[Man City] รากฐานที่มั่นคง รากฐานแห่งความมั่งคั่ง
เชื่อว่าหลายคนคงมีความคิดเห็นส่วนใหญ่ว่าระบบของเยาวชนลงทุนไปตั้ง 200 ลป. กับการสร้างสนามฝึกซ้อมที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก แต่แม้จะผ่านมาได้หลายปีกลับไม่มีใครได้เห็นเยาวชนที่ผ่านจากศูนย์ฝึก CFA นี้ได้โลดแล่นอย่างจริงจังภายใต้เสื้อสีฟ้าของทีมชุดใหญ่
คำถามมากมายเกิดขึ้น....หรือว่าการบริหารงานในการสร้างเยาวชนของแมนซิตี้จะล้มเหลว ? กับการที่ซิตี้ทุ่มซื้อนักเตะดีๆมากมายแล้วเยาวชนเหล่านั้นจะไปจบลงที่ตรงไหน ?
อย่างไรก็ตามหลายคนอาจไม่รู้ว่าภายใต้ผลประกอบการที่ดีวันดีคืน แม้ว่าจะลงทุนในแต่ละฤดูกาลมากมายกับการเปลี่ยนแปลงนักเตะ แต่ผลประกอบการของแมนซิตี้กลับมีแต่กำไร กำไร กำไร
ทำไม ?
บางทีนี่อาจเป็นหนึ่งในคำตอบ รายงานจาก 'เดลี่ มิร์เรอร์' แท็บลอยด์เมืองผู้ดีว่านับตั้งแต่ 'เรือใบสีฟ้า' เทงบลงทุนสร้าศูนย์ฝึกเยาวชนก็เริ่มผลิดอก ออกผลให้เก็บกินแบบต่อเนื่อง
ตัวอย่างผลผลิตที่จำหน่ายออกก็เช่น จาดอน ซานโช่, ปาโบล มาฟเฟโอ, มาร์กอส โลเปส หรือ เจสัน เดอนาเยร์
โดยตั้งแต่มีการจดบันทึกตั้งแต่ปี 2014 บรรดาทีม 'บิ๊ก 6' อันประกอบด้วย ซิตี้, เชลซี, อาร์เซน่อล, แมนฯ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล ปั้นเด็กขายออกรวมกันที่ 42 คน เป็นมูลค่ารวม 113,714,252 ปอนด์
และค่ายที่ขายดีสุดคือ
'เรือใบสีฟ้า' มูลค่า 70,672, 876 ปอนด์ (ราว 310.96 ล้าน บาท) มากกว่าอันดับสอง ท็อตแน่ม(11.7 ล้าน ปอนด์) ถึง 7 เท่า หรือมากกว่า ลิเวอร์พูล อันดับ 6 (3.31 ล้าน ปอนด์) ห่างไกลถึง 21 เท่า
มาถึงตรงนี้บางคนอาจเริ่มมีคำตอบ ทีมเรือใบสีฟ้านั้นดูเหมือนว่าจะไม่ได้เพียงแค่มองถึงการค้นหานักเตะฝีเท้าดีเติมเต็มให้กับทีมชุดใหญ่ พวกเขาเลือกที่จะทำธุรกิจควบคู่กันไปด้วย
จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะไม่เห็นเยาวชนมากหน้าหลายตาที่สามารถสอดแทรกเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสร กลับกันเรามักจะเห็นผู้บรรยายในแต่ละเกมให้ข้อมูลกับพวกเราในระหว่างที่ชมการแข่งขันว่า "นักเตะคนนี้เคยเป็นเยาวชนของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้"