ในเมื่อทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่า ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากมู
มีปัญหามากมาย แต่บอร์ดไม่อยากจ่าย 12 ล้าน
ทำไมไม่ทำแบบนาโปลีไปเลยครับ
ตั้ง โค้ชใหม่ พักงานมู รอจนกว่าจะมีทีมมาสนใจ
แล้วขอยกเลิกสัญญาไปเอง

ทางแก้ปัญหา ผม่ว่ายังมีอีกหลายทาง แต่บอร์ดผี ไม่ยอมเลือกสักทาง
ปล่อยปัญหาให้คาราคาซัง ผลสุดท้ายตัวสโมสรเองมีแต่จะเสียนะครับ
เอาให้สุุดไปเลย ถ้าจะต้องจ่ายก็จ่าย ถ้าไม่อยากจ่ายก็ทำตามแบบนาโปลี

สงสารแฟนบอลที่เค้าเสียตังค์ไปดูทุกนัดบ้างครับ กี่ปีแล้วที่ไม่ได้เล่นเพื่อพวกเขา
ขนาดผมไม่ได้เข้าไปดูที่สนามยังเสียใจ บ้างทียังคิดว่าเสียเวลาดูทำไม
ทำให้อารมณ์หงุดหงิด รอให้สโมสรคิดได้แล้วค่อยมาดูอีกทีแล้วกัน
ไม่รู้ว่าจะคิดได้เมื่อไร

หงุดหงิดแทนแฟนผีเราจริง ๆ ครับ

ขอโทษถ้าความคิดเห็นผมไม่ถูกใจใครนะครับ

ก็บอร์ดนั่นแหละ คือตัวปัญหาตัวนึงมันเชื่อมขึ้นไปส่วนที่เหนือกว่าบอร์ด(เกลเซอร์)​

ถ้าพวกบอร์ดมัวห่วงแต่เรื่องเงิน(ค่าปลด)​ หรือตราบที่ยังทำกำไรงานมันก็สำเร็จแล้วมันก็จบเห่เลย

มันเหมือนสโมสรไม่มีแผนที่จะจัดการเมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ โค้ชสองคนก่อนกว่าจะตัดสินใจก็จนสถานการณ์มันแก้ไม่ได้แล้ว (มันจะเป็นปัญหาให้โค้ชคนใหม่เพิ่มไปอีก)​

จนกว่าบอร์ดจะตัดสินใจได้อย่างถูกต้องนู่นแหละ

ึตั้ง dof เถอะ ละมันจะดีขึ้น

คนทั้งโลกเห็นแต่บอร์ดแมนฯยูไม่เห็น

ใจเย็นท่าน บอร์ดอาจจะรอให้เตะรอบแบ่งกลุ่มUCLจบก่อนก็ได้

เกลเซอร์กับเอ็ดนี่มันดูบอลเป็นหรือเปล่ายังไม่รู้เลย

พวกเกลเซอร์ก็คนเมกัน เอ็ดก็นักธุรกิจ มันสนใจแต่ผลกำไรแล้วแบรนด์ยูไนเต็ดมันขายได้ก่อนพวกมันจะมาสูบกันซะอีก

ตั้งแต่เกลเซอร์เข้ามา เดวิด กิลล์ไปผมว่าทีมก็ตกต่ำลงมาเรื่อยๆ

ถ้ายังเป็นแบบนี้แบรนด์ยูไนเต็ดจะลดคุณค่าลงเรื่อยๆ พวกมันสูบเต็มที่แล้วก็ไป ทิ้งไว้แต่ซากอดีตทีมใหญ่ที่เคยรุ่งเรือง เอาแค่นึกเล่นๆดูว่าถ้าเป็นเด็กที่เพิ่งเริ่มดูบอลมันจะมาเชียร์ทีมนี้เหรอ เผลอๆได้ดูแมนยูเล่นแม่งหันไปดูสนุกเกอร์ยังสนุกกว่า

ก็หวังว่าพวกมันจะไปกันก่อนที่ทีมจะไปถึงขั้นนั้นนะ

ปลดตอนนี้ไม่ได้ครับ เดี๋ยวหุ้นร่วง
ต้องบันทึกเป็นรายจ่ายไป 12 ล้านปอนด์ ไม่ใช่น้อยเลย
ในสัญญาอาจจะมีเงื่อนไขว่า หาก 10 นัดในลีค มีแต้มไม่ถึง 15 แต้ม
จะโดนปลดไรงี้ป่าว รอดู เชื่อว่าบอร์ดน่าจะเคี่ยวอยู่นะ
ไม่ยอมเสียเปล่า

ผมว่าที่ไม่ปลดไม่ใช่เรื่องเงินหรอก แต่ผสมกันระหว่างการให้เกียรติผจก.ทีมจนถึงที่สุดกับการให้โอกาสกับโค้ชที่ตัวเองเลือกเข้ามา

ที่จริงเอ็ดมันก็สนับสนุนมูนั่นแหละ เพียงแต่ปีนี้ตบาดปิดเร็วกว่าปกติ 1 เดือน และประกอบกับนโยบายการซื้อขายที่ผิดพลาดไม่มีตัวเลือก 1, 2, 3 มาทดแทนในกรณีตัวที่หนึ่งว่าวหรือโดนโก่งค่าตัวจนเกินรับได้

ถ้าจะให้ผมด่า อย่างแรกคือเอ็ดมันอ่อนเรื่องซื้อขายมากๆ อ่อนจนขนาดที่วางแนวทางการซื้อนักเตะโดยให้มูคัดชื่อส่งเข้าประกวดมาแค่ 5 ชื่อ ซึ่งที่จริงมันต้องยืดหยุ่นกว่านั้น

อย่างที่สองก็ต้องด่าเอ็ดอีก ที่ไปเอามูมา ทั้งๆที่รู้ว่าสไตล์มูนั้นไม่เหมาะกับแมนยู เหมาะอย่างเดียวคือการหวังผลระยะสั้น

อย่างที่สามก็คือมูนี่แหละ นิสัยคือไม่เปลี่ยนเลยจริงๆกับการด่านักเตะออกสื่อและอีโก้สูง แถมแนวทางการเล่นก็ด่าได้อีกว่าหมดยุคตกสมัย เล่นมา 3 ปีกลับกลายเป็นเริ่มแย่แข่งกับยุคมอยส์ไปซะละ ต่อบอลไปสุดเส้นหลังแล้วจ่ายตัดมาตรงกลางนี่ไม่มีให้เห็นเลย ทั้งๆที่เป็นระบบที่เค้าเล่นมาทุกยุคทุกสมัย และยังใช้ได้ดีในปัจจุบัน นี่พี่แกเล่นโยนกันตั้งแต่นอกกรอบเขตโทษ ชวนคิดไปถึงสโตคซิตี้หรือโบลตันในยุคบิ๊กแซม

ในส่วนนักเตะ ผมไม่ด่านะ ผมว่านักเตะเหมือนจะเล่นแย่ แต่ลึกๆแล้วเกือบทุกคนรักสโมสร (ละอเล็กซิสไว้คนนึง) อย่างป็อกบาที่ด่ากันปาวๆ ผมว่ามันยังรักสโมสรอยู่นะ

ประเด็นสุดท้าย หลายคนคงสงสัยว่าบอร์ดทำอะไรกันอยู่ ผมมั่นใจมากว่าบอร์ดกำลังหารือถึงแนวทางการหาคนมาทำงานแทนมากกว่า เพราะมันไม่ใช่แค่ปลดมูแล้วเอาใครก็ได้มาคุมหรอก คิดแบบนั้นตื้นไป คงมองไปถึงระยะยาวมากกว่าละ ว่าคนที่เหมาะสมจริงๆนั้นมีให้เลือกแค่ไหน และต้องเอามาเทียบกับการใช้มูต่อไปอันไหนแย่กว่ากัน ซึ่งมันต้องใช้เวลา แต่คงไม่เกินปีใหม่หรอก เว้นแต่ว่ามูจะองค์ลงคว้าชัยเรื่อยๆและกลับเข้าสู่เส้นทางที่ควรจะเดินอีกครั้ง

ซึ่ง...ผมมองว่าเป็นไปได้น้อยมาก เพราะปัญหาที่รู้สึกได้คือนักเตะเล่นไม่เอาโค้ชแล้ว

อีกเรื่องที่น่าคิดคือแมนยูไนเต็ดเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหุ้น สถานการณ์ภายใต้การทำทีมของมูปัจจุบันทั้งภาพลักษ์ของทีม ผลงานในสนามถ้าทิ้งไว้เรื่อยๆมันชวนให้ราคาหุ้นตกลงเรื่อยๆ บางคนเบื่อมีความต้องการอยากเทขายไปเล่นหุ้นตัวอื่นดีกว่าเสร็จปุ๊บคนวงในไปช้อนซื้อมาได้จำนวนพอสมควร สักพักประกาศปลดมู ตั้งผู้จัดการทีมระดับโลกสักคนพร้อมนโยบายทุ่มซื้อนักเตะสำหรับแผนการทำทีมผจก.ทีมใหม่สักพักหุ้นขึ้นตามเกมที่วางไว้

เห้นด้วยกะท่านนะ​ อยุ่ดีๆจะปลดได้ไง​ ไหนจะต้องประชุมกันก่อน​ ดูหุ้นสโมสร​ ทิศทางของทีมอีกหลายๆอย่าง​