอกว่า หมดความท้าทาย บวกกับร่างกายที่ตอนนั้นไม่ค่อยดีเลยขอลาออก จริงไหมครับท่าน
แต่ตอนปีที่แกกลับมากู้สถานการณ์จากทีมของรอย ฮอตสัน ผมชอบมากนะ คือเล่นมันมากจริงๆ ยิ่งตอนปีที่แกคุมก็ยังเล่นมันนะ แต่ติดว่ายิงชนเสากับคานบ่อย บ่อยเกินไป มันเลยทำให้ไม่ได้แต้ม ส่วนตัวผมชอบนะ ยังเสียดาย ผลงานแกน่าจะดีกว่านั้น  


ไม่ใช่ฮะ...ไม่ใช่หมดไฟหมดความท้าทาย..

แต่มาจากที่แก suffer หนักมากๆจากเหตุการณ์ฮิลส์โบโร่ ที่แฟนๆเสียชีวิตไปเกือบร้อย (ตอนแกคุมทีม)

เมื่อมันถึงจุดนึงก็รับไม่ไหว...ถ้าเป็นสมัยนี้ก็คงใกล้เคียงกับโรคซึมเศร้าแหละฮะ..

สุดท้ายแกเลยขอออกจากตรงนั้น เพื่อมาพักสติ พักอารมณ์ ก่อนที่อะไรๆมันจะแย่กว่านั้น

6
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Feb 2011
ตอบ: 2227
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 22, 2018 14:02
ถูกแบนแล้ว
[RE: สายตาที่มองลงมาของ ดัลกลิช]
LUCIFER_GT พิมพ์ว่า:
edguy พิมพ์ว่า:
ทำยังไงก็ได้ครับ ให้คล็อปอยู่กับทีมให้นานที่สุด เพราะเปลี่ยนคนบางทีมันต้องเริ่มกันใหม่
เดี๋ยวจะเป็นเหมือนแมนยูผม ไม่เหลือคราบไคลเก่าๆของทีมเดิมอยู่เลย
ต้องมานับหนึ่งกันใหม่ รู้งี้เอาคนในมาสานต่อน่าจะเนียนกว่านี้
อันนี้เหมือนให้สามกุนซือสามสไตล์ แต่ห่วยแตกทั้งหมดมาปู้ยี่ปู้ยำ
 

คลอปคงอยู่กับทีมไปเรื่อยๆอ่ะครับ อาจจะไม่นานมากแต่ก็ไม่ใช่เร็วๆนี้แน่นอน

ส่วนคนที่ตะมาสานงานต่อจากคลอปก็ถูกวางตัวไว้เรียบร้อยแล้วครับ




 


ถ้าคนนี้มาคุมบอกได้คำเดียวว่าบู๊ล้างผลาญแน่นอน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: Francis C.Xavier
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 May 2008
ตอบ: 11213
ที่อยู่: โรงเรียนสำหรับผู้มีพรสวรรค์
โพสเมื่อ: Sat Dec 22, 2018 14:09
[RE: สายตาที่มองลงมาของ ดัลกลิช]
เมื่อไหร่เวงเกอร์จะมาปรบมือให้อูไรบ้าง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2016
ตอบ: 233
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 22, 2018 14:20
[RE: สายตาที่มองลงมาของ ดัลกลิช]
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
MarshLemon พิมพ์ว่า:
demo3339 พิมพ์ว่า:
ถ้าผมเป็นเซอร์เคนนี่ ผมก็คงรู้สึกเสียใจนิดๆที่เป็นจุดเริ่มต้นของยุคตกต่ำของลิเวอร์พูล ตลอดเวลา28ปีมานี่มันน่าจะเกาะติดในใจอยู่ตลอดเวลา แม้เคยกลับกอบกู้อีกครั้งช่วงสั้นๆก็ทำได้เพียง cocacola league cup ใบเล็กๆใบเดียว
ผมเริ่มดูบอลทันยุคเซอร์เคนนี่เป็นผู้เล่น ผู้จัดการทีม ยังจำความรู้สึกในวันที่ประกาสลาออกอย่างกระทันหันได้ ผมช็อกไปเลย สมันนั้นข่าวไม่มีให้เสพควดเร็วแบบนี้ จำได้ว่าทราบข่าวจากข่าวกีฬาช่อง7ตอน 20.15น (สมัยก่อนข่าวกีฬาจะมาช่วงนั้น) เซอร์เคนนี้คงไม่คิดฝันว่าการลาออกของตัวเองจะทำให้ลิเวอร์พูลห่างหายจากแชมป์ลีคสูงสุดไปนาน28ปี ขนาดนี้
ปล ปีนี้อาจจะเป็นปีสุดท้ายที่เซอร์เคนนี่จะต้องรอ ปมในใจจะได้หมดจางไปซักที  


เคยอ่านมาครับว่าแกบอกว่า หมดความท้าทาย บวกกับร่างกายที่ตอนนั้นไม่ค่อยดีเลยขอลาออก จริงไหมครับท่าน
แต่ตอนปีที่แกกลับมากู้สถานการณ์จากทีมของรอย ฮอตสัน ผมชอบมากนะ คือเล่นมันมากจริงๆ ยิ่งตอนปีที่แกคุมก็ยังเล่นมันนะ แต่ติดว่ายิงชนเสากับคานบ่อย บ่อยเกินไป มันเลยทำให้ไม่ได้แต้ม ส่วนตัวผมชอบนะ ยังเสียดาย ผลงานแกน่าจะดีกว่านั้น  


ไม่ใช่ฮะ...ไม่ใช่หมดไฟหมดความท้าทาย..

แต่มาจากที่แก suffer หนักมากๆจากเหตุการณ์ฮิลส์โบโร่ ที่แฟนๆเสียชีวิตไปเกือบร้อย (ตอนแกคุมทีม)

เมื่อมันถึงจุดนึงก็รับไม่ไหว...ถ้าเป็นสมัยนี้ก็คงใกล้เคียงกับโรคซึมเศร้าแหละฮะ..

สุดท้ายแกเลยขอออกจากตรงนั้น เพื่อมาพักสติ พักอารมณ์ ก่อนที่อะไรๆมันจะแย่กว่านั้น

 


อ้อออ ถ้ายังงั้นก็คงไม่มีใครโกรธอะไรแกลงหรอกครับ มันคงเกินจะรับจริงๆ ฮิลส์โบโร่มันเป็นการสูญเสียที่สะเทือนใจแฟนบอลจริงๆ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ผู้จัดการทีมชาติ
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Oct 2005
ตอบ: 41994
ที่อยู่: Kanagawa, Japan
โพสเมื่อ: Sat Dec 22, 2018 14:22
[RE: สายตาที่มองลงมาของ ดัลกลิช]
MarshLemon พิมพ์ว่า:
Spoil
-1-st mir@cle พิมพ์ว่า:
MarshLemon พิมพ์ว่า:
demo3339 พิมพ์ว่า:
ถ้าผมเป็นเซอร์เคนนี่ ผมก็คงรู้สึกเสียใจนิดๆที่เป็นจุดเริ่มต้นของยุคตกต่ำของลิเวอร์พูล ตลอดเวลา28ปีมานี่มันน่าจะเกาะติดในใจอยู่ตลอดเวลา แม้เคยกลับกอบกู้อีกครั้งช่วงสั้นๆก็ทำได้เพียง cocacola league cup ใบเล็กๆใบเดียว
ผมเริ่มดูบอลทันยุคเซอร์เคนนี่เป็นผู้เล่น ผู้จัดการทีม ยังจำความรู้สึกในวันที่ประกาสลาออกอย่างกระทันหันได้ ผมช็อกไปเลย สมันนั้นข่าวไม่มีให้เสพควดเร็วแบบนี้ จำได้ว่าทราบข่าวจากข่าวกีฬาช่อง7ตอน 20.15น (สมัยก่อนข่าวกีฬาจะมาช่วงนั้น) เซอร์เคนนี้คงไม่คิดฝันว่าการลาออกของตัวเองจะทำให้ลิเวอร์พูลห่างหายจากแชมป์ลีคสูงสุดไปนาน28ปี ขนาดนี้
ปล ปีนี้อาจจะเป็นปีสุดท้ายที่เซอร์เคนนี่จะต้องรอ ปมในใจจะได้หมดจางไปซักที  


เคยอ่านมาครับว่าแกบอกว่า หมดความท้าทาย บวกกับร่างกายที่ตอนนั้นไม่ค่อยดีเลยขอลาออก จริงไหมครับท่าน
แต่ตอนปีที่แกกลับมากู้สถานการณ์จากทีมของรอย ฮอตสัน ผมชอบมากนะ คือเล่นมันมากจริงๆ ยิ่งตอนปีที่แกคุมก็ยังเล่นมันนะ แต่ติดว่ายิงชนเสากับคานบ่อย บ่อยเกินไป มันเลยทำให้ไม่ได้แต้ม ส่วนตัวผมชอบนะ ยังเสียดาย ผลงานแกน่าจะดีกว่านั้น  


ไม่ใช่ฮะ...ไม่ใช่หมดไฟหมดความท้าทาย..

แต่มาจากที่แก suffer หนักมากๆจากเหตุการณ์ฮิลส์โบโร่ ที่แฟนๆเสียชีวิตไปเกือบร้อย (ตอนแกคุมทีม)

เมื่อมันถึงจุดนึงก็รับไม่ไหว...ถ้าเป็นสมัยนี้ก็คงใกล้เคียงกับโรคซึมเศร้าแหละฮะ..

สุดท้ายแกเลยขอออกจากตรงนั้น เพื่อมาพักสติ พักอารมณ์ ก่อนที่อะไรๆมันจะแย่กว่านั้น

 
 


อ้อออ ถ้ายังงั้นก็คงไม่มีใครโกรธอะไรแกลงหรอกครับ มันคงเกินจะรับจริงๆ ฮิลส์โบโร่มันเป็นการสูญเสียที่สะเทือนใจแฟนบอลจริงๆ  


ใช่คับ ผมเคยอ่านในประวัติของแก..

หลังเหตุการร์นั้น แกไปร่วมงานศพของผู้เสียชีวิตวันละ 4 งานเลย..

ลองนึกสภาพเป็นแกนี่ โคตรหดหู่ฮะ..

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 Aug 2008
ตอบ: 6469
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 22, 2018 14:29
[RE: สายตาที่มองลงมาของ ดัลกลิช]
แกคงตบมือแบบมีความสุขที่เห็นคล๊อปทำทีมมาได้ขนาดนี้

ผมกล้าพูดได้เลยไม่มีใครรักหงส์เท่าลุง ขนาดโดนปลดตอนคุมครั้งสองแกยังไม่เอาเงินค่าชดเชยยกให้สโมสรเอาไปพัฒนาทีม

ส่วนที่แกลาออกหลักๆน่าจะมาจากเหตุการณ์ฮิลโบโร่ ที่ทำให้เกิดความเครียดสะสมจนต้องลาออก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel