ยังไม่ถึงฆาต!! หงส์โกงตาย ’มาห์เรซ’ พลาดโทษท้ายเกมเจ๊า 0-0
ลิเวอร์พูล รอดพ้นจากการแพ้นัดแรกในพรีเมียร์ลีกอย่างไม่น่าเชื่อหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้จุดโทษ ช่วง 5 นาทีสุดท้ายแต่ริยาร์ด มาห์เรซ ยิงข้ามคานช็อกโลก ลงท้ายเสมอโนสกอร์ ทำให้ตอนนี้ทั้ง’เรือใบ’ ,’สิงห์บลู’ และ ‘หงส์แดง’ มี 20 แต้ม เรียงหน้า 1,2 และ 3 โดยเจ้าถิ่นเริ่มแผ่วไม่ชนะทุกรายการมาแล้ว 4 นัดติดแล้ว
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
7.
เจมส์ มิลเนอร์
29'
6
9.
โรแบร์โต้ ฟิร์เมียโน่
72'
6
ตัวสำรอง
66.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
8.
นาบี เกอิต้า
29'
6
15.
แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
72'
6
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม แอนฟิลด์
อาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2561
กรรมการ มาร์ติน แอตกินสัน
ลิเวอร์พูล
0
0
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ลิเวอร์พูลแพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2003 โดยหลังจากนั้นเป็นการชนะ 12 และเสมอ 5 นัดแต่ฟอร์มพวกเขาแกว่งไป 3 เกมหลังไม่ชนะใครทว่าก็มีข่าวดีเมื่อนาบี เกอิต้าเรียกความฟิตกลับมาเป็นสำรอง โดยตำแหน่งกองหลังมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยถอนเทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ที่ฟอร์มหลุดไปแล้วเอาโจ โกเมซโยกมาแทนทำให้เดยัน ลอฟเรนได้เสียบเซ็นเตอร์แทนขณะที่แดนหน้ายังเหมือนเดิม นอกจากนั้นพวกเขากำลังทำสถิติไม่เสียประตูในบ้าน 9 เกมติดต่อกันยาวนานเป็นอันดับ 2 ต่อจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเมื่อปี 1994 ที่ทำไว้ 12 นัด
ด้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังไม่มีเควิน เดอ บรอยน์ที่กลับมาซ้อมแล้วแต่ไม่ฟิตพอทำให้แบร์นาร์โด้ ซิลวาได้เสียบตำแหน่งนี้โดยริยาด มาห์เรซได้ออกสตาร์ตก่อนเลรอย ซาเน่โดยมีเซร์คิโอ อเกวโร่และราฮีม สเตอร์ลิ่งในแนวรุก
ซาลาห์หลอกยิงไม่ตรงกรอบ
การจบเกมครั้งแรกของเกมเป็นของลิเวอร์พูลเมื่อซาลาห์รับบอลต่อจากการโขกมาของโกเมซก่อนเกี่ยวหนีสโตนส์เข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วซัดด้วยซ้ายเล็งเสาแรกแต่ก็หลุดออกหลังไป
หงส์เตะมุมหลายทียังไม่เสียว
ลิเวอร์พูลได้เตะมุมอยู่หลายครั้งแต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้เท่าไหร่จังหวะนี้มิลเนอร์เปิดมาทางเสาแรกให้ลอฟเรนได้โหม่งแต่ก็โดนไม่เต็มบอลไปตกหน้าประตูแล้วเอแดร์สันรับไม่มีปัญหา
โกเมซทำไร!ลอฟเรนเกือบเสียโทษ
แมน ซิตี้โวยวายจะเอาจุดโทษเริ่มจากโกเมซเตะมั่วมาเข้ากรอบเขตโทษตัวเองอเกวโร่จับได้ก่อนโดนลอฟเรนเตะด้านหลังไม่เต็มเท่าไหร่แล้วดาวยิงอาร์เจนไตน์พยายามลุกขึ้นมาเล่นต่อก็ไม่ได้แล้วกรรมการไม่เป่าให้เป็นการฟาวล์
มิลเนอร์เดี้ยงไวเลย...เกอิต้าลงแทน
เกมต้องหยุดลงชั่วขณะเมื่อมิลเนอร์มีปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณแฮมสตริงขาขวาลงไปนอนอยู่กับพื้นให้หมอลงมาดูอาการแล้วบอกว่าเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนเอานาบี เกอิต้าที่เพิ่งหายเจ็บลงสนามมาแทน
VvD แบกหลังไม่งั้นเสร็จหน้าหนู
ซิตี้ทำชิ่งต่อบอลจังหวะนี้ได้สวยเลยเมนดี้ไหลบอลทางซ้ายไปให้สเตอร์ลิ่งไหลต่อไปให้ซิลบาเกี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายจะได้ยิงอยู่แล้วแต่ฟาน ไดจ์คขยับมาปิดมุมบล็อคเอาไว้บอลออกหลังเสียแค่เตะมุม
จบครึ่งยังยิงไม่ตรงกรอบ
จบเกมในครึ่งแรกเป็นเกมที่อึดอัดแมนเชสเตอร์ ซิตี้ครองบอลได้มากกว่าไม่เยอะโดยทั้งสองทีมไม่มีโอกาสยิงตรงกรอบเลยในช่วงแรกของเกมทำให้โค้ชทั้งสองคนต้องกลับไปแก้เกมกันในช่วงพักครึ่ง
หงส์ลุยดีอดยิงอีก
หงส์แดงลุยมาจังหวะนี้ได้ลุ้นเลยเมื่อมาเน่ลากตลุยไปก่อนแล้วตบให้โรเบิร์ตสันเติมมาปาดเข้ากลางบอลไปกั๊กระหว่างมาเน่กับเกอิต้าสุดท้ายไม่ได้ยิงโดนเตะทิ้งออกไปแบบน่าเสียดาย
เรืออดโทษอีกรอบ
ซิตี้โวยจะเอาจุดโทษอีกจากจังหวะเตะมุมด้านขวาราฮีมโยนมาทางเสาไกลฟาน ไดจ์คกระโดดขึ้นโขกแล้วบอลไปโดนแขนแต่กรรมการเป่าก็จริงแต่ว่าเป็นการฟาวล์ของแฟร์นานดินโญ่ที่เอาแขนไปค้ำกองหลังดัตช์ไว้
มาห์เรซได้ยิงสองหนติด
โอกาสใกล้เคียงที่สุดของเกมนี้เมื่อมาห์เรซโฉบมาเอาบอลได้สวยก่อนเลี้ยงหลอกโรเบิร์ตสันแล้วสับด้วยซ้ายไปทางเสาไกลทันทีบอลผ่านมืออลิสซอนไปแล้วแต่ผ่านหน้าประตูออกไป หลังจากนั้นมาห์เรซมีโอกาสอีกแต่ยิงไปเข้าซองอลิสซอน
เหมือนเดิม!ซาลาห์ยิงเบาเกิ้น
กลับมาเป็นหงส์แดงได้ลุ้นจบจากจังหวะสวนกลับเร็วโกเมซเบิ้ลบอลกลับมาให้ซาลาห์แต่งบอลเข้าซ้ายก่อนยิงนอกกรอบเขตโทษแต่ก็เหมือนเดิมที่บอลเบาเหลือเกินเข้าซองเอแดร์สัน
หมดแล้ว...ซาลาห์หลุดยิงนก
ความมั่นใจหายหมดจริงๆสำหรับซาลาห์จังหวะนี้ได้สวนกลับเร็วโรเบิร์ตสันแทงบอลยาวไปให้ปีกอียิปต์สปีดไปเอาบอลก่อนเมนดี้แล้วเห็นเอแดร์สันออกมาไกลเลยยิงทันทีแต่ก็ซัดข้ามคานไปไหนไม่รู้
มาห์เรซอีกแล้วยิงเสาแรกติดอลิสซอน
แมน ซิตี้ขึ้นเกมกันสวยราฮีมไหลให้แบร์นาร์โด้หลุดไปเปิดในกรอบเขตโทษด้านซ้ายบอลเลยไปทางเสาไกลมาห์เรซขึ้นมาจับบอลก่อนยิงด้วยซ้ายยัดเสาแรกแต่อลิสซอนไม่พลาดทุบออกหลังไปก่อน
หริดโขกเบาไป
โกเมซกลั้นใจกระชากหนีซาเน่ขึ้นมาริมเส้นด้านขวาจนสุดเส้นแล้วเปิดย้อยเข้าไปตรงแถวจุดโทษสเตอร์ริดจ์ที่เพิ่งลงมาได้โหม่งก็จริงแต่บอลเบาเกินไปเอแดร์สันรับเอาไว้สบาย
VvD โล่ง!มาห์เรซกดโทษข้ามคาน
แมน ซิตี้มาได้จุดโทษจนได้จากจังหวะที่ซิลบาแทงบอลทะลุช่องให้ซาเน่หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วฟาน ไดจ์คไม่มีทางเลือกพุ่งมาเสียบล้มลงไปกรรมการเป่าทันทีแล้วเป็นมาห์เรซรับอาสายิงเต็มแรงบอลข้ามคานออกไปแบบไม่น่าเชื่อเป็นการพลาด 4 จาก 6 ครั้งหลังสุดของเขาแล้วด้วย
เจ๊าโนสกอร์นำฝูง 3 ทีม
หมดเวลาการแข่งขันเกมจบลงไปแบบมาสนุกเอาตอนท้ายแบ่งกันคนละแต้มมี 20 นัดเท่ากับเชลซีด้วยเรียกว่าเกมนี้แฟนๆอาจผิดหวังเล็กน้อยเพราะนึกว่าจะยิงกันแหลกเหมือนเดิม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
7.
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
76'
6
10.
เซร์คิโอ อเกวโร่
65'
6
ตัวสำรอง
19.
เลรอย ซาเน่
76'
6
33.
กาเบรียล เชซุส
65'
6
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Mon Oct 08, 2018 04:49, ทั้งหมด 18 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker
