"ก้าวข้าม" คุณต้องเหนือกว่าทุกระดับ

ก็ไอ่ตอนแรกก็แฟนบอลนี่ไม่ใช่หรอที่บอกอย่าไปดึงชุดใหญ่จัดเต็มมา เราต้องก้าวข้ามอาเซียนโดยการไม่เน้น

ส่ง U-23 ไปเลย แต่ประเด็นคือสุดท้ายก็ยังกดดันว่ายังไงต้องแชมป์เท่านั้นอยู่ดี คิดว่ามาตรฐานเราห่างเขามากมั้ง

พอมางี้บอกเราต้องจัดเต็มชนะอาเซียนให้ขาดซะก่อนถึงจะเรียกว่าก้าวข้าม สรุปต้องการอะไรกันแน่

คำตอบต้องเอาแบบแรกกับแบบที่สองมาทำรวมกันให้สำเร็จครับถึงจะถูกใจแฟนบอล

ง่ายๆ ไม่ต้องอธิบายเยอะ แบบที่ฟุตซอลหรือญีปุ่นทำนั่นแหละ

กรณีไทย เราได้ทุกอย่างในอาเซียนได้มานมนาน แต่พอไประกับเอเซียโดนตบหัวทิ่มทุกที ชึ่งมันก็มีหลายปัจจัย

แต่วันนี้ เราพัฒนาขึ้นอยู่ก้ำกึ่งระหว่างอาเซียนกับเอเซีย และนักเตะเราหลายคนศักยภาพไประดับเอเซีย และหลายคนก็เหนือกว่าอาเซียนแต่ไม่ถึงระดับเอเซีย

ระดับเอเซียสำหรับผมคือ ฝีเท้าใกล้เคียงกับ 5-6ทีมแรกของเอเซีย ชึ่งนักเตะไทยส่วนใหญ่หากจะเทียบก็เกรด3ของเอเซีย ชึ่งอาเซียนจะเป็นเกรด4ลงไปจนถึงเกรดต่ำสุด

ผมไม่นานนมนะ เพิ่งจะได้ 2 สมัยในรอบ 12 ปีนี้คือนานนม ??????? ยังอีกเยอะมันต้องให้ได้ติดต่อกัน 5 สมัยติดก่อน ถึงพูดได้เต็มปาก

เราไม่ได้ก้าวข้ามอาเซียนเลยนะครับ
งานมีให้ทำอีกเยอะมาก เมื่อทุกทีมชาติพัฒนากันหมด

ล่าสุดโดนมาเลปูพรมใส่ จะบอกว่าขาดตัวต่างประเทศก็ไม่แปลก
แต่คำว่าก้าวข้าม คุณต้องเห็นเป็นประจักษ์ชัดเจนว่า ชุด2หรือชุด3ของเรา สามารถต่อกรกับทีมอาเซียนแบบไม่หนักใจ เรียกว่าให้เอาชุด3มา คุณมั่นใจ และเล่นได้ดีหวังผลได้

ตอนนี้ชุดหลักเราขาด3-4คน งานเข้าเลย

ยังอีกเยอะครับ

ผมเองทันยุคที่ไทยครองอาเซียน ผมทันดูยุคที่บอกว่าปิยพงษ์ล้มบอล ผมจึงใช้คำว่า มานมนาน

ยุคนั้นไทยเหนือกว่าอาเซียนมาก แต่ก็ตามที่บอกบอกข้างบน

ก้าวข้ามอาเซียนสำหรับผมไม่มองถึงแชมป์พวกอาเซียนนะ ยิ่งถ้าเราส่งออกนักเตะไปเล่นต่างประเทศได้เพิ่มมากขึ้นเท่าไร ความสำคัญมันก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น

เอาตรงๆปีนี้สำหรับผมถือว่าเป็นจุดที่ดีนะคือเราไม่ต้องดึงแข้งจกต่างแดนมา ถึงแม้ว่าฟอร์มจะทุลักทุเล แต่การตกรอบรองด้วยอเวย์โกลไม่ใช่เรื่องเสียหายขนาดนั้น ผมถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการก้าวข้ามแล้ว หวังว่าปรต่อๆไปเราจะทำแบบนี้ และได้ผลลัพท์ที่ดีกว่านี้

ส่วนเรื่องแชมป์ผมพูดตามความคิดนะ ไอ้รายการที่ได้แต้มน้อยกว่าฟีฟ่าเดย์ แถมยังใช้เวลาแข่งที่สร้างปัญหาแบบนี้ ไม่จำเป็นหรอกครับ อยากให้ส่งเด็กไปด้วยซ้ำ แต่ก็เข้าใจแหละว่าแฟนบอลต้องการความสำเร้จเพราะมันเป็นถ้วยเดียวที่เราหวังถึงแชมป์ที่มีค่าไว้แค่ข่มกันในอาเซียน

ถ้าอยากวัดฝีมือจริงๆก็จัดเลยครับกระชับมิตรตามฟีฟ่าเดย์แบบเนชั่นลีกของยุโรปไง ได้แต้มด้วย แถมเป็นชุดใหญ่ด้วย แพ้ชนะก็ไม่ต้องมีข้ออ้างใดๆ จะได้รู้กันเลยว่าใครเบอร์1 ใครก้าวข้ามได้

ต้องเข้าใจว่าปีนี้ จัด AFF ใกล้กับ เอเชี่ยนคัพ แล้วเรายังจะควรไปเน้น กับ AFF เพื่ออะไร

ก้าวข้ามอาเซียน มันก็ต้องควบคู่กันไป ให้ความสำคัญกับรายการใหญ่มากกว่า

AFF นี่ควรเป็นเวทีแจ้งเกิดของนักเตะ ไม่เฉพาะ U23 แต่รวมๆ ให้โอกาสนักเตะในลีค

ไม่ใช่ว่าไม่ให้ไปแข่งแบบไม่จริงจังนะ ไม่ใช่ว่าไปแบบ ไม่แชมป์ไม่เป็นไร

ุ้ถ้าเรามัวแต่เอานักเตะชุดใหญ่ มาเอาแชมป์ AFF แล้วเมื่อไรจะก้าวข้ามละ

ขอถามข้อสงสัยอย่างนึง สมมติว่าโค้ช A ทำทีมชาติไทยได้แชมป์ AFF 3สมัยรวดแล้วลาออกไป โค้ช B โปรไฟล์อาจจะดีกว่า A เข้ามาทำต่อ ยังต้องมาทำให้ได้ไอ้ 3สมัยรวดต่อจาก A หรือทำทีมแบบมองไปไกลกว่าเดิมแล้ว?

ส่วนตัวกระผมแล้ว มองว่า การเล่นในระดับ อาเซียน เอเชีย โลก นั้น มันควรจะไปในทิศทางเดียวกันอ่ะ คือถ้าจะก้าวข้ามระดับอาเซียน เราต้องเล่นกันได้ดี มีการใช้นักเตะในทุกระดับ ยึดความเป็นมือหนึ่ง เป็นเจ้าอาเซียน แล้ก็ไต่ไประดับเอเชีย ไต่ระดับไปเรื่อยๆ เฉกเช่นเพื่อนสมาชิกท่านอื่นๆ ที่ให้ความเห็นไปในแนวทางนี้นี่ละครับผมมมมม

ขอตอบในความเห็นผมนะ โค๊ช B ก็ควรบริหารจัดการ ทำรูปแบบ แนวทาง ที่ควรจะดีกว่า โค๊ช A เพราะทำในนามทีมชาติ ควรมีแนวทาง ทิศทาง ไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่ระดับอาเซียนผลงานห่วย ระดับเอเชียผลงานจะดี มันขัดแย้งกันอ่ะ กับคำว่าฝีมือที่คงที่

ควรทำแบบปิรามิดครับ

ไม่ใช่ปิรามิดกลับหัว

คือถ้าต่อไปบอลไทยพัฒนามาถึงช่วงกลางๆ คงเป็นช่วงที่นักเตะทีมชาติออกไปเตะต่างแดนกันเยอะ

เราก็คงต้องส่งนักเตะในลีคไปแข่ง บางทีชาติอาเซียนอาจจะมาเตะในไทยลีคมากขึ้นเพราะโควต้า

ถึงตอนนั้นถ้าเราส่งนักเตะในลีคไทยไปแข่งแล้ว ไม่ได้ผลลัพธ์คิดว่าบอลเราพัฒนาเปล่า

พูดภาพง่ายๆนะครับ เจไปเจลีคขณะที่ตัวทีมชาติญี่ปุ่นออกไปยุโรปกันเยอะแล้ว

ขณะที่ อ่องธุ (อาจจะมีชาติอื่นๆเพิ่ม) มาไทยลีค

มองออกมั้งครับ