ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
หัวหน้าแมวมอง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Dec 2013
ตอบ: 37022
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 17, 2018 21:18
กษัตริย์ของไทย ที่เป็นมหาราช ชาตินักรบ ในมุมอื่นๆนอกจากรบเก่ง


กษัตริย์ในสมัยก่อน ถือว่าเป็นจอมทัพที่ยิ่งใหญ่สุด จนถึงปัจจุบัน แต่ในสมัยก่อนมีการรบบ่อยๆที่ยังไม่ทันสมัยด้วยเรื่องรบเพื่อขยายอาณาเขต ประกาศศักดา ขยายอาณาเขตเพื่อสร้างกำลังความแข็งแกร่งอาณาจักรรบเพื่อการชิงพื้นที่การค้าที่นำเม็ดเงินเข้ามายังอาณาจักร

แต่ในการรบเชิงตั้งรับบางครั้งถ้าแพ้อาจจะสิ้นอาณาจักร การสิ้นอาณาจักรบางกลุ่มก็เป็นสาเหตุเริ่มต้นทำให้ไม่มีชาติเป็นของตัวเองจนถึงทุกวันนี้ ในแถวบ้านเราเช่น มอญ จามปา เป็นต้น

โดยการรบตั้งรับในการเดิมพันอาณาจักร โดยเฉพาะศึกที่เคยโดนก่อนหน้านี้เช่น เสียกรุงครั้งที่ 1 และ ปิดฉากกรุงศรีนั้น ทำให้หลังจากเหตุการณ์นั้นไม่นาน ทำให้กลัวการโดนตีแตกอีกครั้ง อาจจะถึงขั้นเป็นทาส เชลย ไปตลอดกาล จนฟื้นอาณาจักรไม่ได้ แล้วเหตุการณ์ที่ทำให้เป็นมหาราชทุกวันนี้ ก็แลกมาการโหดเช่นกัน


ข้อความสี

สีแดง = ประหาร

สีส้ม = เฆี่ยน หรือกระทำอะไรต่อร่างกายแต่ไม่ตาย

สีเขียว = เกือบโดนประหารแต่ได้รับการ ขอไม่ให้ประหาร

สีม่วง = โดนลงโทษ เช่น กักขัง ขังในคุก

สีน้ำเงิน = เหตุการณ์อื่นๆ









พระนเรศวรมหาราช

จากองค์ประกันที่หงสา ต่อสู้กับจักรวรรดิตองอูของพม่า ในยุคที่เป็นแม่ทัพคู่ใจของบุเรงนองอย่าง นันทบุเรง ถึงหลายส่วนจะบอกว่า นันทบุเรงอ่อนแอในมุมมองคนไทย แต่ด้วยเหตุผลหลายประการที่ทำให้ไม่ชนะ อาจเพราะด้วย กรุงศรีรู้แผนการมารบของพม่า ซึ่งเป็นโจทย์ที่ยากกว่าที่ตีกรุงศรีจนสิ้นกรุงครั้งแรกเสียอีก หลายคนก็เคยได้ยินว่าการปกครองทหารของพระนเรศวรมีความเข้มข้น แต่ก็ในหลายๆครั้งมักจะไม่ได้ประหารหลายครั้บ แล้วการปกครองพลเรือนก็โหดเช่นกัน หลายๆหลักฐาน จะพบในหลักฐานต่างประเทศหลายชิ้นระบุตรงกันว่าพระองค์ทรงปกครองอย่างเด็ดขาด ทรงมีบทลงโทษต่อผู้กระทำผิดอย่างรุนแรง แต่ก็มีหลายครั้งที่ได้รับการทูลขอ โดยให้เป็นการรบครั้งต่อไปเป็นศึกแก้ตัว

อ้างอิงจากหลักฐานของ Jacques de Coutre


1.) โปรดให้ตัดแขนคนเลี้ยงช้างหลวง ๖ คนและเอาแขนนั้นมาผูกเชือกให้คล้องคอ เนื่องจากทรงเห็นว่าช้างหลวงไม่แข็งแรง จึงเป็นการเตือนให้คนดูแลช้างตระหนักในหน้าที่ของตน

2.) โปรดให้สำเร็จโทษพระอนุชาพระองค์หนึ่งด้วยการทอดทั้งเป็น และโปรดให้นำทหารอีก ๘๐๐ คนไปเผา เนื่องจากไม่มาช่วยเหลือพระองค์ในสงครามยุทธหัตถี



ส่วนหลักฐานของฟาน ฟลีต เขียนหลังสวรรคตไปแล้ว ๓๐ กว่าปี

1.) หลังพิธีราชาภิเษก โปรดให้เผาฝีพายหลวงที่เทียบเรือผิด ๑,๖๐๐ คนทั้งเป็น (ตามกฎมณเฑียรบาล เทียบเรือพระที่นั่งผิดโทษถึงตาย เพราะเป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยของพระเจ้าแผ่นดิน)

2.) เวลาเสด็จออกขุนนางจะทรงพระแสงธนูอยู่เสมอ หากทอดพระเนตรเห็นผู้ทำผิดจะทรงยิงธนูใส่ และตรัสสั่งให้นำลูกธนูมาถวายคืน

ตามพงศาวดารสมเด็จพระนเรศวรอื่นๆ

1.) ช่วงปราบกบฏพระยาพิชัย พระยาสวรรคโลก ขุนอินทรเดชะยกกระบัตรทัพ ขับต้อนทหารปีนเข้าเมืองสวรรคโลกไม่สำเร็จ สมเด็จพระนเรศวรจึงลงโทษขุนอินทรเดชะกับขุนหมื่นอื่นๆ ให้ตระเวนรอบทัพ ขุนอินทรเดชะจึงถวายทัณฑ์บนว่าจะตีเมืองสวรรคโลกให้ได้เป็นการแก้ตัว

2.) ช่วงศึกพระเจ้านันทบุเรงล้อมกรุง เจ้าพระยากำแพงเพชรว่าที่กลาโหมคุมทหารล้อมวังไปคุ้มกันราษฎรเกี่ยวข้าวที่ทุ่งชายเคือง ถูกพระมหาอุปราชาตีจนแตกพ่าย สมเด็จพระนเรศวรจะให้ประหาร แต่เพราะสมเด็จพระมหาธรรมราชาทรงขอชีวิตไว้ เลยทรงเพียงแต่ภาคทัณฑ์ ไม่ได้ลงโทษอื่นๆ

3.) หลังศึกยุทธหัตถี จะทรงประหารชีวิตแม่ทัพนายกองที่ตามเสด็จไม่ทัน แต่พระพนรัตน์วัดป่าแก้วขอชีวิตไว้ เลยให้ไปตีเมืองทวาย ตะนาวศรีเป็นการแก้ตัว

4.) พระราชมนูเป็นทัพหน้าตีเมืองละแวก แต่ถูกตีแตกยับเยินจนมาปะทะกับทัพหลวง สมเด็จพระนเรศวรจะทรงประหาร แต่สมเด็จพระเอกาทศรถทรงขอชีวิตไว้เพราะพระราชมนูตามเสด็จราชการสงครามมามาก เลยให้ไปตีเมืองพระตะบองกับเมืองโพธิสัตว์เป็นการแก้ตัว



5.) ศึกตีเมืองละแวกโปรดให้แม่ทัพนายกองตั้งค่ายทำป้อมพูนดินล้อมเมืองละแวกภายในสามวัน ถ้าใครทำไม่ทันให้ตัดศีรษะ และเมื่อได้ฤกษ์บุกตีเมือง ถ้าทหารคนใดเข้าเมืองไม่ได้ จะถูกตัดศีรษะเสียบประจาน



6.) ประมาณ พ.ศ.๒๑๔๐-๒๑๔๒ เจ้าพระยาจักรีเป็นแม่ทัพไปคุมทหารทำนาอยู่ที่เมืองเมาะลำเลิงเพื่อเตรียมตีหงสาวดี แต่ปล่อยให้ครัวมอญเมืองเมาะลำเลิงลอบหนีไปเมาะตะมะได้ จึงทรงคาดโทษให้เจ้าพระยาจักรีไปตีเมืองเมาะตะมะ จนกระทั่งสมเด็จพระนเรศวรทรงตีเมืองเมาะตะมะได้ จึงให้ลงโทษขังเจ้าพระยาจักรีไว้ในเมืองเมาะลำเลิง






คลิปการบรรยายเกี่ยวกับพระนเรศวรท่าน

อาจจะเขียนใส่ความรุนแรงเสริมไปอีกแต่ทว่าการปกครองในสมัยนั้นจากการบันทึกหลายๆการบันทึกเห็นตรงว่า
การปกครองในสมัยพระนเรศวรท่านนั้นมีความเข้มงวดมากๆ ด้วยสงครามที่ต้องรบกับจักรวรรดิตองอู ที่มีแม่ทัพหลายคนมีฝีมือดี ทำให้หย่อนการปกครองไม่ได้

มองไปที่ประเทศชายแดนติดกับไทยอย่าง เขมร ทางนั้นจะบันทึกว่าพระนเรศวรมีความโหดเหี้ยม โดยเฉพาะการประหารพระยาละแวกด้วยการตัดคอเอาเลือดล้างพระบาท(แต่การบันทึกไทยบอกว่าไม่ได้ทำแบบนี้ พระยาละแวกหนีไปได้) โดยคีนเขมรทั่วไปได้ยินพระนเรศวรจะนึกถึงตามที่ผมพิมพ์ เคยเห็นในเฟสบุ๊ค แล้วกดแปลภาษาไปถึงมั่วๆ แต่ตีใจความได้ว่า เขมรมองพระนเรศวรตามแบบที่ผมพิมพ์








พระเจ้าตากสินมหาราช

พระองค์ท่านนั้นต้องทำศึกกับพม่า ตลอดตั้งแต่ก่อนสิ้นกรุงศรีไปตลอดกาล จนถึงกระทั่งการรบกับพม่าในหลายๆศึกครั้งปราบดาภิเษกเป็นกษัตริย์แล้ว การปกครองโดยเฉพาะทหารนั้น ประหารแม่ทัพมากมาย เพราะเนื่องจากถ้ารบแพ้พม่าเพียงแค่ครั้งเดียว ถึงจะยังไม่มาจ่อธนบุรี แต่ก็อาจเป็นหมากที่ทำให้สิ้นสยามไปเลย โดยเฉพาะในศึกอะแซหวุ่นกี้ ที่ถือว่าเป็นอีกศึกที่ชี้เป็นชี้ตาย แล้วไทยเลยทีเดียว ในช่วงสงครามอะแซหวุ่นกี้ซึ่งเป็นศึกใหญ่ที่สุดในรัชกาลที่ตรัสว่า “ถ้าใครย่อท้อต่อการสงครามให้ประหารชีวิตเสีย ศึกจึงจะแก่กล้าเอาชัยชำนะได้” ในช่วงสมัยพระองค์ท่านก็ถือว่าให้พวกที่คิดหนีเกณฑ์ทัพ ไม่ให้คิดกล้าหนี



โดยมีดังนี้เช่น


1.) ช่วงเสด็จหนีจากพระนคร พระเชียงเงินตามเสด็จมาช้า โปรดให้โบย ๓๐ ทีแล้วประหารชีวิต แต่นายทัพนายกองทูลขอชีวิตไว้

2.) ช่วงสงครามเมืองเชียงใหม่ พ.ศ.๒๓๑๗ เจ้าพระยาพิชัยราชา เจ้าเมืองสวรรคโลก ทำการไม่รัดกุมปล่อยให้พม่าตีฝ่าหนีจากเมืองเชียงใหม่ไปได้ โปรดให้ลงพระอาญาเฆี่ยนแล้วจำครบไว้ (ขัดแย้งกับหลักฐานชั้นต้นคือสำเนาท้องตราปีมะเมีย พ.ศ.๒๓๑๗ ที่ระบุว่าเจ้าพระยาสวรรคโลกถูกขังอยู่ที่กรุงธนบุรี ไม่ได้ตามเสด็จไปตีเมืองเชียงใหม่)

3.) หลังสงครามตีเมืองเชียงใหม่ พระยาคำแหงวิชิตกราบทูลกล่าวโทษพระยานนทบุรีซึ่งเป็นลูกว่า หลบหลีกย่อท้อต่อการสงครามเกรงกลัวข้าศึก จึงให้ลงพระอาญาเฆี่ยนพระยานนทบุรีร้อยที จำครบส่งไปยังกรุง แล้วประหารชีวิต

4.) หลังจากได้ข่าวศึกพม่า ทรงเร่งกองทัพที่ยังค้างอยู่เชียงใหม่ให้กลับมารับศึก ห้ามใครแวะเข้าบ้านไม่งั้นจะโดนประหาร แต่พระเทพโยธาจอดเรือแวะเข้าบ้าน พระเจ้ากรุงธนุบรีกริ้วมาก โปรดให้มัดไว้กับเสาตำหนักแพแล้วทรงใช้พระแสงดาบตัดหัวพระเทพโยธาด้วยพระองค์เอง ให้เอาหัวไปเสียบประจานไว้ที่ป้อมวิชัยประสิทธิ์ โยนศพทิ้งน้ำไป




ช่วงศึกอะแซหวุ่นกี้

1.) พระยาเพชรบุรีไม่เป็นใจในการศึก โดยพูดกับบ่าวว่า “ถ้าพม่ารบแหกค่ายออกได้รับรองมิหยุด เราจะพากันหนีข้ามเขากลับไปเมือง” บ่าวนั้นเป็นโจทก์มาฟ้อง จึงเอาตัวพระยาเพชรบุรีมาสอบรับเป็นสัตย์ ให้มัดมือไพล่หลัง ตระเวนรอบทัพแล้วตัดหัวเสียบประจาน

2.) พระยานครราชสีมามาช้าเนื่องจากเลกที่เกณฑ์มาหลบหนี ไปตามจับมาได้เป็นชายหญิง ๙๐ คน พระเจ้ากรุงธนบุรีให้ตัดหัวเลกทั้งหมดทั้งบุตรและภรรยา

3.) ขุนหาญทนายเลือกปล่อยให้เพลิงตกไหม้ดินดำในค่ายที่รักษา และยังย่อท้อต่อการศึก โปรดให้ประหาร

4.) ค่ายของกรมแสงในถูกตีแตก จึงโปรดให้ประหารหมื่นทิพกับไพร่อีกสิบสามคน ตัดหัวเสียบประจาน

5.) เมื่อพม่าถอยหนีไปจากพิษณุโลก โปรดให้หาหลวงศรสำแดงเข้ามา ถามหน้าพระที่นั่งว่า จะให้คุมเลกทหารเกณฑ์หัดไปตามรบพม่าจะได้หรือมิได้ หลวงศรสำแดงก้มหน้านิ่งไม่กราบทูล ก็ทรงพระพิโรธดำรัสให้ประหารชีวิต


6.) ประหารหลวงชาติสุรินทร์ ซึ่งหนีตามทัพลงมาแต่กองพระยาธรรมไตรโลก แล้วให้แจกกฎหมายประกาศไว้สำหรับ ทัพทุกทัพทุกกองว่า ถ้าไพร่ตามนายมิทันให้ฆ่าเสีย ถ้าราชการตามเสด็จมิทัน ให้ลงพระราชอาญาถึงสิ้นชีวิต

7.) ประหารชีวิตขุนสุนทรนุรัตน์ หมื่นสนั่นกับบ่าวคนหนึ่ง ซึ่งหนีทัพ โดยตัดศีรษะเสียบไว้

8.) พระราชภักดียกทัพตามพม่าไปทางอุทัยธานี ฝนตกน้ำท่วมตามต่อลำบากจึงส่งหนังสือมาบอกว่าพม่าหนีไปแล้วตามต่อไม่ทัน พระเจ้ากรุงธนบุรีกริ้วว่าพระราชภักดีกับนายกองสิบคนเกียจคร้านการศึกให้ประหารทั้งหมด พระราชภักดีขอตายคนเดียวเพราะเป็นผู้บังคับบัญชา ลูกน้องก็ต้องทำตามสั่ง พระเจ้ากรุงธนบุรีไม่ยอมเพราะทรงเห็นว่าลูกน้องก็ไม่ได้ทัดทาน จึงถูกประหารทั้งหมด




เหตุการณ์อื่นๆ ที่เป็นบุคคลสำคัญของประวัติศาสตร์ไทยมีดังนี้


1.) เจ้าพระยาจักรี(สมัยตำแหน่งของ ร.1 ท่าน ณ ตอนนั้น) สร้างพระเมรุกรมพระเทพามาตย์พระราชชนนีไม่เสร็จทันกำหนด พระราชชนนีในสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี จึงลงพระราชอาญาเฆี่ยน ไปหนึ่งยก หรือ สามสิบที


2.) พระยาสุรสีห์(สมัยตำแหน่งของ กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท หรือ วังหน้า ท่าน ณ ตอนนั้น) ที่เข้าใจผิดคิดว่าพระเจ้าตากท่านเรียกให้เข้าพบ โดยพระยาพิทักษภูบาลกวักมือให้เข้ามา แต่พอเกิดเหตุการณ์ดันบอกว่าไม่ได้กวัก จึงโดนเฆี่ยนไป หกสิบที


3.) ทหารของสยาม ในตอนช่วงหาข่าวนั้นได้ก่อเรื่องปล้นชิงทรัพย์ เจ้ากาวิละทนไม่ไหวจึงสั่งฆ่าทหารของทางธนบุรี เรื่องไปเข้าถึงพระเจ้าตาก ท่านพระเจ้ากรุงธนบุรีจึงให้มีตราเรียกพระยากาวิละลงมาเข้าที่กรุงธนบุรี ซึ่งพระยากาวิละทราบว่าตนมีความผิดจึงไม่ยอมลงมาจึงขัดตรงนั้นถึงสามครั้ง ซึ่งพระยากาวิละก็ได้ไปตีเอาผู้คนจากเมืองลอง เมืองเทิงเพื่อหวังเอาความชอบไถ่โทษ เมื่อพระยาวิเชียรปราการพาผู้คนที่กวาดต้อนลงไปถวายพระเจ้ากรุงธนบุรี จึงมีพระราชโองการให้ลงโทษ พระยาวิเชียรปราการในความผิดฆ่าอุปราชก้อนแก้วผู้เป็นหลานและพระยากาวิละที่ขัดตราคนละ 100 ที พร้อมทั้งให้ตัดขอบหูพระยากาวิละทั้งสองข้าง








สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

ถ้าดูแล้วพระองค์ท่านจะไม่ดูโหดเท่าพระเจ้าตาก แต่ก็เคร่งในช่วงศึกอยู่เช่นกัน อาจจะด้วยเนื่อง มีวังหน้า พระอนุชาในการนำทัพไปซะส่วนใหญ่ เมื่อปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์สมบัติแล้ว


1.) เมื่อครั้งสงคราม 9 ทัพเมื่อกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทตีทัพพม่าแตกไปได้ รัชกาลที่ 1 ก็ส่งสารไปถึงกรมพระราชวังบวรสถานภิมุขว่า ศึกทางกาญจนบุรีเสร็จสิ้นลงด้วยชัยชนะของกรมพระราชวังหน้า เหลือแต่ศึกทางเหนือที่กรมพระราชวังหลังทรงบัญชาการอยู่"...แม้กรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์คิดทำไม่สำเร็จ พระเศียรก็คงไม่ได้อยู่กับพระกายเป็นแน่แท้" ความหมายคือเร่งรัดให้ทัพกรมพระราชวังบวรสถานภิมุขและทัพเจ้าพระยามหาเสนายกเข้าตีค่ายพม่าที่ปากน้ำพิงให้แตกภายในวันเดียว ถ้ายืดเยื้อมากกว่านี้โทษถึงประหารชีวิต



2.) ช่วงสงครามตีเมืองทวายครั้งแรก มีพระราชโองการให้ตีค่ายปีกกาพม่าที่สกัดอยู่ทางไปเมืองทวายให้แตกภายในวันเดียว ถ้าล่วงวันจะทรงเอาโทษแม่ทัพนายกองถึงสิ้นชีวิต (ซึ่งก็ตีแตกได้)



3.) พ.ศ.๒๓๓๔ แขกเซียะยกมาตีเมืองสงขลาแตก พระยาพัทลุงกลัว เลยเทครัวเมืองพัทลุงหนีเข้าป่าตั้งแต่แขกเซียะยังมาไม่ถึง จึงกริ้ว โปรดให้ถอดพระยาพัทลุงของจากบรรดาศักดิ์ แล้วให้ลงอาญาจำไว้ที่กรุง


4.) ศึกทวายแต่ทวายดันกลับใจกลับลำไปอยู่ฝั่งพม่า ทัพเจ้าพระยารัตนาพิพิธสมุหนายก เจ้าพระยามหาเสนาสมุหพระกลาโหม เจ้าพระยายมราชต้านทัพพม่ากับทวายไม่อยู่ ต้องล่าถอยไปขอหลบเข้าค่ายกองหน้าทัพหลวงของพระยาอภัยรณฤทธิ์ พระยาอภัยรณฤทธิ์ไม่ยอมให้เข้าเพราะกลัวค่ายแตก ให้สามเจ้าพระยาตั้งรับอยู่นอกค่ายแทนแต่พม่าก็บุกมาจนไม่สามารถต้านทานได้ เจ้าพระยามหาเสนาสูญหายไปในสนามรบไม่พบศพ (พงศาวดารพม่าบอกว่าตายในสนามรบ ถูกพม่าตัดศีรษะไปได้) และค่ายพระยาอภัยรณฤทธิ์ก็ถูกพม่าตีแตกจนเสียไพร่พลไปจำนวนมาก

รัชกาลที่ ๑ ทรงขัดเคืองพระยาอภัยรณฤทธิ์มาก ดำรัสว่า “เสนาบดีผู้ใหญ่ทั้งสามนายมาถึงแล้ว ควรจะให้เข้าพักอยู่ในค่าย นี้มันถือกฎหมายอะไรของมัน ไม่ให้เสนาบดีผู้ใหญ่เข้าอยู่ในค่าย จนเสียแม่ทัพนายกองเปนอันมาก”

จึงโปรดให้ทำกระทู้ถามพระยาอภัยรณฤทธิ์ ก็รับเป็นสัตย์ จึงโปรดให้ประหารชีวิต




ถึงพระองค์จะทรงเคร่งครัดแต่ก็เคยมีเหตุการณ์ขอชีวิตไว้เช่นกัน ในเมื่อพระอนุชาของพระองค์ บัญชาทัพออกศึกแทนพระองค์


1.) ช่วงสงครามเก้าทัพ เจ้าพระยาธรรมาธิกรณ์กับพระยายมราชตั้งค่ายอยู่ที่ราชบุรีทำการประมาท ไม่ได้ส่งคนไปลาดตระเวนหาข่าวจนไม่รู้ว่ามีค่ายพม่าตั้งอยู่ที่ไหนบ้าง กรมพระราชวังบวรกริ้ว ส่งหนังสือมากราบทูลขอประหารชีวิต รัชกาลที่ ๑ ทรงเห็นว่าทั้งสองมีความชอบมาแต่ก่อนจึงขอชีวิตไว้แต่ให้กรมพระราชวังบวรลงโทษตามอาญาศึก ทั้งสองจึงถูกโกนศีรษะสามแฉก ให้ตระเวนรอบค่าย แล้วถอดจากบรรดาศักดิ์ นายทัพนายกองถูกลงอาญาเฆี่ยนทั้งสิ้น






สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท

อาจจะไม่ได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ แต่พระองค์ท่านนั้น ออกรบตลอดช่วงจนวันสุดท้ายของพระองค์ ตั้งแต่สมัยกรุงศรี พระเจ้ากรุงธนบุรี รวมถึง ร.1 ซึ่งเป็นพระเชษฐาโดยตรง ที่พอขึ้นครองราชย์ก็ออกศึกแทนตลอด ชื่อของท่านบางคนเรียกสั้นๆว่า "วังหน้า" ส่วนชื่อ "พระยาเสือ" นั้นก็เกิดจากที่พระองค์ทรงปกครองบัญชาการรบที่เข้มข้นกับทหารพม่าขยาดพระองค์ เปรียบเสมือนเสือร้าย แล้วพระองค์ต่างจาก ร.1 ที่ทรงเป็นพี่ชายแท้ๆดูจะอ่อนๆกว่า

1.) สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทจึงทรงห้พระยาสีหราชเดโช พระยาท้ายน้ำ และพระยาเพชรบุรี เป็นนายทัพกองโจร ไปคอยดักทำลายกองลำเลียงเสบียงของพม่าที่เข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์ แม้ชาติคับขันถึงเพียงนี้ ทั้ง ๓ พระยายังคิดถึงชีวิตของตัวมากกว่าชาติ เมื่อได้ข่าวว่าพม่ามาทางไหน ก็หลบไปตั้งสกัดอีกทางหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ขุนหมื่นในกองโจรทนดูไม่ได้หลบมากราบทูลฟ้อง กรมพระราชวังบวรฯทรงส่งคนไปสอบ เมื่อได้ความจริงตามฟ้อง จึงให้ตัดหัวพระยาทั้ง ๓ ใส่ชะลอมมาเสียบประจานไว้หน้าค่าย แล้วดำรัสให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าขุนเณร ไปเป็นนายทัพกองโจรแทน


2.) เมื่อกรมพระราชวังบวรทรงเห็นว่าทหารพม่าอ่อนกำลังแล้ว จึงดำรัสให้นายทัพนายกองออกตีค่ายพม่า แต่พม่าก็ยังป้องกันค่ายได้อย่างเหนียวแน่น ทำให้ฝ่ายไทยไม่อาจบุกทะลวงได้ ทั้ง ๒ ฝ่ายต่างล้มตายเป็นจำนวนมาก ตกค่ำนายทัพไทยจึงสั่งถอยกลับเข้าพักยกในค่าย แต่เมื่อกรมพระราชวังบวรฯที่พม่าให้ฉายาว่า “พระยาเสือ” ทรงทราบ จึงมีพระบัณฑูรให้ทำครกใหญ่ตั้งไว้กลางค่าย ๓ ครก ประกาศให้แม่ทัพนายกองทั้งหลายรู้ทั่วกันว่า ต่อไปถ้าใครถอยทัพหนีพม่า จะเอาตัวลงโขลกในครก ทหารไทยจึงลุยกันลูกเดียว เพราะตายในสนามรบยังมีเกียรติกว่าตายในครก


3.) กรมพระราชวังบวรฯจึงทรงแบ่งกองกำลังให้พระยากลาโหมราชเสมาลงไปจัดการกับกองทัพพม่าที่ชุมพร แต่เมื่อเดินทัพมาถึงเมืองราชบุรีก็พบกองทัพพม่าตั้งค่ายอยู่นอกเขางู ห่างเมืองราชบุรีเพียง ๕ กม. เก็บผักผลไม้ของชาวบ้านกินกันสบาย โดยกองทัพไทยก็ไม่รู้ เพราะอยู่แต่ในเมืองไม่ส่งกองลาดตระเวนออกไปดูข้างนอก พระยากลาโหมฯเลยจัดการทัพพม่าจนแตกพ่าย และรายงานพฤติกรรมของแม่ทัพไทยให้กรมพระราชบวรฯทรงทราบ “พระยาเสือ” ทรงพิโรธสั่งให้ประหารชีวิตทั้งแม่ทัพและผู้ช่วย แต่พระเจ้าอยู่หัวทรงขอชีวิตไว้ เพียงให้ถอดยศและโกนหัวแห่ประจานรอบค่าย ส่วนนายทัพนายกองถูกลงพระราชอาญาเฆี่ยนทั้งสิ้น






บทความนี้ก็เอามาจากหลายๆเว็บครับ ที่มีจากการบันทึก ว่าออกศึกในสมัยก่อนนี้เข้มขนาดไหน ถ้าเกณฑ์ไม่มาก็ฆ่าเสียทิ้งดีกว่า แต่ปัจจุบันผมว่า ก็เข้ม แต่คงไม่ถึงขั้นประหารแม่ทัพเหมือนสมัยนี้ ถ้าออกศึกพลาด แต่กว่าจะเป็นยอดนักรบ ต้องมีความโหดเหี้ยมให้ทหารกลัวตายมากกว่าไปตายดาบศัตรู









แหล่งที่มา : https://sites.google.com/site/ratanakosin12/bukhkhl-sakhay/nay-buy-ma
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9580000124452
https://www.silpa-mag.com/club/art-and-culture/article_6632
https://pantip.com/topic/35500184
http://www.mountainpeaknews.com/archives/3912
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออนไลน์
โค้ช C-License
Status: Middle fingers up if you don't give a f**k
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Apr 2010
ตอบ: 39646
ที่อยู่: ข้าวเหนียวมะม่วงรสช็อคโกแลต
โพสเมื่อ: Mon Dec 17, 2018 21:21
[RE: กษัตริย์ของไทย ที่เป็นมหาราช ชาตินักรบ ในมุมอื่นๆนอกจากรบเก่ง]
เรื่องความโหดมันพูดยากเหมือนกัน สังคมสมัยก่อนกับสมัยนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

SAVE OF THE CENTURY !!

ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Apr 2007
ตอบ: 11031
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 17, 2018 21:21
[RE: กษัตริย์ของไทย ที่เป็นมหาราช ชาตินักรบ ในมุมอื่นๆนอกจากรบเก่ง]
มันเป็นไปตามยุคสมัย การศึกไม่ใช่เรื่องเล่น

แต่อีกประเด็นคือ "อำนาจ" ไม่เข้าใครออกใคร หายากที่จะไม่ใช้พระเดช และคนซวยคือ..ราษฎรนั่นเอง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Sep 2010
ตอบ: 740
ที่อยู่: 24534
โพสเมื่อ: Mon Dec 17, 2018 21:27
[RE: กษัตริย์ของไทย ที่เป็นมหาราช ชาตินักรบ ในมุมอื่นๆนอกจากรบเก่ง]
ประวัตศาสตร์ เกิน 30%ผมว่าเป็นเรื่องปรุงแต่ง
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Nov 2018
ตอบ: 7528
ที่อยู่: CNX
โพสเมื่อ: Mon Dec 17, 2018 21:31
ถูกแบนแล้ว
[RE: กษัตริย์ของไทย ที่เป็นมหาราช ชาตินักรบ ในมุมอื่นๆนอกจากรบเก่ง]
PATOL พิมพ์ว่า:
ประวัตศาสตร์ เกิน 30%ผมว่าเป็นเรื่องปรุงแต่ง  


ก็นะมันพิสูจน์กันไม่ได้หรอก

ผมไม่เชื่อหรอกว่าอย่างอเล็กซานเดอร์ หรือเจงกีส ข่าน จะรบแถวหน้าแล้วรอดตัวมาได้ขนาดนั้น

ระดับบัญชาการมันต้องมีคนคุ้มกัน

ยกเว้นอย่างตอนท้าดวลแบบยุทธหัตถีละมั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Nov 2018
ตอบ: 1309
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 17, 2018 21:39
ถูกแบนแล้ว
[RE: กษัตริย์ของไทย ที่เป็นมหาราช ชาตินักรบ ในมุมอื่นๆนอกจากรบเก่ง]
ไม่เกี่ยวกับเนื้อหา แต่ชอบการใช้สีตัวอักษรอ่ะ เพลินตาดี 5555
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: ถ้าเธอพบกับรักใหม่..ดวงใจของฉันปวดร้าว
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Jun 2007
ตอบ: 8532
ที่อยู่: ชายละเบื่อไม่อยากจะพูด
โพสเมื่อ: Mon Dec 17, 2018 21:45
[RE: กษัตริย์ของไทย ที่เป็นมหาราช ชาตินักรบ ในมุมอื่นๆนอกจากรบเก่ง]
เคยอ่านในมติชนเกี่ยวกับพระราชมนูว่า
น้อยใจเพื่อนๆ ได้เป็นใหญ่เป็นโต คุมหัวเมืองใหญ่ๆ แต่พระนเรศให้พระราชมนูไปคุมแถวๆเขมร พักหลังๆน้อยใจพระนเรศมีคำสั่งมาจากในวังหลวงก็เมินเฉย เลยโดนประหารไปซะงั้น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1397
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 17, 2018 22:19
[RE: กษัตริย์ของไทย ที่เป็นมหาราช ชาตินักรบ ในมุมอื่นๆนอกจากรบเก่ง]
ชอบอ่านเรื่องเล่าประวัติศาสตร์แบบนี้มาก ส่วนมากผมอ่านตามต่วยตูนเล่มใหญ่ ใครมีที่ให้อ่านแบบนี้ผมขอหน่อยครับ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
SPx
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2015
ตอบ: 6473
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 17, 2018 22:26
[RE: กษัตริย์ของไทย ที่เป็นมหาราช ชาตินักรบ ในมุมอื่นๆนอกจากรบเก่ง]
เรื่องปกติของยุคสมัยก่อน โหดร้าย ป่าเถื่อน รุนแรง
ลองไปอ่านประวัติกษัตริย์ในยุโรป เอเชียกลาง หรือจีนก้ได้ครับ
กษัตริย์บางคนไม่มีผลงานอะไรดีๆก้ใช้อำนาจโหดร้ายกว่านี้อีกครับ เข้านั้นทรราชเลย

แต่สมัยนั้นมันต้องเด็ดขาด ถ้าอ่อนข้ออะไรนิดเดียวได้มีกบฏแน่ๆ
แก้ไขล่าสุดโดย SPx เมื่อ Mon Dec 17, 2018 22:26, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Aug 2009
ตอบ: 452
ที่อยู่: Saint Petersburg State University
โพสเมื่อ: Mon Dec 17, 2018 22:56
[RE: กษัตริย์ของไทย ที่เป็นมหาราช ชาตินักรบ ในมุมอื่นๆนอกจากรบเก่ง]
JatukamRamaInW พิมพ์ว่า:
เคยอ่านในมติชนเกี่ยวกับพระราชมนูว่า
น้อยใจเพื่อนๆ ได้เป็นใหญ่เป็นโต คุมหัวเมืองใหญ่ๆ แต่พระนเรศให้พระราชมนูไปคุมแถวๆเขมร พักหลังๆน้อยใจพระนเรศมีคำสั่งมาจากในวังหลวงก็เมินเฉย เลยโดนประหารไปซะงั้น
 


เป็นพระศรีถมอรัตน์ที่น้อยใจเพราะแม่ทัพนายกองรุ่นหลังได้รับการอวยยศข้ามขั้นตนเอง เช่น กรณีของพระราชมนูที่เด็กกว่ายังได้รับการอวยยศเป็นเจ้าพระยามหาเสนาธิบดี ตำแหน่งสมุหกลาโหม ข้ามตำแหน่งพระยาซึ่งในขณะนั้นพระศรีถมอรัตน์ได้รับการอวยยศเป็นพระยาศรีไสยณรงค์ครับ นอกจากนี้ยังได้ถูกส่งไปรั้งตำแหน่งเจ้าเมืองตะนาวศรี ซึ่งอยู่ไกลมากๆ ติดชายแดนพม่า จึงคิดว่าถูกลดความสำคัญลง (อ้างอิง:https://www.thairath.co.th/content/727440 และ http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=630108)

โดยส่วนตัวคิดว่าพระนเรศวรอาจลดความสำคัญพระศรีถมอรัตน์จริง เนื่องจากไม่ทำตามคำสั่งเมื่อครั้งพระมหาอุปราชายกทัพเข้าตีกรุงศรีอยุธยา โดยไม่ถอยทัพตามกลศึกแต่ยกทัพเข้าปะทะ ซึ่งโชคยังดีที่พระนเรศวรได้รับชัยชนะจากศึกยุทธหัตถี ซึ่งในความเป็นจริงหากทำพลาดต้องได้รับโทษตามอาญาทัพ แต่อาจเป็นเพราะมีผลงานแต่ก่อนและฝ่ายอยุธยาได้รับชัยชนะจึงไม่ได้ลงอาญา แต่ก็ลดความสำคัญลงไปครับ (บางพงศาวดารก็บอกว่าสมเด็จพระวันรัตน์ขอบิณฑบาตชีวิต พระนเรศวรจึงให้แม่ทัพนายกองไปทำศึกเพื่อไถ่โทษครับ)
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งดัทช์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Oct 2009
ตอบ: 9298
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 17, 2018 22:59
[RE: กษัตริย์ของไทย ที่เป็นมหาราช ชาตินักรบ ในมุมอื่นๆนอกจากรบเก่ง]
คนมีอำนาจ ก็จะใช้อำนาจในการเบียดเบียนคนอื่น เป็นทั่วโลกและทุกคนแน่นอน
ประวัติศาสตร์ผมก็เอาไว้อ่าน แต่ไม่ยกย่องใครเพราะไม่รู้ว่าจริงๆมันคืออะไร
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 1553
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 17, 2018 23:14
ถูกแบนแล้ว
[RE: กษัตริย์ของไทย ที่เป็นมหาราช ชาตินักรบ ในมุมอื่นๆนอกจากรบเก่ง]
K/DA Taric พิมพ์ว่า:
PATOL พิมพ์ว่า:
ประวัตศาสตร์ เกิน 30%ผมว่าเป็นเรื่องปรุงแต่ง  


ก็นะมันพิสูจน์กันไม่ได้หรอก

ผมไม่เชื่อหรอกว่าอย่างอเล็กซานเดอร์ หรือเจงกีส ข่าน จะรบแถวหน้าแล้วรอดตัวมาได้ขนาดนั้น

ระดับบัญชาการมันต้องมีคนคุ้มกัน

ยกเว้นอย่างตอนท้าดวลแบบยุทธหัตถีละมั้ง  


เป็นไปได้ครับ
เพราะสมัยก่อนคนที่จะเป็นแม่ทัพกษัตริย์นักรบ คือรบเก่งด้วย เอาชนะคนอื่นขึ้นมาได้ ได้รับการยอมรับเกรงกลัวจากทหารคนอื่นๆ คือเป็นทหารชั้นยอดอะ หลายๆคนก็ไต่เต้ามาจากทหารแม่ทัพนายกอง ก่อนปฏิวัติ
กษัตริย์สมัยก่อนตายในการรบเยอะแยะครับ ถ้าไม่รบแนวหนา้ไม่ตายหรอก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Feb 2010
ตอบ: 14855
ที่อยู่: Weserstadion
โพสเมื่อ: Tue Dec 18, 2018 00:43
[RE: กษัตริย์ของไทย ที่เป็นมหาราช ชาตินักรบ ในมุมอื่นๆนอกจากรบเก่ง]
ถ้าเมื่อไหร่มีคำว่า "เผาทั้งเป็น" ให้อนุมานไว้ก่อนเลยว่าฝรั่งเขียนยกเมฆ

เพราะทางภูมิภาคนี้ที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนาพราหมณ์มามาก การเผาคือพิธีที่มีเกียรติ

เช่นการเผาศพผู้ตาย หรือพิธีสตีของอินเดีย เพราะฉะนั้นจะไม่มีการลงโทษโดยการเผา
แก้ไขล่าสุดโดย G.Conlon เมื่อ Tue Dec 18, 2018 00:45, ทั้งหมด 1 ครั้ง
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยผู้จัดการทีมสำรอง
Status: เรื้อนเพราะรัก ไม่รักไม่เรื้อน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 33991
ที่อยู่: 乃木坂46
โพสเมื่อ: Tue Dec 18, 2018 05:12
[RE]กษัตริย์ของไทย ที่เป็นมหาราช ชาตินักรบ ในมุมอื่นๆนอกจากรบเก่ง
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Dec 2005
ตอบ: 631
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Dec 18, 2018 07:26
[RE: กษัตริย์ของไทย ที่เป็นมหาราช ชาตินักรบ ในมุมอื่นๆนอกจากรบเก่ง]
JatukamRamaInW พิมพ์ว่า:
เคยอ่านในมติชนเกี่ยวกับพระราชมนูว่า
น้อยใจเพื่อนๆ ได้เป็นใหญ่เป็นโต คุมหัวเมืองใหญ่ๆ แต่พระนเรศให้พระราชมนูไปคุมแถวๆเขมร พักหลังๆน้อยใจพระนเรศมีคำสั่งมาจากในวังหลวงก็เมินเฉย เลยโดนประหารไปซะงั้น
 


คนที่โดนประหารคือพระยาศรีไสยณรงค์ครับ คือตามตำแหน่งตามรุ่นแกมาก่อนพระราชมนู แต่พอพระราชมนูสร้างความชอบในศึกพิขิตละแวกแล้วได้เลื่อนเป็น เจ้าพระยามหาเสนาบดี ที่สมุหพระกลาโหม ซึ่งเกินหน้าพระยาศรีไสยณรงค์ที่ตอนนั้นถูกสั่งให้รักษาการเมืองตะนาวศรีที่พึ่งตีได้จากพม่า แกเลยน้อยใจเปรย ๆ ว่าไปเข้ากับพม่าน่าจะได้ดีกว่านี้ แต่คำพูดนี้ดันมีคนคาบข่าวมาบอกทางกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรเลยให้สมเด็จพระเอกาทศรถนำทัพไปปราบ ซึ่งพระยาศรีไสยณรงค์แกก็ไม่ได้สู้ เลยโดยพระเอกาทศรถกุมตัว เมื่อสอบสวนแล้วสมเด็จพระนเศวรตทรงมีรับสั่งลงมาให้ประหารชีวิตเสียที่ตะนาวศรีครับ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel