ไม่น่าล่ะ ช่วงนึงผมโคตรสงสัย คาร์ริคเป็นอะไร กากมากๆ เคาะคืนหลังอย่างเดียวเลย

ถือว่าเป็นทีมที่เกือบจะทำลายอาถรรพ์ UCL ได้ก็ถือว่าสุดยอดแล้วหละ

แกมุ่งมั่นตั้งใจจริงคนนี้ยอมรับครับ ก่อนหน้านั้นปี 2007/2008 เพิ่งเอาชนะ เชลซี มาได้จนเป็นแชมป์ชปล. แกยังเสียดายปี 2009 เลย

สิ่งนึงที่ป๋ามีนอกจากฝีมือคือ คำพูดปลุกใจของแกนี่แหละ

มันแค่ฟิลดาวน์จากโมเมนตั้มทีม
สื่อเอย แฟนบอลฝั่งตรงข้ามเอย ขยี้มาเถอะ
บุคลากรของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นกันแบบนี้ไม่นานหรอก

คนมันมันป่วยอยู่ ทีมมันป่วยอยู่ กระทืบมาเถอะ ไม่มีแรงสู้หรอกตอนนี้

เดี๋ยวทรงๆลุกๆขึ้นมาได้ค่อยว่ากันใหม่

แมทช์นั้นบาร์ซ่าสุดยอดจริง
แมนยูขาดความละเอียดในการเล่นเกมรับมากๆด้วย
วันนั้นเล่นกันผิดพลาดง่ายๆอย่างน่าประหลาดใจ
ช่วงนั้นทีมไม่มีตัวทีเด็ดลงมาเปลี่ยนเกมเหมือนสมัย 98/99 ด้วย
แต่ถึงไงชนะด้วยกันทั้งทีมแพ้ก็แพ้ไปด้วยกัน

ใช่หลังจากลูกนั้น คาริคจ่ายเสียง่ายๆประจำ เคยคิดเหมือนกันว่ามาจากลูกนั้น เพราะก่อนหน้านั้น คาริคไม่ค่อยจ่ายบอลเสีย พอแกมาเล่าย้อนหลังแล้ว เห็นใจแกเลย ถึงคนอื่นจะไม่ได้โทษแก แต่ตนเองคงอดคิดโทษตนเองไม่ได้

นัดนั้นข่วงแรก แมนยูฯบุกเข้าใส่ก่อนด้วย แต่พอบาซ่านำ ก็เล่นครองบอลตามถนัด แมนยูฯหาบอลไม่เจอ จนมาโดนเมสซี่โหม่ง 2-0 เกมนี้น่าเสียดายจริงๆ ถึงจะแพ้ก็ไม่ควรหมดรูปขนาดนั้น จริงๆ 2009 ทีมไม่ห่างกันเหมือนรูปเกม ปีที่ทีมมันห่างชั้นกันสุดๆคือปี 2011 มันเป็นจุคพีคของบาซ่ายุคเป๊บด้วย

หลังจากนั้นก็โดนแฟนผีด่า แฟนผีไล่มาตลอด พึ่งมายกย่องก่อนแขวน 2-3 ปีเองมั้ง

ยังไงแกก็กลับมาได้ เป็นตำนานของแฟนๆแมนยูเลยนี่ถือว่าแกเข้มแข็งมากแหละ

ช็อตป๋านั่งกำหมัด คือเจอบาซ่านัดชิงปี 2011 นะครับ

ไม่มีอะไรมาแบบง่ายๆหรอก ผมรู้สึกเหมือนกับว่าติดอยู่ในร่อง, เดี๋ยวหยุดเดี๋ยวเดินหน้าแล้วก็หยุด ผมพยายามแล้วแต่ผมปลุกตัวเองมาใช้ชีวิตไม่ได้ ความมั่นใจเป็นส่วนนึงในผลงานของนักกีฬา เวลามีความมั่นใจอยู่คุณก็ไม่เห็นค่าและถ้ามันหายไป ก็รู้สึกสิ้นหวัง"

โดนผมเหมือนกัน แต่ไม่ใช่แบบนักกีฬา เป็นเรื่องของหัวใจล้วนๆ

ผ่านมาเป็น 10 ปีก็ยังไม่ลืม อาการเดียวกันเลย

ยุคนั้นบาร์ซ่าครองโลกโหดจริงๆ แมนยู (ที่ช่วงนั้นก็พีคมากๆ) ดันดวงไม่ดีเข้าขิงไปเจอทั้ง 2 ครั้งเลย

ตอนนั้นแกลงเล่นทั้งๆที่เจ็บด้วยนิ พอแพ้ปุ้ปไปกันใหญ่เลย
หลังจากนั้นคือฟอร์มตกแบบน่าใจหาย ใครเคยออกมาบอกผมจำไม่ได้ละ
ฟอร์มแกตกไป ปีสองปีเลยนะ คือแฟนแบบด่ายับ อยากให้ขายทิ้ง รวมถึงผมด้วย
แล้วมาประมาณปี 2012 แกเริ่มคืนฟอร์ม ปีสุดท้ายของเฟอกี้อะ ผมว่าแกโหดสุดละ
ตั้งแต่ย้ายมา ปีนั้นโหดสุดจริงๆ แต่พีคได้แค่ปีนั้นแหละ ปีต่อมามอยส์เข้ามา จบเลยแมนยู

ย่อหน้าล่าง คิดเหมือนผมเลย

ตอนปี 2009 ผมว่าสูสีมาก ๆ แต่ดันไปพลาดโดนก่อน ตอน 0-0 หรือ 1-0 แมนยูยังมีโอกาส

ตัวผู้เล่น ไม่ได้ถือว่าห่างชั้นกันเกินไป เป็นชุดแชมป์เก่าเกือบยกชุด

แต่ปี 2011 นั่นอ่ะ บาซ่าครองโลกของจริง นัดชิงปีนั้นเรียกว่าสู้แทบไม่ได้ทุกกระบวนท่า

ลูกที่ตีเสมอ เรียกว่าใช้โอกาสไม่เปลืองแล้วกัน แต่ทั้งเกมโอกาสน้อยมาก

นัดนั้นบาซ่ายิงได้ 3 ลูก ผมว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำมั้งถ้าดูจากรูปเกม โอกาสโคตรเยอะ

เจอ ซาบี้ อวย ก่อนเริ่มเกมอ่ะดิ

เอาจริงถ้าเอา เบิฟ นานี่ ลงแต่แรก ผมว่าพอสู้ได้นะ

พวกนี้เก็บบอล และเอาตัวรอดได้ เสียดายมากๆ